ท่ามกลางกระแสแพร่ระบาดของCOVID 19 เราเห็นผลกระทบของบรรดาธุรกิจต่างๆ จำนวนมาก บ้างก็ต้องหยุดกิจการชั่วคราว พนักงานของบางบริษัทก็ต้องหยุดทำงานชั่วคราวโดยไม่ได้รับเงินเดือน บางที่ก็ยังได้ทำงานต่อแต่อาจต้องปรับลดเงินเดือนลงมา หรือหนักกว่าคือบางที่ประกาศเลิกกิจการกันไปเลยทีเดียว ต้องยอมรับว่าวิกฤติครั้งนี้สาหัสเอาการ แต่ก็ใช่ว่าทุกคนที่ทำธุรกิจจะต้องเจ๊งไม่เป็นท่า มีบางธุรกิจเช่นกันที่โตสวนกระแสได้ในเวลาแบบนี้ ส่วนหนึ่งก็ต้องยกเครดิตให้กับผู้บริหารที่สร้างโมเดลของกิจการให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่ไม่สู้ดีนัก นำไปสู่การสร้างยอดขายที่ดีและมีกำไรดียิ่งกว่าเดิม

 

หนึ่งในแฟรนไชส์ที่ www.ThaiFranchiseCenter.com มองเห็นว่า “โตสวนกระแส” ได้อย่างชัดเจนคือ “โยจิฮาร์ดแวร์” ซึ่งดำเนินธุรกิจด้านการเปิดร้านฮาร์ดแวร์ก่อสร้าง เจ้าแรกในประเทศไทย ที่มีสินค้าครอบคลุมและครบวงจรมากที่สุด เช่น ท่อพีวีซี ข้อต่อ อุปกรณ์ประปา สายไฟฟ้า อุปกรณ์ไฟฟ้า อุปกรณ์ก่อสร้าง สี และยังมีสต็อกสินค้าที่น่าสนใจอีกจำนวนมาก โดยเป็นแฟรนไชส์ที่ก่อตั้งมานานกว่า 13 ปีและในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ก็ได้พิสูจน์ให้ผู้ลงทุนเห็นชัดเจนว่าลงทุนกับ “โยจิฮาร์ดแวร์” สามารถสร้างรายได้ดีในทุกสถานการณ์ เหมาะสมกับตำแหน่ง “ดาวเด่นแฟรนไชส์” ในยุค COVID 19 เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แฟรนไชส์ซี่ สามารถตั้งชื่อร้านเองได้

 

ทีมงานไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ได้พูดคุยกับคุณพิมพร เจียรนันทรานนท์ เกี่ยวกับแฟรนไชส์โยจิฮาร์ดแวร์ ด้วยหลายคนสงสัยหนักหนา ว่า “ร้านก่อสร้างทำไมถึงอยากขยายธุรกิจในแบบแฟรนไชส์” เรื่องนี้คุณพิมพรให้ข้อมูลน่าสนใจว่า โยจิฮาร์ดแวร์เริ่มก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2550 จากการเป็นร้านขายส่งสินค้าก่อสร้างให้แก่ร้านทั่วไป จึงมีความรู้ มีประสบการณ์ และรู้ว่าสินค้าตัวใดเป็นที่นิยม ตัวไหนขายดี จึงสามารถหาสินค้าจัดส่งได้ตรงกับความต้องการ และเมื่อทุกอย่างเริ่มชัดเจนมากขึ้น เป็นเรื่องธรรมดาที่ธุรกิจก็ต้องมีการเติบโต ทำให้นึกถึงระบบ “แฟรนไชส์” ที่ใช้ขยายโอกาสทางธุรกิจได้มากที่สุด

 

 

และอย่างที่ทราบกันดีว่านับตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมาเราเผชิญกับสถานการณ์แพร่ระบาดของ COVID 19 ทำให้ภาครัฐมีการกำหนด พรก.ฉุกเฉินสั่งปิดห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร ร้านบริการ ผับบาร์ สนามมวย เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของ COVID 19 ให้อยู่ในวงจำกัดได้มากที่สุด ผลที่ตามมาคือภาพรวมของเศรษฐกิจที่ชะงักในทันที ยอดขายของร้านค้าลดลงมาก แต่ก็เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องยอมรับเพราะหากผ่านสถานการณ์นี้ไปไม่ได้เราก็ทำมาหากินต่อไปไม่ได้เช่นกัน

 

อย่างไรก็ดีในวิกฤติย่อมมีโอกาส และกลายเป็นโอกาสของ “โยจิฮาร์ดแวร์” ที่คุณพิมพร กล่าวว่า โยจิฮาร์ดแวร์ของเรามีโมเดลลงทุนที่เป็นพื้นที่ขนาด 32-100 ตรม. ซึ่งขนาดร้านจะไม่ใหญ่ ดูแลบริหารง่าย แต่ที่ผ่านมา คนลงทุนส่วนใหญ่มักมองว่าร้านก่อสร้างขนาดเล็ก เสียเปรียบพวกร้านก่อสร้างขนาดใหญ่โดยเฉพาะพวกห้างสรรพสินค้าที่ขายวัสดุก่อสร้างต่างๆ  จนกระทั่งธุรกิจขนาดใหญ่เหล่านี้โดนผลกระทบจากการสั่งปิดชั่วคราว ทำให้ร้านก่อสร้างประจำชุมชน มีรายได้ที่สวนกระแสขึ้นมา  ซึ่งจากที่สอบถามข้อมูลของผู้ลงทุนในแต่ละพื้นที่ คุณพิมพรบอกว่า ตัวเลขค่อนข้างน่าพอใจ ทุกร้านมียอดขายที่ดีขึ้น ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสัดส่วนขนาดร้าน ทำเลในการเปิดร้าน แต่ทุกร้านมีรายได้เพิ่มขึ้น

อย่างบางร้านในสถานการณ์ทั่วไปรายได้ต่อวันเฉลี่ย 5,000 บาท แต่ในช่วงนี้ ยอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 7,000 – 8,000 บาท หรืออย่างบางร้านที่มีพื้นที่ร้านขนาดใหญ่ อยู่ในทำเลที่ดี สามารถสร้างรายได้ต่อวันในช่วงนี้กว่า 20,000 -30,000 บาท โดยหากคิดค่าเฉลี่ยแล้วการเปิดแฟรนไชส์โยจิฮาร์ดแวร์ เฉลี่ยต่อวันจะมีรายได้ไม่น้อยกว่า 5,000 บาท ซึ่งเท่ากับเป็นจุดคุ้มทุนที่ทุกร้านทำได้และทำได้ดี สะท้อนให้เห็นจากจำนวนสาขาที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งตอนนี้มีกว่า 215 สาขา

 

ในสถานการณ์ปกติก่อนที่มีการแพร่ระบาดของ COVID 19 แฟรนไชส์โยจิฮาร์ดแวร์สามารถเปิดสาขาเพิ่มได้เดือนละ 2-3 แห่ง ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าใน 1-2 เดือนที่ผ่านมาภายใต้การแพร่ระบาดของ COVID 19 ทำให้ไม่มีการเพิ่มขึ้นของสาขาแต่กลับไปสร้างรายได้ให้กับ “ร้านก่อสร้างประจำชุมชน” ได้มากขึ้น

 

1. ความสนิทและรู้จักคนในพื้นที่เป็นอย่างดี

ความที่เป็นร้านในชุมชนย่อมต้องรู้จักคนในพื้นที่เป็นอย่างดี คล้ายกับร้านโชห่วยสมัยก่อนที่เป็นจุดศูนย์รวมของคนในพื้นที่ ร้านก่อสร้างประจำชุมชนก็เช่นกัน เมื่อเรารู้จักทุกคนที่อยู่ในชุมชนเป็นอย่างดี มีความคุ้นเคยที่ดี ทำให้การขายก็ง่ายขึ้นด้วย

 

ในสถานการณ์ที่คนต้องอยู่กับบ้านมากขึ้น ก็อาจทำให้มีเวลาที่ต้องซ่อมแซมบ้าน ซึ่งก็ต้องการอุปกรณ์พื้นฐานทั่วไปอย่างก๊อกน้ำ ปูนซีเมนต์  สายไฟ  ข้อต่อพีวีซี ฯลฯ และเป็นจังหวะเดียวกับที่ร้านอุปกรณ์ก่อสร้างขนาดใหญ่ต้องปิดตัวชั่วคราว ทำให้คนหันมาซื้อสินค้าก่อสร้างในร้านก่อสร้างประจำชุมชนมากขึ้น

 

จุดเด่นของโยจิฮาร์ดแวร์คือมีสินค้าครบวงจรตามที่ลูกค้าต้องการเป็นเหมือนร้านสะดวกซื้อของคนต้องการอุปกรณ์ก่อสร้าง เมื่อลูกค้ามาแล้วไม่ผิดหวัง ก็จะกลายเป็นความประทับใจที่ทำให้กลายเป็นลูกค้าประจำได้มากขึ้น

 

 

แฟรนไชส์โยจิฮาร์ดแวร์มีรูปแบบการลงทุนให้เลือก 5 แบบ คือ

1. แพจเกจขายส่งเฉพาะสินค้า

ราคาเริ่มต้นที่ 10,000 บาท เหมาะกับร้านค้าทั่วไปที่ต้องการนำสินค้าอุปกรณ์ก่อสร้างไปขายเพิ่มเติม

 

2. แพคเกจ YOJI S32

ราคา 620,000 บาท + พื้นที่ประมาณ 32 ตารางเมตร สามารถเลือกสินค้าได้ 700-750 รายการ พร้อมการออกแบบร้าน มีชั้นวางสินค้า 25 ชั้น และเคาน์เตอร์เก็บเงิน พร้อมชุดคอมพิวเตอร์และการวางระบบขายสินค้าหน้าร้าน ระบบการควบคุมสต็อกสินค้า  การอบรมการจัดเรียงสินค้า  การขาย การจัดสต็อก  

 

3. แพคเกจ YOJI M48

ราคา 850,000 บาท + พื้นที่ประมาณ 48 ตารางเมตร สามารถเลือกสินค้าได้ 900 -950 รายการ พร้อมการออกแบบร้าน ชั้นวางสินค้า 31 ชั้น เคาน์เตอร์เก็บเงิน พร้อมชุดคอมพิวเตอร์และการวางระบบขายสินค้าหน้าร้าน ระบบการควบคุมสต็อกสินค้า การอบรมการจัดเรียงสินค้า การขาย การจัดสต็อก

 

4. แพคเกจ YOJI L72

ราคา 1,250,000 บาท + พื้นที่ประมาณ 72 ตารางเมตร สามารถเลือกสินค้าได้ 1,300 – 1,350 รายการ พร้อมการออกแบบร้าน และชั้นวางสินค้า 31 ชั้น และเคาน์เตอร์เก็บเงิน พร้อมชุดคอมพิวเตอร์และการวางระบบขายสินค้าหน้าร้าน ระบบการควบคุมสต็อกสินค้า การอบรมการจัดเรียงสินค้า การขาย การจัดสต็อก

 

5. แพคเกจ YOJI L96

ราคา 1,730,000 บาท + พื้นที่ประมาณ 96 ตารางเมตร สามารถเลือกสินค้าได้ 1,750 – 1,800 รายการ พร้อมการออกแบบร้าน และชั้นวางสินค้า 44 ชั้น และเคาน์เตอร์เก็บเงิน พร้อมชุดคอมพิวเตอร์และการวางระบบขายสินค้าหน้าร้าน ระบบการควบคุมสต็อกสินค้า การอบรมการจัดเรียงสินค้า การขาย การจัดสต็อก

 

อย่างไรก็ดีในส่วนของการลงทุนผู้ที่สนใจอาจลดต้นทุนให้น้อยลงได้อีก เช่น แพคเกจ YOJI S32 ราคา 620,000 บาท แต่รวมเรื่องการวางระบบบริหารจัดการในร้าน การออกแบบร้าน แต่หากผู้ลงทุนต้องการลดค่าใช้จ่ายสามารถเลือกที่จะออกแบบร้านเองและวางระบบการขายในร้านเองก็จะทำให้มีค่าใช้จ่ายในการลงทุนอยู่ประมาณ 398,000 บาท ถือว่าลดลงไปมาก ในแพคเกจอื่นๆ ก็เช่นกัน

ทั้งนี้โยจิฮาร์ดแวร์ให้ความสำคัญและอิสระแก่ผู้ลงทุนตัดสินใจเลือกรูปแบบและราคาการลงทุนได้ด้วยตัวเอง โดยโยจิฮาร์ดแวร์พร้อมเป็นที่ปรึกษาและให้การช่วยเหลือเป็นอย่างดี เพื่อให้ผู้ลงทุนสามารถมีกำไรจากธุรกิจนี้ได้ไม่ยาก

 

และคาดว่าภายหลังจากสถานการณ์ COVID 19 ผ่านพ้นไป หรือสถานการณ์หลายๆ อย่างเริ่มปรับตัวเข้าสู่ภาวะปกติ โยจิฮาร์ดแวร์จะมียอดขายที่ดีไม่น้อยไปกว่าเดิม เนื่องด้วยภาวะที่ชะงักงันและเมื่อกลับมาเริ่มต้นอีกครั้งอาจมีการปรับปรุงออฟฟิศ  จัดสถานที่ และมีการก่อสร้างเพิ่มอีกจำนวนมาก ก็จะทำให้โยจิฮาร์ดแวร์สามารถขายสินค้าได้มากขึ้น และสามารถขยายสาขาได้เพิ่มมากขึ้นทั่วประเทศอีกด้วย

 

 

E-Mail : yojihardware@gmail.com

Website : www.yojicorp.com

Facebook : www.facebook.com/YojiHardWare