ดาวเด่นแฟรนไชส์    คาเฟ ดีโอโร่ ชูคุณภาพคับแก้ว เทียบชั้นกาแฟแบรนด์ใหญ่
8.1K
12 ธันวาคม 2549
คาเฟ ดีโอโร่ ชูคุณภาพคับแก้ว เทียบชั้นกาแฟแบรนด์ใหญ่

 
 
แม้ธุรกิจร้านกาแฟหากมองจากภายนอกแล้วเป็น ธุรกิจที่ไม่มีความซับซ้อนแต่อย่างใด แต่สำหรับผู้ที่ไม่มีพื้นฐานความรู้ด้านกาแฟ ถ้าต้องการเข้ามาแชร์ส่วนแบ่งการตลาดแบบฉาบฉวย ก็คงได้รับบทเรียนกันแล้วว่า ธุรกิจกาแฟไม่ใช่เรื่องกล้วยๆ อย่างแน่นอน 
 
CAFFE D' ORO เป็นอีกหนึ่งร้านกาแฟของคนไทยที่เปิดให้บริการได้เพียง 3 ปี แต่มีจำนวนสาขาครอบคลุมทั่วทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดถึง 40 สาขา โดยคาดว่าจะมีกว่า 60 สาขาภายในสิ้นปีนี้ จากข้อมูลดังกล่าวร้านกาแฟแบรนด์นี้ย่อมไม่ธรรมดา 
 
การแจ้งเกิดของ CAFFE D' ORO เกิดจากประสบการณ์ที่สั่งสมในแวดวงยุทธจักรกาแฟในการเป็นผู้ส่งออก เม็ดกาแฟดิบของประเทศไทยไปขายต่างประเทศทั่วโลกมากว่า 15 ปี และจัดทำโครงการปลูกกาแฟพันธุ์อราบิก้าร่วมกับรัฐบาลในพื้นที่ปฏิรูปที่ดิน ณ อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ บนพื้นที่กว่า 4,500 ไร่ ซึ่งการส่งเสริมหลักก็คือการให้ความรู้ด้านวิชาการแก่เกษตรกรที่เป็นชาวเขา พร้อมกับสนับสนุนต้นพันธุ์เพื่อให้ผลผลิตที่ได้มีคุณภาพตามที่ต้องการ 
 
CAFFE D' ORO ถือเป็นผู้อยู่เบื้องหลังของธุรกิจร้านกาแฟมากมาย ซึ่งมี Know How ที่คิดว่าน่าจะสร้างร้านกาแฟเพื่อให้เป็นทางเลือกให้กับลูกค้า แทนที่จะเลือกกินแต่กาแฟจากต่างประเทศ โดยมีแนวคิดว่า From Farm to Cup ก็คือการเน้นคุณภาพตั้งแต่การปลูกกาแฟจนถึงกระบวน การปรุงเพื่อนำกาแฟที่ดีที่สุดสู่ถ้วยให้กับลูกค้า” นี่เป็นความพิถีพิถันในการทำธุรกิจของ CAFFE D' ORO
 
 
 
เมื่อแบรนด์เริ่มเป็นที่รู้จัก สิ่งสำคัญประการต่อมาคือการให้ผู้บริโภคได้ทดลองใช้บริการ และแปรสภาพจากขาจรให้กลายมาเป็นลูกค้าขาประจำของร้าน เขาจึงใช้กลยุทธ์ด้านราคาเพื่อดึงดูดใจผู้บริโภค โดยราคาเฉลี่ยของเครื่องดื่มภายในร้านจะอยู่ที่ 30 – 45 บาท ซึ่งจัดเป็นราคาที่ต่ำกว่าร้านกาแฟแบรนด์ต่างประเทศ แต่กลับมีคุณภาพที่ใกล้เคียงกันเนื่องจาก CAFFE D' ORO มีการลงทุนในวัตถุดิบเองทุกอย่าง ยกเว้นแพ็คเกจจิ้งที่ต้องใช้งบประมาณลงทุนสูงและไม่คุ้มค่าต่อการลงทุน
 
ขยายฐานลูกค้าด้วย Variety Product 
 
วีระเดชวางคอนเซ็ปท์ให้ CAFFE D' ORO เป็นจุดนัดพบสำหรับนักเดินทาง จึงไม่จำเป็นต้องเสียเวลาไปกับการเข้าห้างสรรพสินค้าเพื่อหาที่จอดรถและเดิน ไปยังร้านใดร้านหนึ่งเพื่อพบปะกับเพื่อนฝูงหรือเจรจาทางธุรกิจ ต่อมาเมื่อการแข่งขันทวีความรุนแรงขึ้น ซึ่ง CAFFE D' ORO ได้มีการเก็บข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายมาอย่างต่อเนื่อง และพบว่ากลุ่มลูกค้าที่มาใช้บริการไม่ต้องการดื่มกาแฟเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ลูกค้ายังต้องการบริโภคสินค้านอกเหนือจากกาแฟ เช่นเครื่องดื่มอื่นๆ เบเกอรี่ เป็นต้น CAFFE D' ORO จึงได้ปรับเปลี่ยนคอนเซ็ปท์ร้านให้เป็น Family Coffee House เพื่อตอบสนองความต้องการและขยายฐานลูกค้า โดยมีสินค้ากว่า 100 รายการ และได้แบ่งกลุ่มลูกค้าออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มลูกค้าที่เป็นครอบครัว และกลุ่มนักเรียน นักศึกษา 
 
กว่าที่จะมาถึงวันนี้ของ CAFFE D' ORO นั้น เส้นทางย่อมไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ซึ่งผู้บริหารยอมรับว่าต้องทนอยู่กับสภาวะขาดทุนในช่วงเริ่มต้นธุรกิจนานกว่า 6 เดือน แต่ด้วยความรักและพื้นฐานทางธุรกิจกาแฟที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน ตลอดจนการรักษาคุณภาพสินค้าและการให้บริการที่ถือเป็นหัวใจของธุรกิจ ก็ทำให้วันนี้ CAFFE D' ORO พร้อมที่จะก้าวไปสู่ห้างสรรพสินค้าเพื่อกระทบไหล่ร้านกาแฟแบรนด์ดัง พร้อมกับสยายปีกไปกับธุรกิจแฟรนไชส์อีกด้วย
 
อ้างอิงจาก: ผู้จัดการออนไลน์

ขอขอบคุณรูปภาพจาก  https://www.facebook.com/caffe.d.oro
ดาวเด่นแฟรนไชส์ยอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
รวบรวมขนมปัง 20 บาท มาเอาใจคนอยากมีร้าน
156,424
ชานมไข่มุกปลุกตลาด 7 พันล้าน เทรนด์‘ไต้หวันกลับซ..
99,290
กาแฟสด ชาวดอย ลงทุนน้อย ความเสี่ยงต่ำ ความคล่องต..
80,951
เนสท์เล่ ปูพรมร้านไอศกรีมลงทุนเอื้ออาทร สานฝันคน..
77,174
ปั่นแหลก น้ำผลไม้สด แซงโค้งเข้าวินสร้างอาชีพ
76,363
“เคพีเอ็นพลัส” แฟรนไชส์อะไหล่มอ’ไซด์ ลั่นขยาย100..
54,347
ดาวเด่นแฟรนไชส์มาใหม่
ดาวเด่นแฟรนไชส์อื่นในหมวด