ดาวเด่นแฟรนไชส์    เดอะวอฟเฟิล เอ็กซ์พีเรียน ผงาดตลาดต่างประเทศ
13K
13 กรกฎาคม 2554

เดอะวอฟเฟิล เปิด "เดอะวอฟเฟิล เอ็กซ์พีเรียน" ผงาดตลาดต่างประเทศ

 

"วอฟเฟิลไม่ใช่ขนมในกระแส แต่หลายคนคิดว่าทำขนมอย่างเดียวจะขายได้อย่างไร ผมบอกตามตรงว่า เริ่มแรกก็ไม่คิดว่าจะมีวันนี้ วันที่ขนมวอฟเฟิลมียอดขาย 1 ล้านชิ้น ต่อเดือน วันที่ประสบความสำเร็จ เพียงแต่ผมก้าวเข้ามาทำ โดยใช้ความจริงจัง และมุ่งมั่น"

ย้อนไปเกือบ 7 ปีก่อนหน้านี้ "เดอะวอฟเฟิล" คือร้านขนมเล็กๆ ที่มีรูปแบบง่ายๆ ตั้งอยู่ภายในตลาดนัดจตุจักร ใช้ผู้ผลิตและผู้ขายเพียงสมาชิกในครอบครัวเป็นหลัก เพียงไม่กี่เดือน เดอะวอฟเฟิล กลายเป็นขนมที่หลายคนติดใจรสชาติ กระทั่งเกิดความสนใจต้องการซื้อสิทธิ์ไปสร้างรายได้ 6 เดือนล่วงผ่าน กิจการ เดอะวอฟเฟิล เบ่งบาน จนกระทั่งจัดสร้างโรงงานเล็กๆ ย่านสมุทรปราการเป็นของตนเอง เพื่อให้ทันกำลังการผลิตแป้ง เพื่อส่งสาขาแฟรนไชส์กว่า 30 แห่ง

มาถึงวันนี้ก้าวสู่ปีที่ 7 เดอะวอฟเฟิลยังคงเดินอยู่บนถนนสายอิสระ และถ้านับความเติบโต ต้องบอกว่า เดอะวอฟเฟิล ก้าวไปข้างหน้าและไม่มีทีท่าว่าจะหยุด

เดอะวอฟเฟิล ใช้วิธีขยายธุรกิจด้วยตัวเองก่อนเข้าสู่ระบบแฟรนไชส์ โดยเลือกทำเลใกล้ตัว ภายในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ก่อนจะลุกลามไปสู่พื้นที่ต่างจังหวัด ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ราว 140 สาขา และมีแนวโน้มระยะเวลาอันใกล้ เดอะวอฟเฟิลหมายมั่นสู่ตลาดต่างประเทศ

คุณสุทธิชัย พนิตนรากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เดอะวอฟเฟิล ซัพพลาย จำกัด เจ้าของธุรกิจและผลิตภัณฑ์ขนมอร่อย เล่าถึงจังหวะก้าวกับธุรกิจว่า

"การทำงานในปีแรก ผมถือว่าเป็นการลองผิดลองถูก ลงมือทำด้วยตัวเอง จึงรู้แนวทางพัฒนา ซึ่งต้องบอกว่า เดอะวอฟเฟิล พัฒนาในทุกๆ ด้าน ทั้งเรื่องการตลาด รสชาติปรับปรุงให้อร่อยยิ่งขึ้น จนกระทั่งก้าวสู่ปีที่ 3 รสนิ่งแล้ว ส่วนความหลากหลายของไส้ขนม จากแต่ก่อนมีเพียง 3 ชนิด ปัจจุบันกว่า 10 รสชาติ

สิ่งที่พัฒนาตามมาอีกเรื่องหนึ่งคือ บรรจุภัณฑ์ จากเคยทำแบบง่ายๆ ปรับมาใช้ถุงกระดาษ และกล่องบรรจุ อย่างดี ออกแบบสวยงาม เพื่อให้เข้าระบบมาตรฐาน ซึ่งปัจจุบันในส่วนของบรรจุภัณฑ์แบบถุงกระดาษ ใช้ปีละประมาณ 2 ล้านใบ"

 

การปรับปรุงโรงงานสู่มาตรฐาน GMP HACCP เป็นอีกหนทางหนึ่งที่เดอะวอฟเฟิล เลือกทำ เพื่อก้าวสู่ความเป็นสากล

"มาตรฐาน เป็นสิ่งสำคัญมาก เพื่อให้ตลาดสากลยอมรับ ซึ่งปัจจุบัน เดอะวอฟเฟิล ผ่านมาตรฐาน GMP HACCP คาดว่าอีก 2 เดือน คงได้รับตราฮาลาล อันจะส่งผลให้ตลาดกว้างขึ้น โดยเฉพาะตลาดต่างประเทศ ซึ่งเดอะวอฟเฟิลจะเจาะแถบเอเชียก่อน"

ดังได้กล่าวแล้วว่า ตลาดเดอะวอฟเฟิลกว้างขึ้น ระบบแฟรนไชส์ขยายทั่วทุกจังหวัด ฉะนั้น ระบบการขนส่งจึงต้องได้มาตรฐาน ซึ่งคุณสุทธิชัย ว่า ปัจจุบันต้องใช้รถห้องเย็น จัดส่งแป้งกระจายสู่สาขา ซึ่งหากก้าวสู่ตลาดต่างประเทศ จะนำระบบแช่แข็งมาใช้เพื่อให้วัตถุดิบคงความสด 


หลายคนที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับอาหาร อาจมองว่าการพัฒนาควรเริ่มต้นจากด้านใดด้านหนึ่ง แต่เดอะวอฟเฟิลเลือกพัฒนาทุกด้านไปพร้อมกัน โดยให้เหตุผลว่า

"ทำอาหารขาย หลายคนมองว่าขอรสดีไว้ก่อน จึงเลือกพัฒนารสเพียงอย่างเดียว แต่ลองนึกภาพซิว่า ถ้าสินค้าอร่อย แต่อย่างอื่นแย่หมด ภาพความสำเร็จจะเกิดขึ้นได้อย่างไร ฉะนั้น บรรจุภัณฑ์ต้องดี แต่อยู่ภายในเงื่อนไขเหมาะสม ผมต้องบอกก่อนว่า สินค้าของผมใช้ทุนค่อนข้างเยอะ กำไรต่อชิ้นน้อยมาก แต่ถ้าขายดีมีจำนวนมาก รายรับจะตามมา ผลกำไรเกิดขึ้นแบบเป็นกอบเป็นกำ และการจะทำสินค้าให้ขายได้จำนวนมาก นั่นหมายถึงคุณภาพต้องดี รสชาติต้องเข้าไปอยู่ในใจผู้บริโภค การบริหารจัดการ บริการ ต้องมาพร้อมๆ กัน

วอฟเฟิลไม่ใช่ขนมในกระแส แต่หลายคนคิดว่าทำขนมอย่างเดียวจะขายได้อย่างไร ผมบอกตามตรงว่า เริ่มแรกก็ไม่คิดว่าจะมีวันนี้ วันที่ขนมวอฟเฟิลมียอดขาย 1 ล้านชิ้น ต่อเดือน วันที่ประสบความสำเร็จ เพียงแต่ผมก้าวเข้ามาทำ โดยใช้ความจริงจัง และมุ่งมั่น"

แม้เดอะวอฟเฟิลจะมีการปรับพัฒนาหลายด้านควบคู่กันไป แต่สิ่งหนึ่งซึ่งไม่ปรับ และไม่เปลี่ยนแปลง คือราคาขาย ยังคงเดิม คือชิ้นละ 15 บาท 3 ชิ้น 39 บาท โดยกำหนดว่าทุกสาขาต้องตั้งราคาเดียวกัน ยกเว้นบางกรณีมีเหตุผลสมควร

"สิ่งที่เดอะวอฟเฟิลมุ่งหวังเป็นอันดับแรกไม่ใช่ผลกำไรสูงสุด แต่สิ่งที่ต้องการคือความสุขกับการทำงาน เราต้องการให้กลุ่มคนระดับล่างได้กินขนมอร่อยในราคาสามารถจ่ายได้ การซื้อขายจะคล่อง ยอดขายเพิ่มขึ้น ผลกำไรโดยรวมมากขึ้นไปเอง"

แม้ปัจจุบันจะมีผู้สนใจติดต่อซื้อสิทธิ์เดอะวอฟเฟิล จำนวนมาก แต่กระนั้น คุณสุทธิชัยขอกำหนดสาขาไว้ไม่เกิน 250 สาขา ภายในปี 2555

"ผมเคยทำวิจัยว่า เดอะวอฟเฟิลควรมีสาขาเท่าใดถึงจะเหมาะสม ตัวเลขอยู่ที่ 500 สาขา เฉพาะในประเทศ แต่ผมจำกัดความเติบโตไว้แค่ครึ่งหนึ่งเท่านั้น โดยมีข้อแม้ว่าทุกสาขาต้องประสบความสำเร็จ เพราะผมไม่ต้องการปริมาณแต่ต้องการคุณภาพ นี่คือสิ่งที่เดอะวอฟเฟิล มุ่งหวัง"

หลังจากระบบแฟรนไชส์ในประเทศเรียบร้อย จากนั้นจึงมุ่งหน้าสู่ตลาดต่างประเทศ "แต่เดิมระบบแฟรนไชส์จะตอบโจทย์ผู้มีเงินในกระเป๋า 66, 500 บาท สามารถเป็นเจ้าของกิจการได้ แต่ด้วยความมุ่งมั่นจะก้าวสู่ตลาดต่างประเทศ เพราะที่ผ่านมาก็มีผู้สนใจเข้ามาติดต่อมากราย

จวบจนมีความพร้อมจึงเริ่มทำสาขาต้นแบบ ในรูปแบบสแตนด์อะโลน ชื่อว่า เดอะวอฟเฟิล เอ็กซ์พีเรียน (The Waffle experience) ปัจจุบัน ตั้งอยู่ที่ซีคอนสแควร์ เป็นการสร้างเมนูใหม่ๆ ขึ้นมา โดยมีวอฟเฟิลเป็นจุดเริ่มต้น"

คุณสุทธิชัย กล่าวถึงเดอะวอฟเฟิล เอ็กซ์พีเรียน ว่า "เดอะวอฟเฟิลที่ขยายสาขาไปกว่า 100 แห่งอยู่ในรูปแบบคีออสจำหน่ายให้คนซื้อนำกลับบ้าน ตอบโจทย์กลุ่มคนระดับกลางลงล่าง แต่เดอะวอฟเฟิล เอ็กซ์พีเรียน ถือเป็นประสบการณ์ใหม่ ของคนที่อยากจะรู้จักวอฟเฟิลมากขึ้น เป็นการคิดรูปแบบเมนูโดยมีวอฟเฟิลเป็นพระเอกรวมแล้วกว่า 20 เมนู เพื่อเสิร์ฟลูกค้าระดับบน นอกจากนั้นยังมี เครื่องดื่ม ไอศกรีม และที่ถือเป็นเมนูเด่นอีกรายการหนึ่งคือ โยเกิร์ตบลาซสูตรพิเศษ ไว้บริการลูกค้า"
 

 

แม้จะมุ่งหวังสร้างเดอะวอฟเฟิล เอ็กซ์พีเรียน ไว้เสิร์ฟตลาดต่างประเทศ แต่กระนั้น คุณสุทธิชัย ว่าหากมีผู้ประกอบการในประเทศสนใจลงทุน ไม่เคยปิดกั้น โดยวางระบบเดอะวอฟเฟิล เอ็กซ์พีเรียน ไว้ 2 ขนาด ได้แก่ รูปแบบสตูดิโอ ใช้พื้นที่ราว 10-20 ตารางเมตร ให้บริการลูกค้าแบบซื้อกลับไปรับประทานที่บ้าน

ส่วนอีกลักษณะหนึ่งเรียกว่า รูปแบบสูตร ใช้พื้นที่ประมาณ 70 ตารางเมตร มีที่นั่งให้ลูกค้าไม่ต่ำกว่า 20 ที่นั่ง ตกแต่งร้านโดดเด่นด้วยบรรยากาศสบายๆ เหมาะแก่การพบปะสังสรรค์

สำหรับการลงทุน เดอะวอฟเฟิล เอ็กซ์พีเรียน ราวหลักแสนถึงหลักล้านบาท ขึ้นอยู่กับขนาดพื้นที่ โดยคุณสุทธิชัย ว่า จะเริ่มต้นขยายธุรกิจไปยังประเทศเพื่อนบ้าน "มีผู้สนใจทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ ติดต่อขอร่วมทำธุรกิจ ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างวางแผน ทั้งในส่วนของระบบการจัดการ และรูปแบบจะนำไปเปิด แต่แน่นอนว่า เดอะวอฟเฟิล เอ็กซ์พีเรียน เป็นหนึ่งในรูปแบบที่ต้องเดินทางไป

"เรื่องการกำหนดจำนวนสาขา ยังเป็นสิ่งที่พิจารณา อย่างประเทศสิงคโปร์ คาดไว้ 10 สาขา มาเลเซีย 50 สาขา ส่วนที่ประเทศจีนเปิดได้หลักพันสาขา เพราะเป็นประเทศที่มีประชากรหนาแน่น"

ถามถึงเหตุผล กับการเลือกประเทศเริ่มต้นนำสินค้าไปเปิดจำหน่าย คุณสุทธิชัย ว่า "มีหลายประเทศอยู่ในความสนใจ แต่เหตุผลที่เลือก 3 ประเทศดังกล่าวมา เพราะความคุ้นเคย มีการลงรายละเอียดไว้ชัดเจนแล้ว จึงคาดว่าภายในสิ้นปีนี้ เดอะวอฟเฟิล คงได้เข้าไปอยู่ในตลาดทั้ง 3ประเทศก่อน

ส่วนประเทศอื่นที่อยู่ในความสนใจ ยกตัวอย่าง ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เวียดนาม กัมพูชา ลาว เกาหลี สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย หรือแม้แต่ ซีเรีย ดูไบ จัดเป็นประเทศน่าลงทุน ซึ่งเดอะวอฟเฟิลจะค่อยๆ ก้าวไปทีละขั้น"

ถามถึงการศึกษาข้อมูลในตลาดต่างประเทศ คุณสุทธิชัย ว่า ได้มีโอกาสเดินทางไปออกงานแสดงสินค้า ที่ประเทศสิงคโปร์ โดยกรมส่งเสริมการส่งออก ผู้บริโภคของเขาชอบเดอะวอฟเฟิล หลายคนติดต่อขอนำไปขายในวันนั้น ตรงนี้ทำให้เห็นภาพว่าตลาดมีความต้องการ หรืออย่างเคยเดินทางไปประเทศเกาหลี เช่นกัน ประชากรจำนวนมากชอบขนมวอฟเฟิล เขารู้จักวอฟเฟิลมากกว่าคนไทย ส่วนราคาขายต่อชิ้นประมาณ 40-150 บาท นี่คือโอกาสที่เดอะวอฟเฟิลมองเห็น เพราะเราเชื่อมั่นว่าด้านรสชาติ เดอะวอฟเฟิล ไม่เป็นสองรองใคร"

สนใจติดต่อ ธุรกิจ เดอะวอฟเฟิล เดินทางไปได้ที่ บริษัท เดอะวอฟเฟิล ซัพพลาย จำกัด เลขที่ 419/41-44 ซอยศรีด่าน 29 ถนนศรีนครินทร์ ตำบลสำโรงเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ โทรศัพท์ (02) 748-6410-11

 

หากสนใจก้าวสู่ธุรกิจแฟรนไชส์

  1. ต้องเลือกสินค้าที่สามารถยึดเป็นอาชีพได้ในระยะยาว
  2. สินค้าและบริการ ต้องดี
  3. เป็นสินค้าเลียนแบบได้ยาก
  4. ไม่ใช่สินค้าแฟชั่น
  5. ทำธุรกิจโดยหวังกำไรสมเหตุสมผล เป็นไปตามความเหมาะสม
  6. นโยบายองค์กรต้องชัดเจน
  7. ควรพิจารณาเงินในกระเป๋า แยกเงินลงทุน ไม่ให้กระทบต่อความเป็นอยู่ของครอบครัว
  8. ผู้ประกอบการต้องรู้และเข้าใจเกี่ยวกับการค้า
มุมมองของเดอะวอฟเฟิล กับการขยายสาขา
  1. ทำเล "ต้องเป็นทำเลจร มีคนผ่านไปผ่านมาหลักพันคนขึ้นไป โอกาสขายได้จะอยู่ที่หลักร้อย อย่างเช่น สถานีรถไฟฟ้า อนุสาวรีย์ฯ สถานีรถไฟหัวลำโพง สถานีขนส่งหมอชิต รวมทั้งในห้างสรรพสินค้า
  2. เลือกแฟรนไชซีที่มีหัวใจการค้า รักที่จะลงมือทำ ไม่ใช่เพียงแค่มีเงินในกระเป๋า "หลายคนสนใจซื้อสิทธิ์ พร้อมลงทุน แต่ต้องตอบปฏิเสธ เพราะสิ่งที่มองเห็นคือเขาไม่เข้าใจธุรกิจ ไม่เข้าใจการมองทำเล โอกาสไปไม่รอดสูงมาก
  3. กลุ่มเป้าหมายต้องชัดเจน "สำหรับเดอะวอฟเฟิล เจาะกลุ่มแม่บ้าน เพราะกำลังซื้อมาก เดอะวอฟเฟิลเคยไปเปิดสาขาหน้าโรงเรียน มีคนนับพันคน แต่ยอดขายกลับน้อย เหตุผลคือ เด็กนักเรียนจะซื้อครั้งละ 1 ชิ้น และจะไม่ซื้อบ่อย หรืออย่างในช่วงปิดเทอม การค้าขายเริ่มสะดุด ฉะนั้น ถ้ามีผู้สนใจขอซื้อสิทธิ์ โดยเลือกทำเลลักษณะเช่นนี้ ผมจะอธิบายเหตุผล เนื่องจากสิ่งสำคัญที่เดอะวอฟเฟิลต้องการคือ ความเติบโตที่จะต้องก้าวไปด้วยกัน"
  4. ยอดขายต้องคุ้มเกินค่าใช้จ่าย "ต้องดูว่าต้นทุนค่าเช่าพื้นที่เท่าใด สมมติ 500 บาท โอกาสขายมีมากน้อยเพียงใด และถ้าต้องจ้างพนักงาน วันละ 300 บาท ทั้งหมด 800 บาท ฉะนั้น ต้องรู้แล้วว่าต่อวัน ต่อเดือน ควรมียอดขายที่เท่าใดจึงจะคุ้ม ผมถึงบอกว่า ทำเล สำคัญมาก"
     
อ้างอิงจาก เส้นทางเศรษฐี

ขอขอบคุณรูปภาพจาก  https://www.facebook.com/TheWaffleSupply
ดาวเด่นแฟรนไชส์ยอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
รวบรวมขนมปัง 20 บาท มาเอาใจคนอยากมีร้าน
156,196
ชานมไข่มุกปลุกตลาด 7 พันล้าน เทรนด์‘ไต้หวันกลับซ..
99,215
กาแฟสด ชาวดอย ลงทุนน้อย ความเสี่ยงต่ำ ความคล่องต..
80,796
เนสท์เล่ ปูพรมร้านไอศกรีมลงทุนเอื้ออาทร สานฝันคน..
77,054
ปั่นแหลก น้ำผลไม้สด แซงโค้งเข้าวินสร้างอาชีพ
76,344
“เคพีเอ็นพลัส” แฟรนไชส์อะไหล่มอ’ไซด์ ลั่นขยาย100..
54,209
ดาวเด่นแฟรนไชส์มาใหม่
ดาวเด่นแฟรนไชส์อื่นในหมวด