ถามว่าลงทุนอะไรขายดีที่สุด! หลายคนฟันธงว่าต้อง “เครื่องดื่ม” โดยเฉพาะร้านชานมไข่มุก ที่แม้จะมีคู่แข่งมากแต่ความต้องการสินค้าก็มากตามไปด้วย ถ้าไปดูตัวเลขยิ่งชัดเจน ข้อมูลระบุว่าคนไทยนิยมบริโภคชานม/ชาไข่มุก อย่างน้อย 6 แก้ว/คน/เดือน มูลค่ารวมของตลาดเครื่องดื่มในปีที่ผ่านมาก็สูงกว่า 26,250 ล้านบาท
 

 

แต่คำถามก็คือจะเลือกลงทุนกับธุรกิจนี้แบบไหน? อย่างไร? เพื่อให้ประสบความสำเร็จ

 

จากปัจจัยสู่ความสำเร็จที่กล่าวมา “อาคิตะ ชานมไข่มุก” ถือเป็นอีกแฟรนไชส์ที่มีครบทุกปัจจัยให้คนลงทุนสามารถเริ่มต้นสร้างธุรกิจได้ทันที ไม่ต้องเริ่มจากศูนย์ ไม่ต้องสร้างแบรนด์เอง มีฐานลูกค้าให้ต่อยอดสร้างรายได้ทันที แถมมีระบบบริหารจัดการให้พร้อมเปิดร้านได้ทันที 

และที่สำคัญ อาคิตะ ชานมไข่มุก เป็นแฟรนไชส์ชานมที่ไม่เคยหยุดพัฒนาเมนูใหม่ๆ ถ้าใครติดตามในเพจของอาคิตะจะพบว่ามีการอัพเดทเมนูใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยมีหลายเมนูที่เป็น Signature ของร้านและขายดีมากเช่น

 

ชูจุดเด่น “ร้านสไตล์คาเฟ่” คนฮิตทั่วประเทศ
 

 

 

ไม่ใช่แค่เรื่องเมนูที่หลากหลาย เรื่องรสชาติก็อร่อยแบบสุดๆ เพราะคัดสรรวัตถุดิบเกรดพรีเมี่ยม จำหน่ายในราคาไม่แพงให้ลูกค้าสามารถเลือกทานได้ทุกเพศทุกวัย ทุกวัน การออกแบบร้านเน้นสไตล์คาเฟ่ ที่สวยงาม ดึงดูดลูกค้าได้อย่างดี เป็นร้านชานมที่ให้บรรยากาศแบบญี่ปุ่น สามารถแช๊ะ+แชร์ภาพได้อย่างสวยงาม 
 

ในเรื่องของการลงทุนค่าแฟรนไชส์ 115,000 บาท สิ่งที่ผู้ลงทุนจะได้รับคือ

 

ในส่วนของการสร้างรายได้ โอกาสคืนทุนประมาณ 6-12 เดือน โดยขึ้นอยู่กับทำเลเป็นสำคัญ ในแต่ละเดือนรายได้ดีกว่าคนที่ทำงานประจำ ซึ่งนอกจากการขายทางหน้าร้านยังสามารถขายเดลิเวอรี่ได้อีกทาง เพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ที่ดีมาก นอกจากนี้ทางแฟรนไชส์ยังมีการสนับสนุนและดูแลผู้ลงทุนเป็นอย่างดี ให้ทุกคนเป็นครอบครัว “อาคิตะ” ที่เติบโตไปพร้อมกันทุกที่ทั่วประเทศ

 

 

 

การเลือกลงทุนกับอาคิตะ ชานมไข่มุก ถือว่าตอบโจทย์ครบ จบ ทุกความต้องการ ให้คนลงทุนมีรายได้จากธุรกิจนี้อย่างต่อเนื่อง มีหลายปัจจัยที่สนับสนุนชัดเจนว่าชานมไข่มุกทำไมขายดีแบบไม่มีตกเทรนด์

 

ภาพจาก แฟรนไชส์อาคิตะ ชานมไข่มุก

สำหรับใครที่สนใจหรืออยากสร้างธุรกิจชานมไข่มุกับอาคิตะ แต่ยังไม่แน่ใจ สามารถหาข้อมูลได้ด้วยตัวเอง จากการเข้าไปใช้บริการในสาขาที่อยู่ใกล้บ้าน ลองชิมเมนูว่าอร่อยแค่ไหน บริการเป็นอย่างไร หรือลองสำรวจดูลูกค้าในแต่ละวันของสาขานั้นๆ ว่ามีมากแค่ไหน ซึ่งแน่ใจได้ว่าจะเป็นข้อมูลเชิงประจักษ์ที่ทำให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น จากนั้นค่อยคุยรายละเอียดในเรื่องการลงทุนกับทางแฟรนไชส์ที่มีทีมงานพร้อมให้คำปรึกษาและดูแลคนสนใจลงทุนเป็นอย่างดี