ดาวเด่นแฟรนไชส์    “Post Cafe” ส่วนผสมธุรกิจที่ลงตัว เสิร์ฟกาแฟสดและรับส่งความห่วงใย
8.8K
16 พฤศจิกายน 2549
“Post Cafe” ส่วนผสมธุรกิจที่ลงตัว เสิร์ฟกาแฟสดและรับส่งความห่วงใย


 
นายภาณุ ลิ่มทอง กรรมการผู้จัดการ ได้กล่าวถึงที่มาของ “Post Cafe” หรือร้านกาแฟที่มีการให้บริการไปรษณีย์ ว่าจุดเริ่มต้นของการทำธุรกิจนี้คือ เกิดจากความชอบดื่มกาแฟ ในสถานที่ที่สบายๆ และมีหนังสืออ่าน ส่วนในเรื่องของธุรกิจไปรษณีย์ที่นำมารวมเข้ากับร้านกาแฟ ก็เนื่องจาก เจ้าของร้านเป็นคนที่ชอบเขียนโปสการ์ด เขียนบันทึก ในร้านกาแฟ จึงเกิดไอเดียที่น่าจะมีโปสการ์ดขาย และมีตู้ไปรษณีย์สำหรับส่งโปสการ์ดด้วย เพื่อที่จะรวบรวมไปส่งไปรษณีย์ให้กับลูกค้า สุดท้ายก็เลยกลายมาเป็นบริการไปรษณีย์ในร้านกาแฟ พร้อมด้วยโลโก ที่เป็นถ้วยกาแฟเป็นรูปซองจดหมาย ด้วยเหตุนี้จึงเกิดเป็น “Post Cafe” ขึ้นมา

ส่วนการตกแต่งร้านทาง “Post Cafe” จะเน้นที่การตกแต่งร้านให้เหมือนกับบ้าน คือเน้นสีที่สบายๆ น่ามาพักผ่อน ซึ่งจะมีมุมโซฟา มีหนังสือ หรือนิตยาสารให้อ่าน โดยส่วนใหญ่จะใช้สีขาวเป็นหลักเพื่อความเรียบง่าย สะอาดตา ส่วนวัสดุที่ใช้ในการตกแต่งร้านจะให้วัสดุที่เป็นไม้ ซึ่งร้านต้นแบบอยู่ที่ บิ๊กซี ลาดพร้าว มีขนาด 65 ตรม. และร้านตรงข้ามกับเดอะมอลล์บางกะปิ มีขนาด 25 ตรม. ใช้เงินลงทุนไป 1.5 ล้านบาท ขนาด 65 ตารางเมตร โดยทำเลส่วนใหญ่จะอยู่ในห้างสรรพสินค้า ซึ่งในอนาคตคาดว่าจะไปเปิดให้บริการย่านมหาวิทยาลัย

“ร้าน “Post Cafe” ถือว่าประสบความสำเร็จมาก ณ จุดนี้ เนื่องจากรายได้ที่เข้ามาถึงจุดคุ้มทุนแล้ว ซึ่งในส่วนรายได้ของการให้บริการไปรษณีย์สามารถนำมาจ่ายค่าเช่าร้านได้เลย ส่วนกำไรในเรื่องของกาแฟจะมีกำไรมากกว่า 50 % ต่อแก้ว ซึ่งถือว่าเป็นรายได้ที่น่าพอใจ และในขณะนี้ร้าน “Post Cafe” ก็เป็นที่รู้จักของผู้คนมากขึ้น โดยจากลูกค้าที่มาใช้บริการไปรษณีย์ เมื่อมีการมาใช้บริการครั้งหนึ่งแล้ว ก็จะกลับมาอีก ก็แสดงว่าลูกค้าติดใจในบริการทั้งในเรื่องของราคาและความสะดวกสบาย” นายภาณุกล่าว

ก้าวสู่ธุรกิจแฟรนไชส์กับ “Post Cafe”

ส่วนค่าแฟรนไชส์นั้นจะขึ้นอยู่กับขนาดของร้านถ้าเป็นร้านที่มีขนาด 25 ตรม. ค่าแฟรนไชส์จะอยู่ที่ 100,000 บาท ส่วนร้านที่มีขนาด 65 ตรม. อยู่ที่ 200,000 บาท ซึ่งค่าตกแต่งก็จะต้องขึ้นอยู่กับทำเลที่ตั้งและขนาดของร้าน โดยทาง “Post Cafe” จะเป็นผู้ติดต่อช่างรับเหมาให้ เพื่อให้ได้มาตรฐานการตกแต่งร้านที่เป็นแบบเดียวกัน

ทั้งนี้ขนาดของร้านมี 2 แบบ คือแบบที่เป็นร้านเต็มรูปแบบ ใช้พื้นที่ประมาณ 40-65 ตารางเมตร จะมีเคาน์เตอร์ไปรษณีย์และกาแฟ แยกออกจากกัน มีโต๊ะสำหรับนั่งทานกาแฟ โดยจะคิดค่าเฟรนไชส์ ฟี ประมาณ 200,000 บาท และอีกรุปแบบหนึ่งคือใช้พื้นที่ประมาณ 25 ตารางเมตร เคาน์เตอร์กาแฟและเคาน์เตอร์ไปรษณีย์รวมอยู่ด้วยกัน มีเพียงเก้าอี้เคาน์เตอร์บาร์ และเน้นกาแฟในรูปแบบของtake home คิดค่าเฟรนไชส์ ฟี ประมาณ 100,000 บาท ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับทำเล ขนาดของพื้นที่ โดยทั้ง 2 รูปแบบจะได้สิทธิ์ 10 ปี

“ถึงตอนนี้เรายังไม่กำหนดตายตัวว่าเราจะเก็บค่าเฟรนไชส์ ฟี เท่าไหร่ อยากให้มาคุยกันมากกว่า เพราะตอนที่เราเปิดร้านใหม่ๆเราประสบปัญหามากในเรื่องของ know how ทั้งในส่วนของกาแฟและไปรษณีย์ สำหรับคนที่อยากจะทำธุรกิจแบบเรา เราก็อยากจะช่วยเหลือ ยังไงอยากให้มาคุยกันก่อน เพราะเราตั้งใจว่าหลังจากเปิดสาขาสัก 10 แห่ง แล้วเราจึงจะทำเป็นรูปแบบของเฟรนไชส์เต็มรูปแบบ ถ้ามาคุยกันเราอาจจะเข้าไปร่วมทุนด้วย หรือยังไงก็ลองมาคุยกันดูก่อนดีกว่า” นายภาณุกล่าว

อย่างไรก็ตามทาง “Post Cafe” จะมีการฝึกสอนสูตรการทำเครื่องดื่มในร้านให้กับผู้ที่มาซื้อแฟรนไชส์ด้วย ซึ่งจะเป็นสูตรที่ทาง “Post Cafe” คิดขึ้นมาเอง โดยราคาขั้นต่ำสุดของเครื่องดื่มจะอยู่ที่ 35 บาท ซึ่งจะเป็นกาแฟร้อน และราคาสูงสุดจะอยู่ที่ 65 บาท คือกาแฟปั่น

“การที่เราคิดจะขายแฟรนไชส์นั้น ก็เนื่องจากมีคนสนใจและเข้ามาติดต่อขอเป็นแฟรนไชส์เยอะมาก ซึ่งคุณสมบัติที่เรากำหนดให้ผู้ที่จะซื้อแฟรนไชส์กับเรานั้น จะต้องเป็นคนที่มีใจรักในเรื่องของกาแฟ มีความรู้ในเรื่องของระบบคอมพิวเตอร์ เพราะธุรกิจไปรษณีย์จะต้องมีการต่อโมเด็มกับทุกๆ สาขา เพื่อง่ายต่อการตรวจสอบ และเป็นระบบมากขึ้น และสุดท้ายที่เราจะดูคือทำเลที่ตั้งว่าเหมาะสมหรือไม่ และเป็นย่านที่มีผู้คนพลุกพล่านหรือไม่ด้วย” นายภาณุกล่าว
 
นายภาณุ กล่าวต่อว่า ถึงแม้ในปัจจุบันนี้เราจะเห็นมีการเปิดร้านกาแฟขึ้นมาอย่างมากมาย แต่เราคิดว่าเราจะสามารถอยู่ได้ เพราะว่าเรามีความแตกต่างจากร้านกาแฟทั่วไป คือเรามีการให้บริการไปรษณีย์ ที่ทำให้ลูกค้าสามารถส่งความคิดถึงถึงกันได้ และสำหรับคู่แข่งอย่างร้านกาแฟแบล็คแคนยอน เรามั่นใจว่าเราสู้ได้อย่างสบาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของราคาที่ถูกกว่า และบรรยากาศที่เป็นกันเองและน่าพักผ่อนเหมือนลูกค้าได้ดื่มกาแฟอยู่ที่บ้าน และยังสามารถเป็นที่นักธุรกิจสามารถมานั่งปรึกษางานกันได้ด้วย เนื่องจากเรามีบริการทางด้านการถ่ายเอกสารด้วย

เห็นร้าน “Post Cafe” แล้ว ทำให้ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า การทำธุรกิจในสมัยนี้จะต้องมีการแข่งขันกันสูง ดังนั้นสิ่งหนึ่งที่จะทำให้ธุรกิจของเราอยู่ได้นั้นจะต้องเน้นที่ความแตกต่างจากคนอื่น และให้มีการบริการที่หลากหลายและครบวงจร เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า

สำหรับผู้ที่สนใจจะเป็นแฟรนไชส์ร้าน “Post Cafe” สามารถติดต่อได้ที่ ชั้น 1 อิมพีเรียลเวิร์ล ลาดพร้าว ถนนลาดพร้าว เขตวังทองหลาง กทม.10310 หรือโทรศัพท์ 0-2934-9322-3

อ้างอิงจาก: ผู้จัดการออนไลน์

ขอขอบคุณรูปภาพจาก  http://www.franchisedd.com/post-cafe

ดาวเด่นแฟรนไชส์ยอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
รวบรวมขนมปัง 20 บาท มาเอาใจคนอยากมีร้าน
156,531
ชานมไข่มุกปลุกตลาด 7 พันล้าน เทรนด์‘ไต้หวันกลับซ..
99,312
กาแฟสด ชาวดอย ลงทุนน้อย ความเสี่ยงต่ำ ความคล่องต..
81,012
เนสท์เล่ ปูพรมร้านไอศกรีมลงทุนเอื้ออาทร สานฝันคน..
77,236
ปั่นแหลก น้ำผลไม้สด แซงโค้งเข้าวินสร้างอาชีพ
76,390
“เคพีเอ็นพลัส” แฟรนไชส์อะไหล่มอ’ไซด์ ลั่นขยาย100..
54,398
ดาวเด่นแฟรนไชส์มาใหม่
ดาวเด่นแฟรนไชส์อื่นในหมวด