บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
3.7K
2 นาที
20 ธันวาคม 2561
หมดยุคเสือนอนกิน! ธุรกิจอพาร์ทเม้นท์ให้เช่า
 

คิดกันเล่นๆ ถ้าเรามีเงินทุนสักก้อน มีที่ดินสักแปลง เราจะใช้ทำอะไร? คำตอบที่ได้ส่วนใหญ่มักบอกว่า “ทำอพาร์ทเม้นท์” ความเชื่อเดิมๆที่มองว่านี่คือธุรกิจ “เสือนอนกิน” สร้างห้องไว้รอคนมาเช่า ถึงเดือนก็รับเงิน สบายๆ  แต่ ณ วันนี้ คำว่า “เสือนอนกิน” ไม่ใช่จะเกิดขึ้นได้ง่ายๆ ใครที่กำลังมองหาช่องทางลงทุนแบบสร้างอพาร์ทเม้นท์ให้เช่าลองมาฟังข้อมูลน่าสนใจที่ www.ThaiFranchiseCenter.com นำมาฝากแล้วค่อยตัดสินใจกันอีกทีว่าธุรกิจนี้ยังน่าสนใจแค่ไหน
 
ขั้นแรกเราลองมาคำนวณต้นทุนกำไรจากธุรกิจก่อนว่าเป็นอย่างไร
 

สมมุติเรามีที่ดินเปล่า และสร้างห้องพักได้ประมาณ 20 ห้อง ราคาค่าก่อสร้างและเฟอร์นิเจอร์ ประมาณ 6,000,000 บาท แต่หากเป็นในพื้นที่กรุงเทพฯ ราคานี้คงเป็นไปไม่ได้และจะต้องขยับสูงกว่านี้แน่ และถ้าเราทำงานประจำมีเงินเดือนประมาณ 30,000 บาท หากไม่มีเงินลงทุนก็ต้องขอกู้จากธนาคาร ที่ส่วนใหญ่ให้กู้ในระยะเวลา 10 ปีสำหรับหอพัก ดอกเบี้ยประมาณ 1% ต่อเดือน คือถ้ากู้มา 6 ล้าน เราต้องจ่ายดอกเบี้ยเดือนละ 60,000 บาท ในเวลา 10 ปี
 
ถ้าเราสร้างหอพักเสร็จเปิดให้เช่า 20 ห้อง คิดค่าเช่าเดือนละ 3,000 ในกรณีที่มีคนเช่าเต็มทุกห้อง รายได้ต่อเดือนคือ 60,000 บาท  ใน 1 ปีมีรายได้ 720,000 บาท  แต่ในความเป็นจริงห้องเช่าอาจไม่ได้เต็มทุกห้อง รวมถึงการย้ายเข้าย้ายออกที่ทำให้รายได้เราไม่แน่นอน ลองคิดแค่ 70% ตลอดทั้งปี เราจะมีรายได้ 504,000 บาท นั้นคือโอกาสที่เราจะขาดทุนนั้นมีมากกว่าได้กำไร  จึงทำให้หลายคนรู้สึกว่านี่ไม่ใช่ธุรกิจเสือนอนกินอีกต่อไป คนที่ทำลงไปแล้วบ่นดังๆ อยากขายทิ้งให้รู้แล้วรู้รอดด้วยซ้ำไป
 
ยัง..ยังไม่จบเท่านี้ เมื่อกี้คือคำนวณเรื่องดอกเบี้ยและรายได้ ค่าใช้จ่ายหอพักนั้นมีจิปาถะอีกเยอะประเภทงานซ่อมต่างๆ รวมถึงค่าภาษีโรงเรือนในแต่ละปี และเดี๋ยวนี้หอพักคนเช่าต้องการเรื่องความปลอดภัย ก็ต้องมีเงินเดือนของ รปภ. กลายเป็นต้นทุนที่พอกพูนสวนทางกับรายได้ที่ไม่ได้ดีอย่างที่คิดนัก

 
หนักข้อยิ่งขึ้นไปอีก เมื่อมีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา ลงวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2561 เรื่อง “ให้ธุรกิจการให้เช่าอาคารเพื่ออยู่อาศัยเป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา พ.ศ.2561”  เป็นกฎหมายที่กำหนดขึ้นมาเพื่อป้องกันผู้เช่าให้ได้รับความเป็นธรรมจากสัญญาเช่า เท่ากับว่าเป็นการทับถมภาะไปทางฝั่งเจ้าของธุรกิจมากยิ่งขึ้น เข้าตำรากลืนไม่เข้าคายไม่ออก ซึ่งหากเราทำความเข้าใจกฎหมายฉบับนี้จะพบว่า
  1. ผู้ให้เช่าไม่สามารถเรียกเก็บค่าเช่าล่วงหน้าได้เกินกว่า 1 เดือน และเงินประกันมูลค่าเกินกว่าค่าเช่า 1 เดือน 
  2. ผู้เช่ามีสิทธิบอกเลิกสัญญาเช่าก่อนสิ้นสุดสัญญาได้ โดยต้องบอกกล่าวเป็นลายลักษณ์อักษรให้ผู้ให้เช่ารับทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 30 วัน
  3. ผู้ให้เช่าไม่สามารถกำหนดอัตราค่าบริการกระแสไฟฟ้าและน้ำประปา เกินกว่าอัตราที่ผู้ให้บริการกระแสไฟฟ้าน้ำประปาเรียกเก็บจากผู้ให้เช่าได้
ในมุมของคนเช่าอาจเฮดังๆ แต่สำหรับผู้ให้เช่าเท่ากับว่ากฎหมายใหม่นี้ซ้ำเติมธุรกิจให้ยิ่งแย่มากขึ้น กลายเป็นภาระและความเสี่ยงตกกับผู้ให้เช่าเต็มๆ 

 
ซึ่งหากจะวิเคราะห์เจาะลึกลงไปว่าสาเหตุสำคัญที่ทำให้ธุรกิจอพาร์ทเม้นจากเสือนอนกินกลายเป็นธุรกิจน่าปวดหัว มูลเหตุสำคัญนั้นมาจากอะไร ถ้าไม่นับรวมเรื่องคู่แข่งที่มีมากขึ้น กฎหมายที่เอื้อประโยชน์ให้ผู้เช่ามากเกินไป สิ่งที่เป็นตัวแปรสำคัญอีกประการคือ “พฤติกรรมลูกค้าที่เปลี่ยนไป”
 
ข้อมูลจากบริษัทผู้ก่อสร้างอาคารชุด และคอนโดอย่าง พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ระบุว่า
  1. คอนโดที่เป็นที่นิยมในการเช่า อยู่ในโซนสุขุมวิทและสุขุมวิทรอบนอก โดยจากผู้เช่าจำนวนประมาณ 1,000 คน มีการเช่าอยู่ในโซนดังกล่าว 700 กว่าคน หรือคิดเป็น 77%
  2. รูปแบบห้องที่ได้รับความนิยมในการเช่า อันดับ 1 คือรูปแบบสตูดิโอและ 1 ห้องนอน เนื่องจากคอนโดปัจจุบัน ห้องสตูดิโอมักทำในแบบมีฉากกั้นหรือสามารถแบ่งสัดส่วนเป็น 1 ห้องนอนได้  คิดเป็น 70%  อันดับ 2 คือรูปแบบ 2 ห้องนอน คิดเป็น 22% และรูปแบบ 3 ห้องนอนขึ้นไป คิดเป็น 8%
  3. สัดส่วนราคาเช่า พบว่า ลูกค้าเช่าห้องราคาน้อยกว่า 30,000 บาทต่อเดือน คิดเป็นสัดส่วน 65% เช่าห้องราคา 30,000-50,000 บาทต่อเดือน 
พิจารณาจากข้อมูลเหล่านี้จะพบว่าสิ่งที่เป็นตัวแปรการตัดสินใจเช่าของลูกค้าคือความสะดวกสบาย หากสัดส่วนราคาการเช่านั้นใกล้เคียงกันหรือราคาไม่ต่างกันจนมากเกินไป หลายคนตัดสินใจเช่าคอนโดมิเนียม ดีกว่าเข้าอยู่อพาร์ทเม้นท์ เพราะเชื่อมั่นในความสะดวกสบาย ความปลอดภัย  และดูยกระดับการใช้ชีวิตตัวเองให้ดูมีคุณภาพมากขึ้นได้ 


ดังนั้นเราจึงเห็นเทรนด์การลงทุนก่อสร้างคอนโดมิเนียม ผุดมาราวกับดอกเห็ดโดยเฉพาะตามเส้นทางสถานีรถไฟฟ้าต่างๆ ผลกระทบนี้ส่งไปถึงเจ้าของอพาร์ทเม้นท์โดยตรง ที่ยิ่งเป็นหอพักเก่า และไม่ทำนุบำรุง ลูกค้ายิ่งหนีหาย ดังนั้นต้นทุนสำคัญอีกประการของธุรกิจอพาร์ทเม้นท์คือ “การปรับปรุง” ให้ทันสมัยและน่าใช้งานอยู่เสมอ

 
ในภาพรวมอพาร์ทเม้นท์ยังคงน่าสนใจหากอยู่ใกล้สถานศึกษา แต่หากในพื้นที่โดยรอบมหาวิทยาลัยนั้นเยอะเกินไปคนส่วนใหญ่จะเลือกอพาร์ทเม้นท์ที่อยู่ใกล้มหาลัยมากที่สุด ใครที่ลงทุนก่อสร้างอพาร์ทเม้นท์ในจุดที่อยู่ไกลออกไป จะมีความเสี่ยงสูงกว่า สิ่งที่ผู้ลงทุนในธุรกิจอพาร์ทเม้นท์ต้องเร่งปรับตัวนับจากนี้คือ การรีโนเวทอพาร์ทเม้นท์ให้สวยงาม และบริการต่างๆ ต้องมีคุณภาพ ในมุมมองของคนที่จะเข้ามาทำธุรกิจนี้ใหม่คงเป็นเรื่องยากที่กว่าจะก้าวไปถึงจุดคุ้มทุนหรือกำไร

แต่สำหรับคนที่ไม่ได้กู้เงินธนาคารมาลงทุนหรือผ่อนชำระกับธนาคารหมดแล้ว เผื่อรักษาธุรกิจให้อยู่รอดต่อไปก็ต้องใส่ใจในรายละเอียดเกี่ยวกับความสะอาด ความทันสมัย ในยุคที่พฤติกรรมผู้เช่าเปลี่ยนไป เจ้าของธุรกิจอพาร์ทเม้นท์ให้เช่าก็ต้องก้าวตามให้ทันเช่นกัน

 
สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมาย ติดตามได้ที่ goo.gl/Io5k2S
 
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise 


 
ขอบคุณรูปภาพจาก www.facebook.com/plusproperty.agency
 
ขอบคุณข้อมูลจาก  bit.ly/2E078Xybit.ly/2RuZr3H
 
คำว่าหมดยุคเสือนอนกิน!ธุรกิจโรงภาพยนตร์ไม่ได้หมายความว่า “ธุรกิจโรงภาพยนตร์ กำลังจะหายไป” จากเดิมที่โรงภาพยนตร์เหมือนเป็นจุดนัดพบของวัยรุ่น หนุ่มสาว  ไม่รู้จะทำอะไรไม่รู้จะไปเที่ยวไหน ก็ไปดูหนังในโรงภาพยนตร์ นั่นคือภาพในอดีตที่ปัจจุบันสิ่งเหล่านี้ได้เปลี่ยนแปลงไป..
74months ago   3,089  6 นาที
ย้อนกลับไปสัก 10-15 ปีก่อน เป็นยุคเรืองรองของธุรกิจร้านเกมส์และ Internet Café ยุคนั้นถือว่าเฟื่องฟูจริงๆ จำได้ว่าตอนอยู่ประมาณ ม.ปลาย เราเคยสนุกมากกับการไปเล่นเกมส์ Winning เลิกเรียนต้องรีบไปร้านเกมส์บางทีก็ไปไม่ทันคนอื่นเขามาเล่นกันเต็ม ต้องนั่งรอ ก็ยอม ค่าใช้จ่ายในการเล่นก็แค่ 15-..
74months ago   3,293  6 นาที
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
สร้างรายได้จาก กระเบื้องยางSPC วัสดุปูพื้นยอดนิย..
525
ประกาศเซ้ง! แบรนด์แฟรนไชส์จีนหมดแรง แซงไทยไม่ไหว
446
ถอดรหัส Santa Fe Steak รีแบรนด์แล้วยังเหนื่อย?
435
สงครามเย็น จักรวาลชานมไข่มุก ใครจะอยู่ใครจะไป
408
รวมเทคนิค “ดิ้นสู้” วิกฤติร้านอาหารปี 2568 ทำยัง..
404
“Gap Model” ร้านค้าทำดีทุกอย่าง แต่ทำไมลูกค้าไม..
392
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด