บทความทั้งหมด    บทความแฟรนไชส์    โอกาสทางธุรกิจ    แฟรนไชส์ต่างประเทศ
265
3 นาที
19 พฤศจิกายน 2568
Abiko Curry แฟรนไชส์ฮิตจากโซล สู่เวทีโลกด้วยสูตรแกงกะหรี่ 100 ชั่วโมง
 

เชื่อหรือไม่ว่า ในอุตสาหกรรมอาหารของโลก แบรนด์ที่สามารถผสมผสาน “รสชาติ ความเรียบง่าย และเอกลักษณ์” เข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว ย่อมมีโอกาสเติบโตสูงในตลาดแฟรนไชส์ระดับโลก และ ABIKO CURRY (อาบิโกะ คาเร่) คือหนึ่งในนั้น
 
ก่อตั้งขึ้นในปี 2008 ที่ย่านฮงแด (Hongdae) กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ แบรนด์นี้เริ่มต้นจากร้านแกงกะหรี่สไตล์ญี่ปุ่นขนาดเล็ก ก่อนพัฒนาเป็นแฟรนไชส์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในเกาหลีใต้ ด้วยจำนวนสาขามากกว่า 130 แห่งทั่วโลก และกำลังขยายตัวสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตะวันออกกลาง และตลาดตะวันตก

จากฮงแดสู่เวทีโลก
 

ภาพจาก www.abiko-curry.com

ABIKO CURRY ถือกำเนิดขึ้นจากแรงบันดาลใจของอาหารญี่ปุ่นที่ผสมกลิ่นอายแบบเกาหลี จุดเริ่มต้นในฮงแด ย่านที่เป็นศูนย์รวมของวัฒนธรรมคนรุ่นใหม่ ช่วยให้แบรนด์ได้รับความนิยมรวดเร็วในหมู่วัยรุ่นและคนทำงานเมือง
 
แม้จะไม่มีข้อมูลอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับ “ผู้ก่อตั้ง” เฉพาะบุคคล แต่บริษัทผู้ดูแลแฟรนไชส์คือ Kusan Korea Co., Ltd. ซึ่งเป็นผู้พัฒนาและบริหารสิทธิ์แฟรนไชส์ในประเทศเกาหลีใต้ และขยายไปต่างประเทศผ่านระบบ “มาสเตอร์แฟรนไชส์” (Master Franchise Model)
 
ความสำเร็จจากสูตรมาตรฐาน + การปรับแต่งได้
 
สิ่งที่ทำให้ ABIKO CURRY แตกต่าง คือแนวคิด “Standardized but Customizable” เมนูหลักเหมือนกันทั่วโลก แต่เปิดโอกาสให้ลูกค้า “ปรับแต่ง” ได้ตามชอบ
  1. สูตรลับ 100 ชั่วโมง ซอสแกงกะหรี่ถูกเคี่ยวอย่างช้านานกว่า 100 ชั่วโมง เพื่อให้ได้รสชาติกลมกล่อม เข้มข้น และเงางามเฉพาะตัว
  2. เลือกระดับความเผ็ดได้หลายระดับ ตั้งแต่ mild จนถึง extra spicy เพื่อเข้าถึงทุกกลุ่มลูกค้า
  3. ท็อปปิ้งหลากหลาย เช่น หมูทอด ไก่ทอด กุ้งทอด ชีส เห็ดครีม หรือออนเซ็นไข่
  4. เมนูยืดหยุ่น มีทั้งข้าวแกงกะหรี่ อูด้ง และพาสต้าซอสแกงกะหรี่
โมเดลนี้ทำให้ ABIKO CURRY ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ที่ต้องการ “ทางเลือกส่วนตัว” แต่ยังคงมาตรฐานคุณภาพเหมือนกันทุกสาขา ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการขยายแฟรนไชส์ระดับโลก
 
โมเดลแฟรนไชส์ที่ออกแบบมาเพื่อเติบโต
 

ภาพจาก www.facebook.com/abikocurryrestaurant

ABIKO CURRY วางโครงสร้างแฟรนไชส์แบบ “Fast Casual Compact” ร้านขนาดกลาง บริการรวดเร็ว ครัวมาตรฐาน และไม่ต้องใช้เชฟระดับมืออาชีพ
 
ร้านหนึ่งใช้พื้นที่เฉลี่ยเพียง 60–70 ตารางเมตร แต่สามารถสร้างรายได้เฉลี่ยกว่า 3.9 ล้านวอนต่อวัน (ราว 3,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ) ตามข้อมูลแฟรนไชส์ในเกาหลีใต้ ซึ่งสะท้อนถึงความสามารถในการทำกำไรต่อพื้นที่ที่สูง
 
โมเดลนี้เน้น “ระบบซ้ำได้ง่าย” (Replicable Model) ทุกสาขาใช้ซอสแกงกะหรี่สำเร็จรูปจากครัวกลาง ทำให้รักษารสชาติและมาตรฐานได้แม้ขยายหลายประเทศ
 
การตลาดและการขยายต่างประเทศ
 
ABIKO CURRY ใช้จุดแข็งด้าน “อัตลักษณ์ญี่ปุ่น-เกาหลี” เป็นหัวใจของกลยุทธ์การตลาด แบรนด์นำเสนอภาพลักษณ์ที่เรียบง่าย ทันสมัย และเข้าถึงง่าย โดยไม่เน้นความหรูหรา แต่สร้างความประทับใจผ่าน “รสชาติและประสบการณ์ในร้าน”
 
ในเกาหลีใต้ แบรนด์เติบโตผ่านระบบแฟรนไชส์กว่า 100 สาขา และเริ่มขยายไปต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่น, ไต้หวัน, ไทย, และตะวันออกกลาง โดยใช้ระบบ Master Franchise ที่ปรับสูตรและรสชาติให้เข้ากับตลาดแต่ละประเทศ
 
สิ่งที่น่าสนใจคือ การใช้เทคโนโลยีในร้าน เช่น ระบบสั่งอาหารผ่านแท็บเล็ต การบริการแบบ self-order และการเชื่อมต่อกับบริการเดลิเวอรี่ในเมืองใหญ่ ซึ่งช่วยให้แบรนด์ปรับตัวเข้ากับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคดิจิทัล
 
กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย 


ภาพจาก www.facebook.com/abikocurryrestaurant
  • วัยรุ่นและคนทำงานเมือง ถือเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักที่ชื่นชอบอาหารที่บริการรวดเร็ว รสชาติจัดจ้าน ปรับแต่งรสชาติได้
  • ครอบครัว มีเมนู Kids Set และมีรสชาติหลายระดับทั้งเผ็ดมาก เผ็ดไม่มาก เรียกได้ว่าคนที่ไม่ชอบรสจัดก็ไปทานได้ 
  • ผู้บริโภคต่างประเทศ ที่ต้องการสัมผัสอาหารญี่ปุ่นในรูปแบบใหม่แต่เข้าถึงได้ง่าย
ABIKO CURRY จึงไม่ใช่เพียงร้านอาหาร แต่เป็นแบรนด์ที่สร้างประสบการณ์ และเปิดพื้นที่ให้ลูกค้าเลือกอาหารเองทุกขั้นตอน 
 
เปรียบเทียบกับคู่แข่ง Coco Ichibanya และตลาดแกงกะหรี่ในเกาหลี
 
ในตลาดเกาหลี แบรนด์ใหญ่ที่สุดคือ Coco Ichibanya จากญี่ปุ่น ซึ่งมีชื่อเสียงระดับโลกและสาขาหลายสิบแห่งในโซล
 
อย่างไรก็ตาม ABIKO CURRY สามารถสร้าง “จุดต่าง” ได้อย่างชัดเจน ด้วยภาพลักษณ์ที่สดใหม่กว่า รสชาติเข้มข้นแบบเกาหลี และราคาที่เข้าถึงง่ายกว่า
 
ขณะที่ Coco Ichibanya เป็น “ญี่ปุ่นแท้” ที่เน้นความสะอาดและความเรียบง่าย ABIKO กลับนำเสนอความสนุกและความกล้าที่แตกต่างในรสชาติ ทำให้ดึงดูดกลุ่มวัยรุ่นและผู้บริโภครุ่นใหม่ได้ดีกว่าในบางตลาด
 
จุดเด่นของแบรนด์


ภาพจาก www.abiko-curry.com
  • เมนูหลักชัดเจน – โฟกัสเฉพาะ “แกงกะหรี่” ทำให้บริหารจัดการง่าย ไม่ซับซ้อน
  • แฟรนไชส์ต้นทุนต่ำกว่าแบรนด์ใหญ่ – เมื่อเทียบกับเครือ F&B ระดับสากล เช่น Coco Ichibanya
  • เมนูปรับรสชาติได้หลากหลาย – สามารถปรับระดับความเผ็ดและวัตถุดิบให้เข้ากับรสนิยมของแต่ละประเทศ
  • ภาพลักษณ์ทันสมัย – ผสมผสานความเป็นญี่ปุ่นและเกาหลี เหมาะกับกลุ่มลูกค้าคนเมือง
โอกาสในตลาดไทย
  • เทรนด์อาหารญี่ปุ่น–เกาหลี ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นและคนทำงานเมือง
  • โลเคชันที่เหมาะสม เช่น ห้างสรรพสินค้า และ community mall ที่มีการสัญจรสูง
  • ด้วยจุดแข็งด้านรสชาติและความรวดเร็ว Abiko Curry สามารถเจาะตลาด “อาหารจานด่วนคุณภาพดี” ได้ง่ายในไทย
  • มีศักยภาพในการเติบโตโดยใช้กลยุทธ์แฟรนไชส์แบบเดียวกับที่ประสบความสำเร็จในเกาหลี
  • เงินลงทุนแฟรนไชส์เริ่มต้นประมาณ 750,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 27–28 ล้านบาทไทย)
บทสรุป


ภาพจาก www.facebook.com/abikocurryrestaurant

ความสำเร็จของ ABIKO CURRY ไม่ได้เกิดจากรสชาติที่อร่อยเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจาก “ระบบธุรกิจที่คิดมาอย่างมีกลยุทธ์” สูตรแกงกะหรี่ที่ใช้เวลาปรุง 100 ชั่วโมง คือ “หัวใจ” ที่สร้างความแตกต่าง
 
แต่สิ่งที่ทำให้แบรนด์เติบโต คือ “สมอง” ของระบบแฟรนไชส์ที่วางแผนอย่างมีประสิทธิภาพ
 
แบรนด์นี้แสดงให้เห็นว่าความเรียบง่ายของเมนูเพียงชนิดเดียว (แกงกะหรี่) หากออกแบบระบบบริหารและประสบการณ์ลูกค้าได้ดี ก็สามารถกลายเป็นแฟรนไชส์ระดับโลกได้
 
ในอนาคต หาก ABIKO CURRY รักษามาตรฐานรสชาติ พร้อมพัฒนาเทคโนโลยีร้านและกลยุทธ์การตลาดในแต่ละประเทศได้ต่อเนื่อง อาจก้าวขึ้นเป็น “ผู้นำตลาดแกงกะหรี่เอเชีย” ที่ท้าทายยักษ์ใหญ่อย่าง Coco Ichibanya ได้จริง
 
อ้างอิงข้อมูล 
 ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
บทความแฟรนไชส์ยอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
COCA จากร้านสุกี้เล็กๆ สู่ต้นแบบแฟรนไชส์ไทยขยายต..
1,082
โกลเด้นเบรน (Golden Brain ) รับรางวัล “Outstandi..
795
Sub-Area License สุดยอดโมเดลแฟรนไชส์ 7-Eleven ที..
738
กว่าจะยิ่งใหญ่ แฟรนไชส์สะดวกซื้อ 7- Eleven
465
Luckin Coffee แฟรนไชส์กาแฟจีน ล้มทุกแบรนด์ แซงทุ..
422
บทความแฟรนไชส์มาใหม่
บทความอื่นในหมวด