บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
4.7K
3 นาที
25 กุมภาพันธ์ 2564
ส่อง! ร้านสะดวกซื้อในเครือซีพี “7-Eleven - Lotus´s go fresh - Makro” 
 

ในวันนี้เครือซีพีถือว่าเป็นผู้รายใหญ่ในธุรกิจ “ร้านสะดวกซื้อ” และ “ซูเปอร์มาร์เก็ต” ด้วยจำนวนสาขามากที่สุดในประเทศไทย หลังจากได้ทำการซื้อกิจการโลตัสจากกลุ่มเทสโก้เสร็จเรียบร้อย เครือซีพีได้มีการเปลี่ยนชื่อและโลโก้ใหม่ พร้อมสีสันที่สดใสกว่าเดิม โดยใช้ชื่อว่า Lotus´s พร้อมสโลแกน รู้สึกดีดี ทุกวัน ที่โลตัส และสีสันใหม่ที่ดูสดใสกว่าเดิม

Lotus´s go fresh
 
ภาพจาก bit.ly/3sriuLC

สำหรับการเปิดตัวแบรนด์โลโก้ใหม่ครั้งนี้ อยู่ที่สาขาเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา หลังจากนี้น่าจะเห็นโลตัสทยอยเปลี่ยนชื่อ โลโก้ และสีสัน ไปเรื่อยๆ ขณะที่ Lotus Express ก็ได้เปลี่ยนเป็น Lotus´s go fresh ประเดิมสาขาแรกที่เอกชัย 99 ซึ่งเป็นร้านค้ารูปแบบสะดวกซื้อขนาดเล็ก เน้นการมอบสินค้าอาหารสุดคุณภาพสูงอย่างครบครัน พร้อมสินค้าที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวัน ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุค New Normal ที่ขยับมาซื้ออาหารสดในร้านขนาดเล็กที่ใกล้บ้านมากกว่าเดิม
 
อย่างไรก็ตาม หลังจากการความรวมและเปลี่ยนชื่อ Lotus Express มาเป็น Lotus´s go fresh กลุ่มซีพีมีวิธีการแบ่งเซ็กเมนต์ค้าปลีกไซต์เล็กอย่างไรให้กินตลาดกันน้อยที่สุด แม้ว่ากลุ่มลูกค้าจะเป็นคนละกลุ่ม แต่สามารถใช้บริการร่วมกันได้ โดยเฉพาะอาหารสด ผลไม้ และอื่นๆ โดยปัจจุบัน Lotus´s go fresh มีจำนวนกว่า 1,635 สาขา

ภาพจาก bit.ly/3sriuLC
 
ภายใน 2-3 ปีจะเปิดเพิ่มอีก 750 สาขา หรือเฉลี่ยปีละ 250 สาขา เพื่อขยายสาขา Lotus´s go fresh มากกว่า 2,350 สาขา แม้ตลาดไทยจะมีร้านสะดวกซื้ออยู่แล้วกว่า 20,000 สาขา แต่หากเทียบกับอัตราการให้บริการต่อสาขากับประชากร จึงมองว่าประเทศไทยยังมีโอกาสเปิดร้านสะดวกซื้อได้อีกมาก
 
ปัจจุบันสาขา Lotus´s go fresh ได้มีการกระจายอยู่ในทำเลชุมชน ตรอกซอย ใกล้ผู้บริโภค เป้าหมายเปิดสาขาอีก 3 ปีข้างหน้าก็ต้องขยับเข้าไปใกล้ผู้บริโภคให้มากขึ้นอีก รวมทั้งทำเลในเมืองริมถนน ก็ต้องขยายด้วย เพราะผู้บริโภคที่อยู่ระหว่างเดินทาง ก็เป็นกลุ่มเป้าหมายเช่นกัน นอกจากพื้นที่ใกล้ที่อยู่อาศัย
 
ที่ผ่านมา Tesco Lotus มีค้าปลีก 2 ฟอร์แมต รวม 2,135 สาขา คือ ไซส์ใหญ่ ไฮเปอร์มาร์เก็ตและซูเปอร์มาร์เก็ต รวม 400 สาขา และไซส์เล็ก คอนวีเนียน สโตร์ 1,635 สาขา ต้องยอมรับว่าไฮเปอร์มาร์เก็ตทั้งอุตสาหกรรมเป็นฟอร์แมตที่ ไม่เติบโต
 
7-Eleven
 
ภาพจาก bit.ly/2ZL0sYe

นอกจากเครือซีพีจะมี Lotus´s go fresh อยู่ในมือแล้ว ยังมีร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ของซีพีออลล์ ที่มีจำนวนสาขามากที่สุดในประเทศไทย ปัจจุบัน 7-Eleven มีจำนวนสาขา 12,225 สาขาทั่วประเทศ โดยในปี 2564 ตั้งเป้าขยายสาขาร้านสะดวกซื้อใหม่ให้ได้ประมาณ 700 สาขา โดยใช้งบประมาณการลงทุนประมาณ 11,500-12,000 ล้านบาท
 
สำหรับในปี 2563 ที่ผ่านมา ธุรกิจร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven มีรายได้รวม 300,705 ล้านบาท ลดลง 33,356 ล้านบาท หรือคิดเป็น 10% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีที่ผ่านมา โดยมีกำไร 83,724 ล้านบาท ลดลง 10,103 ล้านบาท หรือคิดเป็น 10.8% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีที่ผ่านมา ซึ่งรายได้ที่ลดลงมาจากการระบาดของโควิด-19 

Makro
 
ภาพจาก bit.ly/3aP3FMP

“เครือซีพี” เครือซีพียังมีร้านสะดวกซื้อภายใต้แบรนด์ “แม็คโคร” โดยมีการขยายสาขาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามแหล่งชุมชนต่างๆ ทั่วประเทศ จากเดิมที่จะเน้นเปิดสาขาขนาดใหญ่ในรูปแบบไฮเปอร์มาร์เก็ตและซูเปอร์มาร์เก็ต 
 
MAKRO เป็นศูนย์จำหน่ายสินค้าแบบชำระเงินสดและบริการตนเอง (Cash and Carry) ในประเทศไทยนั้นมี MAKRO บริษัทเดียวที่ดำเนินธุรกิจลักษณะนี้ โดยสินค้าส่วนใหญ่ที่ MAKRO ขายนั้นเป็นสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น
 
MAKRO เปิดสาขาแรกในประเทศไทยในปี 2532 และขยายสาขามาอย่างต่อเนื่องนับจากนั้น โดยในปัจจุบัน MAKRO มีลูกค้าสมาชิกมากกว่า 3.0 ล้านราย สิ้นปี 2563 พบว่า MAKRO มีสาขาในประเทศไทย 136 สาขา โดย 26% จะอยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล และ 74% จะตั้งอยู่ในต่างจังหวัด 


ภาพจาก bit.ly/3aP3FMP
 
หากย้อนกลับไปในปี 2556 ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของ MAKRO เมื่อ CPALL ผู้ดำเนินธุรกิจร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ได้เข้ามาซื้อหุ้นจากบริษัท SHV จากเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นเดิม มูลค่าการซื้อกิจการในครั้งนั้นสูงถึง 1.8 แสนล้านบาท และนับเป็นหนึ่งในดีลประวัติศาสตร์การซื้อกิจการในประเทศไทยเลยทีเดียว
 
การที่ธุรกิจของ MAKRO มีการเติบโตนอกจากการขยายสาขาแล้วนั้น อีกส่วนยังเกิดจากการขยายตัวของภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศ และการเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่เรียกว่า HORECA (โฮเรก้า) โดยลูกค้ากลุ่มนี้หมายถึง ลูกค้าในกลุ่มธุรกิจโรงแรม (Hotel) ร้านอาหาร (Restaurant) รวมไปถึง การจัดเลี้ยง (Catering) ซึ่งปัจจุบัน ลูกค้ากลุ่ม HORECA มีสัดส่วนประมาณ 27% ของรายได้ของ MAKRO หรือเกือบ 57,000 ล้านบาท
 
ล่าสุดยักษ์ใหญ่ “แม็คโคร” เปิดตัวร้านโมเดลใหม่ “Fresh@makro” ตั้งอยู่ในโครงการ อีส พาร์ค (Ease Park) คอมมูนิตี้มอลล์บนถนนรามอินทรา กม.4.5 โดยร้าน “Fresh@makro” รามอินทรา มีพื้นที่ราว 500-600 ตร.ม. เปิดบริการสัปดาห์ที่ผ่านมาเน้นสินค้าอาหารสด เกรดพรีเมี่ยม คาดเป็นการขยายฐานลูกค้าเจาะกลุ่มผู้บริโภคโดยตรงมากขึ้น 
 
จากฐานลูกค้าหลักผู้ประกอบการรายย่อย ร้านอาหาร ภัตตาคาร เป็นการแตกไลน์สร้างโอกาสใหม่ ไม่ต่างจากการพัฒนาโมเดล makro food service เน้นขายอาหารและของสดเป็นสาขาขนาดเล็ก มีพื้นที่ 1,000-3,000 ตารางเมตร เจาะทำเลในชุมชนต่างๆ และโลเคชั่นที่มีร้านอาหารเยอะๆ เป็นรูปแบบสาขาเล็ก เน้นขายสินค้าประเภทอาหารสด ที่เฉพาะเจาะจงมากกว่าสาขาใหญ่ที่มีขนาดพื้นที่ 10,000 ตารางเมตรขึ้นไป และขายสารพัดสินค้ามากมาย

และด้วยขนาดร้านที่เล็กทำให้ makro food service สามารถขยายสาขาได้ง่าย และตรงกลุ่มเป้าหมายในโลเคชั่นที่ตัวเองต้องการ แถมแพลตฟอร์มนี้ไม่ได้จำกัดลูกค้าแค่กลุ่มผู้ประกอบการและสมาชิกกว่า 3 ล้านราย แต่ลูกค้าทั่วไปก็สามารถที่จะเข้าไปช้อปปิ้งได้

ภาพจาก bit.ly/3pUEfSd
 
ส่วนแพลตฟอร์มต่อมา ก็คือ ร้าน SIAMFROZEN เป็นร้านขนาดเล็กเหมือนกัน แต่จะเน้นขายอาหารแช่แข็งเป็นหลักและให้บริการทั้งขายส่งและกลุ่มลูกค้าคนทั่วไป ส่วนแพลตฟอร์มร้านแบบสุดท้ายก็คือ siam food service เน้นขายอาหารและวัตถุดิบนำเข้า ระดับพรีเมียม เจาะกลุ่มลูกค้าผู้ประกอบการโรงแรม และร้านอาหาร
 
ปัจจุบัน “แม็คโคร” มีเครือข่ายทั่วประเทศราวๆ ประมาณ 136 สาขา ปิดให้ให้บริการในรูปแบบคลาสสิกซูเปอร์มาร์เก็ตทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดประมาณ 79 สาขา, อีโค พลัส 15 สาขา, ฟู้ดเซอร์วิส 26ม สาขา, ฟู้ดช้อป 5 สาขา, สยามโฟรเซ่น 7 สาขา และเฟรชแอทแม็คโคร 1 สาขา โดยมีฐานสมาชิกมากกว่า 3 ล้านราย 
 
ทั้งนี้ หากเปรียบเทียบเมื่อ 5-6 ปีที่แล้ว ในช่วงที่ซีพีออลล์เข้าซื้อกิจการนั้น makro มีเพียง 57 สาขา แต่ในวันนี้มีถึงมากกว่า 136 สาขา ทั้งสาขาขนาดเล็กและขนาดใหญ่ มีกลุ่มเป้าหมายร้านโชห่วย โรงแรม ร้านอาหาร และผู้บริโภคทั่วไป
 
สรุปก็คือ ร้านสะดวกซื้อในเครือซีพี ทั้ง 7-Eleven, Lotus´s go fresh และ Makro ไม่ได้เป็นคู่แข่งขันกันโดยตรง เนื่องจากแต่ละแบรนด์มีฐานกลุ่มลูกค้าค่อนข้างแตกต่างกัน แต่ไม่ว่าใครจะชนะหรือได้เปรียบ ผลประโยชน์ก็จะตกอยู่กับ “เครือซีพี” 
 
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
 
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
 
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ www.thaifranchisecenter.com/document/index.php 
 
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter
 
คนที่มีพื้นที่ว่างเปล่าอยากเปลี่ยนให้เป็นรายได้ ยิ่งเป็นพื้นที่ที่อยู่ในทำเลที่ดี ยิ่งมั่นใจว่าพื้นที่ตรงนี้ถ้าปล่อย “ให้เช่า” ต้องมีคนสนใจ แต่คำถามคือเราจะเลือกปล่อยพื้นที่เช่าให้กับใครเพื่อจะได้ประโยชน์สูงสุด หลายความเห็นบอกว่า ปล่อยให้ 7-Eleven มาเช่าน่าจะคุ้มค่า ทำไมถึงคิดอ..
54months ago   3,554  6 นาที
แม้ว่าร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven จะมีการเติบโตและขยายสาขาเพิ่มอย่างต่อเนื่องในหลายๆ ประเทศ แต่สำหรับประเทศอินโดนีเซียกลับเป็นดินแดนต้องห้ามสำหรับ 7-Eleven แม้จะมีประชากรมากกว่า 267.7 ล้านคน..
55months ago   2,067  3 นาที
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
610
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
508
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
476
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
426
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
412
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
406
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด