ดาวเด่นแฟรนไชส์    ชานมไข่มุกปลุกตลาด 7 พันล้าน เทรนด์‘ไต้หวันกลับซ้ำรอยอดีต
99K
3 มีนาคม 2555
ชานมไข่มุกปลุกตลาด 7 พันล้าน เทรนด์‘ไต้หวันกลับซ้ำรอยอดีต
 
 
 
ตลาดชาสไตล์ไต้หวัน ถือเป็นเทรนด์ที่เคยเกิดขึ้นแล้วในเมืองไทย แต่ด้วยกระแสแรงของตลาดในตอนนั้น ทำให้มีผู้เล่นเข้ามาหลายราย รวมทั้งสินค้าคุณภาพต่ำและหลายเจ้าที่ไม่สามารถรักษามาตรฐานของรสชาติได้ ทำให้หลายรายจึงต้องตายไปจากตลาด

10 ปีของตลาดชานมไข่มุกเหลือเพียงรายที่แข็งแกร่งซึ่งมีจุดเด่นของการใช้ชาจากไต้หวันแท้อยู่ไม่กี่ราย โดยรายที่เป็นผู้นำตลาด อย่างเด่นชัดคือ “มิสเตอร์เชค” (Mr.Shake) และวันนี้ตลาดชาจากไต้หวัน หรือที่เรียกคุ้นปากคนไทยว่า “ชานมไข่มุก” กำลังกลับมาบูมอีกครั้ง จากรายเล็กๆ ที่เปิดขึ้นมาใหม่ และรายใหญ่ในวงการอาหารเครือซูกิชิ ที่ลงมาเล่นตลาดนี้อย่างจริงจัง
 
“วาวาชา” หว่าน 200 สาขาใน 3 ปี

นางสาวลลินทิพย์ จิรวราพันธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซูกิชิ อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด เจ้าของแบรนด์ “วาวาชา” เปิดเผยว่า เทรนด์ของอาหารและชานมไต้หวันเป็นที่น่าสนใจของตลาด บริษัทจึงได้ขยายธุรกิจร้านอาหาร มาสู่ร้านวาวาชา เป็นร้านชาสไตล์ไต้หวัน เพื่อจับกลุ่มเป้าหมายนักเรียน นักศึกษา และคนทำงานรุ่นใหม่ โดยเริ่มสาขาแรกที่สยามสแควร์ซอย 11 และขยายจนมี 9 สาขาในปีที่ผ่านมา ในปีนี้คาดว่าจะเพิ่มอีก 20 สาขา ในห้างสรรพ สินค้าชั้นนำ มหาวิทยาลัย โรงพยาบาลและแหล่งชุมชน โดยใน 3 ปีนี้ มีเป้าหมายขยายสาขาให้ครบ 200 แห่งทั่วประเทศ


 
สำหรับตลาดเครื่องดื่มชาในประเทศไทย ทั้งแบบชงและบรรจุขวดมีมูลค่ากว่า 7.8 พันล้านบาท มีอัตราการเติบโต 15% โดยกลุ่มชาชงสดจากไต้หวันถือเป็นตลาดที่น่าสนใจ เนื่องจากมีคู่แข่งไม่มากนัก อีกทั้งกระแสด้านสุขภาพยังเข้ามากระตุ้นตลาดชาในรูปแบบนี้ โดยผู้บริโภคเริ่มมีความรู้เรื่องชาจากไต้หวันมากขึ้น และสามารถแยกความแตกต่างจากชาเขียวญี่ปุ่นได้ ปัจจุบันวาวาชามีจำหน่าย 9 หมวด รวมกว่า 40 รายการ ทั้งชาจากไต้หวัน ฮ่องกง และญี่ปุ่น ราคา 40-60 บาท

โดยในทุกเดือนจะมีโปรโมชั่นไม่ซ้ำกัน รวมทั้งโปรโมชั่น ซื้อ 1 แถม 1 สำหรับวันเปิดสาขาใหม่ นอกจากนั้นจะใช้งบประมาณทางการตลาด 10 ล้านบาท เพื่อสร้างแบรนด์ในปีนี้ โดยวางเป้าหมายยอดขายปีแรกที่ 30 ล้านบาทในปีแรก“แม้ว่าตลาดชานมไต้หวันจะมีคู่แข่งอยู่บ้าง แต่เนื่องจาก ‘วาวาชา’ เป็นแบรนด์น้องใหม่ในเครือซูกิชิ ซึ่งประสบความสำเร็จในธุรกิจร้านอาหารปิ้งย่างสไตล์เกาหลีและอาหารญี่ปุ่นมาถึง 11 ปี ความเชี่ยวชาญในการทำตลาด และความชำนาญในการคัดเลือกวัตถุดิบ จะเป็นเส้นทางการเติบโตของวาวาชาได้เป็นอย่างดี”
 

 
เจ้าตลาดชี้กระแสอดีตซ้ำรอย

นางณชญาดา ชูชัยศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท มิสเตอร์ เช็ค จำกัด เปิดเผยว่า “ตลาดชานมไข่มุกกลับมาบูมอีกครั้งเหมือนเมื่อ 12 ปีที่แล้ว ซึ่งในตอนนั้นมีการแข่งขันสูงมาก ซึ่งมิสเตอร์เชค ถือเป็นแบรนด์แรกที่เข้ามาปลุกตลาดจนได้รับความนิยม ส่งผลต่อแบรนด์คู่แข่งที่เพิ่มมากขึ้น แต่สุดท้ายแล้วกระแสของชานมไข่มุกก็อยู่ได้เพียง 2-3 ปีแล้วหายไป เหลือเพียงแบรนด์ที่มีความแข็งแกร่งอยู่ในตลาดเพียงไม่กี่แบรนด์ ซึ่งมิสเตอร์เชคถือเป็นเจ้าตลาดที่อยู่มานานถึง 12 ปี การกลับมาบูมอีกครั้งของตลาดชานม ซึ่งมีรายใหม่เข้ามาทำตลาดอย่างจริงจังนั้น จะไม่เห็นภาพการแข่งขันที่รุนแรงเท่ากับช่วงแรก

ส่วนการที่เทรนด์นี้จะกลับมาอีกครั้ง คงเพราะมีผู้ประกอบการอยากทำธุรกิจของตัวเองมากขึ้น จึงหันมาจับตลาดชานม ซึ่งยังมีกลุ่มผู้ที่นิยมดื่มอยู่ในตลาด ซึ่งคาดว่าน่าจะเห็นภาพความคึกคักอีกประมาณ 2-3 ปี จากนั้นเจ้าที่ไม่แข็งแกร่งจริงก็จะหายไปเหมือนในอดีต ขณะที่รายหลักก็ยังคงทำตลาดต่อไปโดยไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากลูกค้ามีความภักดีต่อแบรนด์”

“กรณีคู่แข่งแบรนด์ใหม่ที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจร้านอาหารมาก่อนเข้ามาทำตลาดชานมไข่มุก ตีตลาดกับเรานั้น เรามองว่าใครอยากทำธุรกิจอะไรก็ทำไป เพราะเราไม่แข่งกับเขา เราอยากอยู่แบบสมถะ และเรามองว่าลูกค้าที่ยังคงชอบแบรนด์ และติดใจในรสชาติของมิสเตอร์ เชคยังคงมีอยู่อีกมาก ซึ่งก็เปรียบได้กับเอ็มเค สุกี้ ซึ่งเป็นเจ้าแรกๆ ในการทำตลาดสุกี้ยังจริงจัง แม้จะมีแบรนด์ใหม่ๆ อาทิ ฮอตพอต เข้ามาแข่งขัน แต่เอ็มเคก็ยังอยู่ได้เพราะยังมีลูกค้าที่ชื่นชอบในความเป็นเอ็มเคอยู่ ดังนั้น ธุรกิจของมิสเตอร์เชคก็จะเป็นรูปแบบนั้นเช่นกัน”
 
สำหรับผลกระทบจากการเข้ามาของแบรนด์ใหม่ ส่งผลต่อยอดขายของมิสเตอร์เชคที่ลดลงประมาณ 10-20% เนื่องจากลูกค้าหันไปทำการทดลองแบรนด์ใหม่ แต่คาดว่าลูกค้าที่ชื่นชอบในรสชาติของมิสเตอร์เชค จะกลับมาเหมือน เดิมหลังจากผ่านช่วงทดลองไปแล้ว ซึ่งมิสเตอร์เชคก็ไม่ได้มีการจัดกลยุทธ์ใดๆเป็นพิเศษ แต่คงต้องจับตาดูว่า คู่แข่งรายใหม่จะมีกลยุทธ์อย่างไรต่อไป และ 4 เดือนหลังจากนี้จะมีผลกระทบอะไรเกิดขึ้นอีกบ้าง แต่จะไม่ใช้กลยุทธ์ซื้อ 1 แถม 1 แบบที่คู่แข่งรายใหม่ทำ เนื่องจากตลอด ระยะเวลาที่ผ่านมามิสเตอร์เชคไม่เคยทำโปรโมชั่นในลักษณะนั้นเลย

 

“โอชายะ” ย้ำกระแสนี้มีลูกค้าตัวจริง

ด้าน “โอชายะ” (Ochaya) เป็นอีกแบรนด์ที่ชูจุดเด่นของชาจากไต้หวันที่ชงสด ต้มสด โดยมีร้านแฟรนไชส์กระจายอยู่กว่า 60 สาขาทั่วกรุงเทพฯ เป็นอีกเจ้าที่กำลังมาแรง “คุณเพ็ญ” หนึ่งในเจ้าของแฟรนไชส์โอชายะ เปิดเผยว่า เหตุผลของการเลือกทำธุรกิจนี้เป็นเพราะเห็นว่าประเทศไทยเป็นเมืองร้อน มีอากาศร้อนอบอ้าวเกือบตลอดปี ดังนั้นธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องดื่ม ซึ่งเป็นเรื่องใกล้ตัวจึงน่าจะสามารถเติบโตได้ดีในไทย

แม้ธุรกิจประเภทนี้ซึ่งเคยเป็นที่นิยมเมื่อ 10-12 ปีก่อนและได้เสื่อมความนิยมไปครั้งหนึ่งแล้ว แต่อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเรื่องปกติสำหรับความนิยมของผู้บริโภคในเรื่องหนึ่งๆ ที่จะมีขึ้นและลงเป็นวัฏจักร ด้านกลยุทธ์การตลาดนั้น จะมุ่งเป้าไปที่กลุ่มนักเรียน นักศึกษาและคนทำงาน จากนั้นจึงมองหาทำเลที่ตั้งร้านในบริเวณที่มีกลุ่มคน

ดังกล่าวอยู่ และเหตุผลที่เลือกแฟรนไชส์นี้ (Ochaya) เนื่องจากเห็นว่าเครื่องดื่มของแบรนด์นี้ มีความแตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ โดยเฉพาะกลิ่นชาที่หอมเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งหากมองในระยะยาวแล้ว หลังจากนี้ความนิยมของผู้บริโภคที่มีต่อธุรกิจชานมคงจะเริ่มลดลงอีกครั้ง แต่จะไม่ถึงกับหมดความนิยมโดยสิ้นเชิง เพราะผู้บริโภคส่วนหนึ่งยังคงมีความชอบที่จะดื่มเครื่องดื่มชนิดนี้อยู่

อ้างอิงจาก สยามธุรกิจ
ดาวเด่นแฟรนไชส์ยอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
รวบรวมขนมปัง 20 บาท มาเอาใจคนอยากมีร้าน
156,550
กาแฟสด ชาวดอย ลงทุนน้อย ความเสี่ยงต่ำ ความคล่องต..
81,016
เนสท์เล่ ปูพรมร้านไอศกรีมลงทุนเอื้ออาทร สานฝันคน..
77,251
ปั่นแหลก น้ำผลไม้สด แซงโค้งเข้าวินสร้างอาชีพ
76,394
“เคพีเอ็นพลัส” แฟรนไชส์อะไหล่มอ’ไซด์ ลั่นขยาย100..
54,408
แฟรนไชส์ชาไข่มุก ไอ-ฉะ ตอบโจทย์เพื่อคนอยากมีธุรก..
52,267
ดาวเด่นแฟรนไชส์มาใหม่
ดาวเด่นแฟรนไชส์อื่นในหมวด