ดาวเด่นแฟรนไชส์    “ผลทิพย์ฯ” แฟรนไชส์ผลไม้แช่อิ่ม ยกเครื่องฝรั่งแช่บ๊วยเจ้าดัง ซ...
32K
26 ตุลาคม 2553

“ผลทิพย์ฯ” แฟรนไชส์ผลไม้แช่อิ่ม ยกเครื่องฝรั่งแช่บ๊วยเจ้าดัง ซ.อารีย์
 

 

       หลายปีก่อน ฝรั่งแช่บ๊วย เจ้าดังใน ซ.อารีย์ สร้างความแปลกใจให้กับคนทั่วไป เมื่อได้รู้ข้อมูลยอดขาย จำนวนเป็นพันๆ ลูกต่อวัน และล่าสุด จากความร่วมมือทางธุรกิจ นำฝรั่งแช่บ๊วยมาต่อยอดอีกครั้ง คลอดเป็นแฟรนไชส์ใหม่ ในแบรนด์ "ผลทิพย์ (แม่จรรยา)” โดยชูผลไม้แช่อิ่มเป็นพระเอกหน้าใหม่ 

  
จรรยา อินทร์รักษ์ หุ้นส่วนธุรกิจ

       แนวคิดแฟรนไชส์ผลไม้แช่อิ่ม “ผลทิพย์ฯ” เกิดจากการร่วมธุรกิจระหว่าง “สุรพงษ์ อากาศวิภาต” กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินนิเทค จำกัด ผู้ผลิตอุปกรณ์เครื่องใช้พลาสติก กับร้านฝรั่งแช่บ๊วยชื่อดัง อายุกว่า 40 ปี ในซอยอารีย์ โดยสุรพงษ์รับผิดชอบด้านการตลาด บริหารจัดการ ขณะที่หุ้นส่วนรับผิดชอบด้านวัตถุดิบ
      
       สุรพงษ์ อธิบายเสริมว่า ส่วนตัวเป็นเพื่อนกับ “จรรยา อินทร์รักษ์” ภรรยาเจ้าของร้านฝรั่งแช่บ๊วยชื่อดัง ทำให้เห็นว่า ธุรกิจของตน สามารถเชื่อมประโยชน์กับธุรกิจฝรั่งแช่บ๊วยได้ ในการผลิตคีออส และใช้ประสบการณ์ด้านตลาดมาบริหารจัดการแฟรนไชส์ โดยทางร้านฝรั่งแช่บ๊วยได้ประโยชน์มีช่องทางปล่อยวัตถุดิบผลไม้เพิ่มขึ้น การร่วมมือดังกล่าวจึงเกิดขึ้น
      
       “จุดเด่นของ “ผลทิพย์ฯ” อยู่ที่คุณภาพผลไม้ สด อร่อย ทั้งวัสดุดิบ และสูตรเหมือนกับที่ขายในร้าน ซ.อารีย์เลย ทำให้ลูกค้าเชื่อใจ เพราะรู้จักเป็นอย่างดีอยู่แล้ว เราแค่นำมาปรับโฉม และสร้างแบรนด์ใหม่ ชูผลไม้แช่อิ่ม เป็นพระเอกของแฟรนไชส์ เพราะเป็นข้อตกลงระหว่างกัน ป้องกันไม่ให้ไปแย่งตลาดของร้านฝรั่งแช่บ๊วย และเราอยากนำเสนอว่า ผลไม้แช่อิ่มก็อร่อยไม่แพ้กัน แต่เราก็มีเมนูฝรั่งแช่บ๊วยขายด้วย เพื่อเป็นทางเลือกให้ลูกค้า”

   
 

ผลไม้แช่อิ่ม สินค้าของแฟรนไชส์ “ผลทิพย์ฯ” 
 
       ทั้งนี้ แฟรนไชส์ “ผลทิพย์ฯ” เปิดตัวเหมือนปลายเดือนพฤศจิกายนนี่เอง มีเงื่อนไขการลงทุนเริ่มแรก 30,000 บาท ได้รับคีออส์ และอุปกรณ์ครบชุด พร้อมกับผลไม้ชุดแรกสำหรับเริ่มต้นธุรกิจ (ผลไม้บรรจุเต็มคันประมาณ 30 กิโลกรัม) เมนูผลไม้ในแฟรนไชส์ประกอบด้วย มะดันแช่อิ่ม มะม่วงแช่อิ่ม กระท้อนแช่อิ่ม มะกอกแช่อิ่ม มะปรางแช่อิ่ม และมะขามแช่อิ่ม รวมถึง ฝรั่งแช่บ๊วย มะม่วงแช่บ๊วย สับปะรด ราคาขายปลีกทุกชนิด ขีดละ 12 บาท ซึ่งราคานี้ จากการทำตลาดที่ผ่านมา เมื่อลูกค้าได้ลองชิมยอมรับได้ว่า ไม่แพงเกินไป ส่วนแฟรนไชส์ซีจะได้กำไรส่วนต่างจากราคาที่ขีดละ 4 บาท

 

 
ผลไม้ และสูตรการผลิต เป็นชนิดเดียวกันเจ้าดังในซ.อารีย์
 
 
       สุรพงษ์ เผยต่อว่า จากการเปิดทดลองร้านต้นแบบด้วยตัวเองที่ผ่านมา ในห้างบิ๊กซี ดาวคะนอง และห้างโลตัส พระราม 2 เฉลี่ยกำไรวันละ 1,200 -1,500 บาท รวมทั้งเดือน 36,000 - 45,000 บาท หักค่าใช่จ่าย เช่น ค่าเช่าสถานที่ ค่าพนักงาน และอื่นๆ เหลือเดือนละประมาณ 20,000 บาท ฉะนั้น คาดการคืนทุนลงทุนแฟรนไชส์ ไม่เกิน 3 เดือน
 
       เจ้าของธุรกิจ อธิบายต่อด้านดูแลแฟรนไชส์ให้เกิดความยั่งยืน จะเริ่มตั้งแต่ต้นทาง คือ กำหนดให้แฟรนไชส์ซีต้องรับวัตถุดิบจากส่วนกลางเท่านั้น ซึ่งมาจากร้านฝรั่งแช่บ๊วยโดยตรง เป็นผลไม้ปลอดสารกันบูด ผ่านกระบวนการตามสูตรเฉพาะ ทำให้ได้รสชาติสม่ำเสมอเหมือนกันทุกสาขา และมีการอบรมการดูแลแฟรนไชส์ให้ 1 วัน เช่น วิธีการเก็บรักษา และตั้งร้าน เป็นต้น นอกจากนั้น ได้วางแผนทำประชาสัมพันธ์ต่อเนื่อง โดยจะประเมินผลประกอบการทุก 3 เดือน ถ้ายอดขายโดยรวมดี จะนำกำไรส่วนหนึ่งไปลงโฆษณาตามสื่อต่างๆ รวมถึง ทางบริษัทฯ ได้นำผลไม้ของ “ผลทิพย์ฯ” ไปเสนอขายเป็นเมนูในร้านอาหารดังต่างๆ ที่ตกลงกันเรียบร้อยแล้ว คือ ร้านยกยอ และสามเสนวิลล่า โดยจะมีแผ่นพับเมนูผลไม้ พร้อมชื่อแบรนด์วางทุกโต๊ะ ซึ่งจะช่วยประชาสัมพันธ์ให้แฟรนไชส์อีกทางหนึ่ง
      
       “คนส่วนมากจะตั้งคำถามว่า ทำไมต้องซื้อแฟรนไชส์ของเรา ไปหาผลไม้ที่ไหนมาขายเองก็ได้ ผมก็จะอธิบายว่า ให้ชิมรสชาติก่อนว่า คุณภาพของเราแตกต่างจากรถเข็นทั่วไปจริงๆ เหมือนกับเวลาเราไปกินอาหารร้านอร่อย ซึ่งเมนูต่างๆ ร้านทั่วไปก็มีเหมือนกัน แต่เราก็มาเลือกกินร้านอร่อย ก็เพราะคุณภาพรสชาติที่แตกต่าง”
   

    
       การคัดเลือกผู้ร่วมเป็นแฟรนไชส์ซีนั้น จะพิจารณาจากทำเลที่ผู้จะลงทุนนำมาเสนอ ซึ่งควรเป็นย่านชุมชน เช่น ห้างสรรพสินค้า โมเดิร์นเทรด เป็นต้น ประกอบกับพิจารณาจากแนวคิดในการทำธุรกิจของผู้ลงทุนควรไปในทิศทางเดียวกันด้วย ทั้งนี้ กำลังติดต่อกับห้างบิ๊กซี เพื่อขอเช่าพื้นที่สำหรับลงแฟรนไชส์ ให้เป็นอีกช่องทางแก่ผู้อยากลงทุนแต่ยังขาดทำเล รวมถึงติดต่อกับธนาคารออมสิน เพื่อช่วยสนับสนุนสินเชื่อแก่ผู้อยากสร้างอาชีพแต่ขาดเงินทุน ส่วนเป้าในการขยายสาขา ในปีนี้ (2549) แค่ 4 สาขาเท่านั้น ส่วนในปีหน้า ตั้งเป้าอยู่ที่ 80-100 สาขา
      
       สุรพงษ์ กล่าวเสริมท้ายว่า แฟรนไชส์ “ผลทิพย์ฯ” ใช้ทุนดำเนินการเริ่มแรก ประมาณ 500,000 บาท ส่วนหนึ่งได้รับการสนับสนุนสินเชื่อธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) โดยแผนการตลาดต่อไป จะสร้างแบรนด์ “ผลทิพย์ฯ” ให้ติดตลาด ขั้นแรกจากขยายแบบแฟรนไชส์ ขั้นที่สองจะเป็นผลไม้แช่อิ่มในบรรจุภัณฑ์สวยงาม วางขายในร้านสินค้าของฝาก และขั้นสุดท้าย เมื่อสินค้าเป็นที่รู้จักดีแล้ว จะส่งเข้าร้านสะดวกซื้อต่างๆ เพื่อวางเป็นสินค้าแบบแมส


อ้างอิงจาก    ผู้จัดการออนไลน์

ดาวเด่นแฟรนไชส์ยอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
รวบรวมขนมปัง 20 บาท มาเอาใจคนอยากมีร้าน
156,537
ชานมไข่มุกปลุกตลาด 7 พันล้าน เทรนด์‘ไต้หวันกลับซ..
99,314
กาแฟสด ชาวดอย ลงทุนน้อย ความเสี่ยงต่ำ ความคล่องต..
81,015
เนสท์เล่ ปูพรมร้านไอศกรีมลงทุนเอื้ออาทร สานฝันคน..
77,245
ปั่นแหลก น้ำผลไม้สด แซงโค้งเข้าวินสร้างอาชีพ
76,394
“เคพีเอ็นพลัส” แฟรนไชส์อะไหล่มอ’ไซด์ ลั่นขยาย100..
54,403
ดาวเด่นแฟรนไชส์มาใหม่
ดาวเด่นแฟรนไชส์อื่นในหมวด