บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    วางแผนขยายธุรกิจ    โลจิสติกส์ ขนส่ง AEC
5.6K
2 นาที
28 มกราคม 2557
พฤติกรรมผู้บริโภคในประเทศอาเซียน+6 : สาธารณรัฐประชาชนจีน
 
สาธารณรัฐประชาชนจีน นับเป็นตลาดการค้าที่สำคัญอันดับ 1 ของไทย โดยในช่วง 6 เดือนแรก (มกราคม – มิถุนายน) 2556 มีมูลค่าการค้าในภาพรวมประเทศ จำนวน 928,661.41 ล้านบาท ขณะที่ SMEs มีมูลค่าการค้า 344,901.65 ล้านบาท และเป็นตลาดหลักอันดับ 1 ทั้งในด้านการส่งออก และนำเข้าสินค้าของทุกวิสาหกิจของไทย
 
ด้วยศักยภาพของจีน ที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของโลก โดยมีอัตราการเติบโตด้วยตัวเลข 2 หลักเกือบทุกปี จากตัวเลขของธนาคารโลกในปี ค.ศ.2011 พบว่า ประเทศจีนมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่กว่าประเทศไทยถึง 18.8 เท่า ผลจากการพัฒนาเศรษฐกิจที่มุ่งเน้นการผลิตภาคอุตสาหกรรมป้อนให้กับการบริโภคของตลาดโลก ส่งผลให้ชาวจีนมีรายได้อยู่ในระดับสูง จากการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคเชิงลึกในประเทศอาเซียน+6 ของ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.)

โดยศึกษากลุ่มผู้บริโภคในเมืองเซี่ยงไฮ้และเมืองเทียนสิน ซึ่งเป็นเมืองเศรษฐกิจขนาดใหญ่เป็นอันดับ 1 และ 2 ของประเทศจีน พบว่า ตลาดเป็นของผู้บริโภค ชาวจีนทั้ง 2 เมืองมีกำลังซื้อสูงมาก และนิยมสินค้าแบรนด์เนมจากประเทศตะวันตก เนื่องจากมีทัศนคติว่าราคามาพร้อมคุณภาพและการส่งเสริมภาพลักษณ์ของตน ซึ่งมีพฤติกรรมการบริโภคสินค้า ดังนี้

อุตสาหกรรมอาหาร ชาวจีนเลือกบริโภคอาหารจีนเป็นพื้นฐาน แต่ปัจจุบันอาหารจากต่างประเทศเริ่มมีบทบาทมากขึ้น รวมถึงอาหารไทยที่ได้รับความนิยมในฐานะเป็นทางเลือกที่ 3 ทั้งนี้ชาวจีนโดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นเก่า นิยมปรุงอาหารเองที่บ้าน จึงมีการสำรองอาหารสดแช่แข็งไว้ ขณะที่กลุ่มคนที่มีความรู้สูงซึ่งทำงานในองค์กรใหญ่ๆ จะรับประทานอาหารนอกบ้านก่อนกลับบ้าน และนิยมสำรองอาหารสำเร็จรูปพร้อมปรุงหรือพร้อมรับประทานไว้ในตู้เย็น ซึ่งกระแสของคนรุ่นใหม่นี้ ผลักดันให้เกิดการผลิตอาหารสำเร็จรูปบรรจุหีบห่อวางขายตามห้างสรรพสินค้า
 
สำหรับร้านอาหารไทยซึ่งเป็นทางเลือกที่ 3 ของชาวจีน ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและนับเป็นธุรกิจที่มีอนาคต เห็นได้จากเมืองเซี่ยงไฮ้ ปัจจุบันมีร้านอาหารไทยจำนวน 95 ร้าน แต่มีเจ้าของเป็นคนไทยเพียง 5 ร้านเท่านั้น นอกจากนี้พบว่า ร้านอาหารไทยเป็นช่องทางการแนะนำผลิตภัณฑ์อาหารที่มีศักยภาพอีกช่องทางหนึ่ง
 
อุตสาหกรรมเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม ผู้บริโภคนิยมและติดตามกระแสแฟชั่น เสื้อผ้า เครื่องประดับ ยี่ห้อดังจากอิตาลี ฝรั่งเศส สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น รวมถึงสีสันก็เป็นไปตามฤดูกาลที่นักออกแบบเป็นผู้กำหนด และต้องการให้ผู้ขายทำหน้าที่เป็นปรึกษาแนะนำการผสมผสานรูปแบบสีสันของเสื้อผ้า เครื่องประดับ รองเท้า กระเป๋า  ดังนั้นผู้ประกอบการไทยที่สนใจตลาดประเทศจีน จึงควรทำความเข้าใจกระแสแฟชั่นของตะวันตกเป็นกรณีศึกษา และต้องผลิตสินค้าให้มีคุณภาพและรูปแบบที่เทียบเท่ากับสินค้าแบรนด์เนมจากตะวันตก หรือเทียบเท่าผลิตภัณฑ์แฟชั่นชั้นสูงของจีนจึงจะประสบความสำเร็จ
 
อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ ชาวจีนพร้อมที่จะซื้อเครื่องประดับคุณภาพของแท้ราคาแพง หรือเครื่องประดับยี่ห้อดัง ทำมาจากวัสดุแท้หรือวัสดุหายาก โดยเฉพาะเครื่องประดับของคาร์เทียร์ (Cartier) เป็นยี่ห้อที่อยู่ในใจของคนส่วนมากในเซี่ยงไฮ้

โอกาสของสินค้าไทยในประเทศจีน
 
อุตสาหกรรมที่มีอนาคตในการทำตลาดในประเทศจีนของผู้ประกอบการไทย คืออุตสาหกรรมอาหาร ทั้งร้านอาหารและผลิตภัณฑ์อาหารไทย แต่สำหรับสินค้าแฟชั่นเสื้อผ้านับเป็นตลาดที่แข่งขันยาก หากสินค้าไทยไม่สามารถผลิตให้มีคุณภาพและรูปแบบเทียบเท่าสินค้าท้องถิ่น หรือสินค้าแบรนด์เนมจากประเทศตะวันตก ขณะที่สินค้าประเภทเครื่องประดับยังมีโอกาส ถ้าสามารถทำสินค้าคุณภาพและเจาะตลาดเฉพาะกลุ่ม โดยผลิตจำนวนน้อยชิ้น เน้นที่รูปแบบและรูปลักษณ์ของสินค้าที่ผู้สวมใส่รู้สึกได้ถึงความแตกต่างจากคนอื่น อย่างมีรสนิยมและเห็นได้ชัดในสังคม
 
อย่างไรก็ดี จากผลการศึกษาในครั้งนี้ พบว่าประเทศที่น่าสนใจในการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการ SMEs ของไทยไปทำการค้า เรียงลำดับจากมากที่สุดไปจนถึงน้อย ได้แก่ จีน มาเลเซีย และอินโดนีเซีย แต่การจะครองใจผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อสูงๆ ในประเทศเหล่านี้ ผู้ประกอบการจะต้องทำการศึกษาเชิงลึกด้วยตัวเองเพื่อให้เข้าใจตลาดอย่างถ่องแท้เมื่อเปรียบเทียบกับศักยภาพของตัวเอง
 
ข้อเสนอแนะสำหรับผู้ประกอบการ SMEs ไทย
  1. ผู้ประกอบการ SMEs ไทย ควรรวมตัวกันจากผู้ผลิตรายย่อยๆ ที่มีความแตกต่างในทักษะและศักยภาพ เข้าร่วมกันทำตลาดภายใต้แบรด์เดียวกัน เช่น เสื้อผ้าหญิง เสื้อผ้าชาย กระเป๋า รองเท้า และหารูปแบบการทำธุรกิจที่ทุกคนมีส่วนร่วมเป็นเจ้าของด้วยกัน ซึ่งจะทำให้มีพลังในการต่อสู้มากกว่า
  2. ค้นคว้าหาความรู้ด้านการบริหารธุรกิจแบบกิจการผลิตสินค้าและการทำตลาดระดับสูง
  3. แสวงหาแนวทางการนำเสนอสินค้าและบริการใหม่ๆ ที่น่าสนใจในแต่ละตลาด เช่น กลุ่มเด็ก หรือกลุ่มผู้สูงอายุซึ่งกำลังเป็นตลาดที่น่าสนใจของประเทศจีน         
สำหรับผู้สนใจข้อมูลผลการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคในกลุ่มประเทศ ASEAN+6 สามารถติดตามได้ที่ www.sme.go.th

อ้างอิงจาก สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.)
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
612
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
518
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
477
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
436
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
423
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
419
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด