ดาวเด่นแฟรนไชส์    "ชาวดอย" ฝ่าวิกฤตตลาดกาแฟแข่งดุ พลิกกลยุทธ์ขยายสาขาควบธุรกิจอื่น
11K
24 ตุลาคม 2551
"ชาวดอย" ฝ่าวิกฤตตลาดกาแฟแข่งดุ พลิกกลยุทธ์ขยายสาขาควบธุรกิจอื่น

 
'กาแฟชาวดอย' ยืนยันรุกจับตลาดล่าง ชูกลยุทธ์สร้างความแตกต่าง ใช้วัตถุดิบและการตกแต่งร้านแยกเซ็กเม้นท์ชัด หลบมรสุมพัฒนารูปแบบร้านชัดเจนขึ้นหลังเจอพิษตลาดแข่งดุส่ง ผลหดเหลือแค่ 5 สาขา ฮึดตั้งเป้าปีนี้ขยาย 25 สาขา มุ่งกลุ่มเป้าหมายแฟรนไชซีที่มีร้านกาแฟของตัวเองมาก่อน แต่ประสบปัญหาด้านโนว์ฮาว และแบรนดิ้ง พลิกเกมใหม่ขยายสาขาควบคู่ธุรกิจอื่น 
 
กฤษณรักษ์ อธิฐานดวงดาว ผู้จัดการฝ่ายธุรกิจแฟรนไชส์ บริษัท อัลติเมท เบเวอร์เรต โปรดักส์ จำกัด ผู้ให้บริการร้านไนท์ตี้โฟร์คอฟฟี่ และกาแฟชาวดอย กล่าวว่า แบรนด์กาแฟชาวดอยเกิดขึ้นหลังจากที่บริษัทฯ ได้เปิดตัวกาแฟไนท์ตี้โฟร์คอฟฟี่มาได้ระยะหนึ่ง เพราะมองว่าตลาดกาแฟระดับล่างยังมีตลาดใหญ่ทั้งในแง่ของผู้ประกอบการ และผู้บริโภคซึ่งต้องการลงทุนและสินค้าไม่แพง 
 
โดยบริษัทฯ ได้สร้างความแตกต่างของกาแฟชาวดอยกับกาแฟไนท์ตี้โฟร์คอฟฟี่ ด้วยการใช้วัตถุดิบคนละประเภทและการตกแต่งร้านคนละสไตล์ สำหรับการขยายสาขาของกาแฟชาวดอยหลังจากเริ่มทำธุรกิจมาประมาณหนึ่งปีเศษ ขณะนี้ยังอยู่ในช่วงของการแก้ไขปัญหา และการพัฒนาเพื่อให้รูปแบบร้านมีความชัดเจน 
 
สำหรับร้านกาแฟชาวดอย ขณะนี้เปิดแล้ว 5 สาขาในรูปแบบรถเข็นทั้งหมด โดยก่อนหน้านี้เปิดมาแล้ว 10 สาขาแต่บริษัทฯ ต้องทยอยปิดลง เพราะกลุ่มเป้าหมายไม่ชัดเจน จึงต้องปรับแนวทางและกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่เหมาะกับกาแฟชาวดอยอย่างแท้จริง 
 
"เรามองว่ากาแฟชาวดอยควรจะใช้กลยุทธ์การขายควบคู่กับธุรกิจใดธุรกิจหนึ่ง เช่น เปิดคู่กับร้านขายหนังสือ ร้านถ่ายรูป ร้านขายเทป หรือร้านถ่ายเอกสาร เพราะกลุ่มเป้าหมายของเราคือกลุ่มคนทั่วไปทุกระดับจริงๆ หรือกลุ่มที่พัฒนามาจากการดื่มกาแฟโบราณและพร้อมจ่ายมากกว่า เพื่อให้ได้กาแฟคุณภาพดีกว่า รสชาติอร่อยกว่า" 
 
ส่วนการขยายสาขากาแฟชาวดอยในอนาคต มีแผนที่จะขยายไปต่างจังหวัดมากกว่ากรุงเทพฯ เช่น ตราด นครปฐม ฯลฯ และคาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะขยายได้ 25 สาขา โดยจับกลุ่มเป้าหมายแฟรนไชซี่คือผู้ที่มีร้านกาแฟเป็นของตัวเอง แต่ประสบกับปัญหาทางด้านโนว์ฮาว การทำแบรนดิ้ง 
 
กฤษณรัตน์ กล่าวต่อว่า สำหรับทำเลในการขยายสาขาของกาแฟชาวดอยถือว่าค่อนข้าง เปิดกว้างไม่ยึดติดกับทำเลใดทำเลหนึ่งโดยเฉพาะ ส่งผลให้สามารถขยายสาขาไปสถานที่ต่างๆ ได้ทุกแห่ง เพราะราคาจำหน่ายระดับ 20-40 บาทต่อแก้ว ค่อนข้างจะตอบสนองความต้องการของลูกค้าวงกว้าง อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ตั้งเป้าพื้นที่ซึ่งเหมาะสำหรับการขยายสาขา อาทิ ตามศูนย์การค้า ศูนย์อาหาร ห้างสรรพสินค้า สถาบันการศึกษา สถานีบริการน้ำมัน และมหาวิทยาลัยต่างๆ ฯลฯ 
 
"การแข่งขันของตลาดกาแฟระดับล่างขณะนี้นับว่าค่อนข้างรุนแรง เพราะหากใครต้องการลงทุนทำธุรกิจ มักจะคิดถึงกาแฟกิจการเป็นอันดับต้นๆ ขณะที่ผู้บริโภคกลุ่มนี้ค่อนข้างอ่อนไหวในเรื่องราคา เป็นหลักจึงทำให้เกิดการตัดราคากันมาก ปัจจุบันตลาดกาแฟระดับล่างมีราคาหลากหลายเริ่มต้นที่ 10-15 บาท ซึ่งรสชาติของกาแฟมีผลบ้าง สำหรับเรื่องของแบรนด์มีผลในการตัดสินใจซื้อระดับหนึ่ง แต่เรื่องภาพลักษณ์ และการตกแต่งร้าน ลูกค้ากลุ่มนี้ไม่มีความต้องการมากนัก" กฤษณรัตน์กล่าวสรุป สนใจธุรกิจติดต่อโทร.0-2933-4191-4
 
อ้างอิงจาก: ผู้จัดการออนไลน์
ดาวเด่นแฟรนไชส์ยอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
รวบรวมขนมปัง 20 บาท มาเอาใจคนอยากมีร้าน
156,558
ชานมไข่มุกปลุกตลาด 7 พันล้าน เทรนด์‘ไต้หวันกลับซ..
99,324
กาแฟสด ชาวดอย ลงทุนน้อย ความเสี่ยงต่ำ ความคล่องต..
81,017
เนสท์เล่ ปูพรมร้านไอศกรีมลงทุนเอื้ออาทร สานฝันคน..
77,255
ปั่นแหลก น้ำผลไม้สด แซงโค้งเข้าวินสร้างอาชีพ
76,394
“เคพีเอ็นพลัส” แฟรนไชส์อะไหล่มอ’ไซด์ ลั่นขยาย100..
54,418
ดาวเด่นแฟรนไชส์มาใหม่
ดาวเด่นแฟรนไชส์อื่นในหมวด