บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
443
2 นาที
20 ธันวาคม 2567
รวมธุรกิจรายได้หมื่นล้านแต่กำไร “บางเฉียบ”


ทำธุรกิจเราต้องมีกำไรกี่% ถึงจะเรียกว่าสมน้ำสมเนื้อให้ธุรกิจเราอยู่รอดไปได้แต่ละธุรกิจก็มีต้นทุนที่แตกต่างดังนั้นการเทียบเคียงว่าควรมีกำไรเท่าไหร่ ต้องไปดูปัจจัยโดยรวมด้านต้นทุนต่างๆ หากบริหารจัดการได้ดีมีโอกาสที่ธุรกิจจะได้กำไรเพิ่มเช่น
  • ต้นทุนการผลิต
  • ต้นทุนด้านแรงงาน
  • ต้นทุนด้านวัตถุดิบ
  • ต้นทุนด้านการตลาด
ซึ่งถ้ามองในมุมของคนที่อยากทำธุรกิจให้เป็นแฟรนไชส์ก็มีตัวเลขเบื้องต้นว่าควรมีกำไรจากธุรกิจอยู่ที่ประมาณ 25% ถึงจะคิดต่อยอดไปทำแฟรนไชส์ได้ 
 
ภาพจาก https://corporate.walmart.com
 
อย่างไรก็ดีถ้าไม่ใช่ในรูปแบบแฟรนไชส์เรากลับพบว่าบางธุรกิจไม่ได้มีอัตรากำไรที่สูงเกินกว่า 10% ด้วยซ้ำแต่ธุรกิจเหล่านี้กลับยิ่งใหญ่และอยู่รอดได้ แถมหลายแบรนด์ก็มีชื่อเสียงระดับโลกเป็นที่รุ้จักอย่างดี เคล็ดลับสำคัญของแบรนด์เหล่านี้คือการสร้างยอดขายให้ได้เยอะๆ เพื่อมาเพิ่มกำไรที่แม้จะดูเหมือน “บางเฉียบ” หากแต่ถ้ามีตัวคูณที่เป็นยอดขายระดับหมื่นล้านพันล้าน กำไรที่ได้ก็มากตามไปด้วย ยกตัวอย่างเช่น
  • Walmart Inc. ธุรกิจร้านค้าปลีกที่เน้นการขายสินค้าราคาถูก มีรายได้ 22,100,000 ล้านบาท อัตรากำไร 2.3% กำไร 517,000 ล้านบาท
  • JD.COM แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ช รายได้ 5,180,000 ล้านบาท อัตรากำไร 2.8 % กำไร 146,000 ล้านบาท
  • Heineken ธุรกิจผลิตและจำหน่ายเบียร์ รายได้ 1,130,000 ล้านบาท อัตรากำไร 3.5% กำไร 39,000 ล้านบาท
ภาพจาก www.heineken.com

สังเกตได้ว่าธุรกิจยักษ์ใหญ่เหล่านี้อัตราส่วนกำไรไม่ถึง 5 % นั่นหมายถึงขายของไป 100 บาท ได้กำไรกลับมาไม่ถึง 5 บาท แต่ยอดขายที่แท้จริงของแบรนด์เหล่านี้แตะระดับร้อยล้านพันล้าน นั่นคือตัวแปรที่ทำให้อัตราส่วนกำไรกลายเป็นตัวเลขที่เยอะมาก
 
กลยุทธ์ “ขายให้มาก แต่เน้นกำไรน้อย” เด่นชัดที่สุดในกลุ่มธุรกิจจากจีนซึ่งที่ผ่านมาเป็นจุดเด่นในการไล่ขยี้คู่แข่งในตลาด มีตั้งแต่เครื่องใช้ไฟฟ้า โทรศัพท์มือถือ รถยนต์ ไปจนถึงเสื้อผ้าทำให้จากแบรนด์โนเนม ที่ใคร ๆ ก็ปฏิเสธในตอนแรก 
 
ก้าวขึ้นมาเป็นแบรนด์แนวหน้าได้ในที่สุดลองดูว่ามีอะไรบ้าง
  • Hisense Home Appliances Group รายได้ 373,628 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิ 1.9% กำไร 7,229 ล้านบาท
  • Xiaomi Corporation รายได้ 1,411,757 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิ 0.9% กำไร 12,471 ล้านบาท
  • SHEIN รายได้ 852,000 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิ 3.5% กำไร 29,820 ล้านบาท
ภาพจาก https://bit.ly/3ZMIcfA

สิ่งที่ต้องระวังให้ดีของการใช้วิธีเน้นขายมาก เพื่อเอากำไรน้อย อาจเสี่ยงต่อการขาดทุนถ้าบริหารจัดการไม่ดีพอ เหมือนอย่างที่แพลตฟอร์มอย่าง Temu ลดความเสี่ยง ด้วยกลยุทธ์ Group Buying ให้ลูกค้ามาสั่งสินค้ารวมกันเยอะ ๆ ก่อน จากนั้นโรงงานค่อยผลิตสินค้าออกมา ทำให้ไม่ต้องใช้ทุนตัวเอง เพื่อสต๊อกสินค้า
 
หรืออย่าง Mixue ที่ขยายสาขาได้เยอะมาก ก็ใช้รูปแบบน่าสนใจคือไม่คิดส่วนแบ่งรายได้จากคนที่ซื้อแฟรนไชส์แต่เลือกเน้นทำเงินจากการขายวัตถุดิบและแพ็กเกจจิง ให้คนซื้อแฟรนไชส์ ซึ่งรายได้ส่วนนี้ คิดเป็น 88% ของรายได้ทั้งหมดที่ Mixue ทำได้
 
แต่ก็ดูเหมือนว่ากลยุทธ์แบบนี้จะไม่ค่อยเหมาะกับธุรกิจขนาดเล็ก สายป่านยังไม่ยาว ยิ่งเงินทุนไม่หนาขอแนะนำว่าอย่าใช้วิธีนี้ สำหรับใครที่เพิ่งเริ่มธุรกิจใหม่ๆ ถ้าหวังสร้างยอดขาย ต้องการสร้างแบรนด์ให้ติดตลาด ควรเน้นที่คุณภาพสินค้าและบริการ หรือการใช้ตลาดออนไลน์ในการเข้าถึงลูกค้า เพื่อเพิ่มโอกาสในการขายให้ได้มากที่สุด 

ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
610
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
508
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
476
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
426
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
413
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
406
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด