บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
2.0K
2 นาที
23 สิงหาคม 2562
หมดยุคเสือนอนกิน! ธุรกิจตู้เติมเงิน


น่าสนใจว่าธุรกิจยุคใหม่ต่อจากนี้จะมีการปรับตัวอย่างไรให้ก้าวทันกระแสเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทต่อการทำธุรกิจอย่างแท้จริง ในอดีตมีหลายธุรกิจที่เคยทำกำไรมหาศาลแต่เมื่อถูก Disrupt ด้วยเทคโนโลยียุคใหม่ ในแง่ผู้บริโภคอาจได้ประโยชน์แต่หลายธุรกิจที่ปรับตัวไม่ทันถึงขั้นต้องปิดกิจการ ลดจำนวนสาขา  รายได้ที่เคยมีมหาศาลก็เริ่มหดหาย ในขณะที่รายจ่ายยังมีเท่าเดิมและมีแต่จะเพิ่มขึ้น นั่นคือปัญหาที่มาของคำว่า “หมดยุคเสือนอนกิน” ไม่เว้นแม้แต่ “ธุรกิจตู้เติมเงิน” ที่พวกเราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี
 
www.ThaiFranchiseCenter.com มองว่าความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ผู้ประกอบการเองที่ต้องมองการณ์ไกลใครที่ขยับปรับตัวได้เร็วกว่าก็มีโอกาสอยู่รอดได้มากกว่า ดังนั้นคำว่าเสือนอนกินในโลกยุคใหม่จึงไม่น่าจะใช้ได้อีกต่อไป เดี๋ยวนี้ไม่มีสินค้าหรือบริการใดๆ ที่จะรอให้ลูกค้าเข้ามาหา มีแต่สินค้าและบริการเหล่านั้นต้องพุ่งเข้าหาลูกค้าให้มากขึ้น
 
จุดเริ่มต้นของธุรกิจ “ตู้เติมเงิน”
 
ภาพจาก bit.ly/2Zrc1Fi

ย้อนไปสัก 5-6 ปีก่อนน่าจะเป็นยุคทองของ “ธุรกิจตู้เติมเงิน” เบอร์หนึ่งของธุรกิจนี้คือ “ตู้บุญเติม” ที่เริ่มวางตลาดครั้งแรกประมาณปี 2551 จุดเริ่มต้นของธุรกิจตู้เติมเงินเริ่มจากความนิยมในการใช้งานโทรศัพท์ระบบ “เติมเงิน” ที่ต้องมีการเติมเงินเข้าระบบก่อนจึงจะใช้บริการได้จากการซื้อบัตรเติมเงินตามร้านค้าปลีกโทรศัพท์มือถือ, ร้านสะดวกซื้อ และตัวแทนเติมเงิน (โมบายท็อปอัพ) นำมาสู่บริการ "ตู้อัตโนมัติ" ในที่สุด
 
จากนั้นธุรกิจตู้เติมเงินก็เติบโตตามลำดับขั้นด้วยวิธีการที่เหมือน “เสือนอนกิน” รอให้คนเข้ามาใช้บริการ โดยภาพรวมมูลค่าการเติมเงินโทรศัพท์มือถือนั้นมีทั้งหมด 31,300 ล้านบาท โดย 22% ของจำนวนดังกล่าว หรือ 7,110 ล้านบาทเป็นการเติมเงินผ่านตู้บุญเติมที่เป็นผู้ครองตลาดอันดับหนึ่ง โดยในปี 2561 ที่ผ่านมา ตู้บุญเติมมีทั้งหมด 130,000 ตู้ มูลค่าการใช้งาน31,500 ล้านบาท ประมาณการว่ามียอดใช้บริการต่อวันถึง 2.1 ล้านครั้ง (เฉลี่ยคนละ 55 บาท/ครั้ง) ผ่านผู้ใช้งานประจำ 25 ล้านเลขหมาย

ภาพจาก bit.ly/2VgdYlV
 
และแน่นอนว่าตลาดตู้เติมเงินเองก็ต้องมีการแข่งขันสูงให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าที่เริ่มมีมากขึ้น เป็นที่มาของตู้เติมงานจากหลายหลายยี่ห้อที่ทยอยเปิดตัวกันออกมาถ้าไม่นับตู้บุญเติมก็ยังมีคู่แข่งอีกหลายรายเช่น True , เติมสบายพลัส เป็นต้น
 
กระแสของ Fintech ส่งผลกระทบต่อธุรกิจตู้เติมเงิน
 
ภาพจาก bit.ly/2P9zlDR

จากกระแสของเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปการเข้ามาของการตลาดออนไลน์ที่เข้มข้น  โดยเฉพาะเรื่องของ Fintech ที่ถือเป็นเรื่องใหม่ที่มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับประชาชนมากขึ้น จนเมื่อธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ได้ประกาศยกเลิกค่าธรรมเนียมการโอนเงิน / ชำระบิลค่าสินค้าและบริการ รวมถึงการเติมเงินผ่านระบบ Internet Banking 
 
เท่ากับว่าเป็นผลกระทบโดยตรงสู่ธุรกิจตู้เติมเงินแม้หลายคนอาจมองโลกแง่ดีว่าเรื่องนี้ไม่มีผลกระทบกับธุรกิจมากนัก ด้วยกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่คือระดับรากหญ้าที่รายได้ไม่สูงและไม่ได้สนใจใช้เทคโนโลยีเติมเงินผ่านระบบ Mobile Banking มากนัก แต่ก็ต้องยอมรับว่ามีผลต่อรายได้ถึงขนาดที่เบอร์หนึ่งในธุรกิจนี้อย่าง “ตู้บุญเติม” ออกมาประกาศชัดว่าปี 2561 ที่ผ่านมาตู้บุญเติมไม่มีการเพิ่ม “ตู้บุญเติม” เพราะต้องการบริหารตู้บุญเติมอีกกว่า 30,000 ตู้ที่ประเมินแล้วว่ามีประสิทธิภาพในการทำธุรกรรมค่อนข้างต่ำจากจำนวนตู้บุญเติมที่มีอยู่ทั่วประเทศกว่า 130,000 ตู้
 
พร้อมยังได้วางแผนที่จะขยายไปตลาดต่างประเทศมากขึ้นโดยเล็งไว้ที่เมียนมาเป็นประเทศแรก และยังต้องดิ้นไปสู่การขยายลูกค้ากลุ่มใหม่ในรูปแบบแอพพลิเคชั่น ไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัว BeWallet เพื่อรองรับตลาดอีวอลเล็ต รวมถึงการสร้าง Bemall เพื่อลุยตลาดอีคอมเมิร์ซด้วย พร้อมกับตั้งเป้ายอดมูลค่าใช้บริการภาพรวม 48,000 ล้านบาทในปี 2562
หรือคาดว่าบริการใหม่จะต้องมีผู้ใช้งานไม่น้อยกว่า 200,000 ราย
 
“ธุรกิจตู้เติมเงิน” ต้องดิ้นเพื่ออยู่รอด
 
ภาพจาก bit.ly/2zjCbv2
 
จากธุรกิจที่ทำกำไรสวยงามรายได้บริษัทกำไรปีละกว่า 500 ล้านบาท และมูลค่าการตลาดของบริษัทก็มีแต่เติบโตเพิ่มขึ้นทุกปี ตอนนี้ถึงเวลาที่ต้อง “ดิ้นรน” กันมากขึ้น ลบภาพเสือนอนกินเพราะตอนนี้ต้องดิ้นเพื่อดึงลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการมากขึ้น

หลายค่ายตู้เติมเงินไม่มีนโยบายเพิ่มตู้ใหม่แต่พยายามเพิ่มประสิทธิภาพตู้เติมเงินเก่าที่มีอยู่แล้วให้เกิดมูลค่ามากขึ้น ไม่นับรวมการหากลยุทธ์การตลาดใหม่ๆอย่าง ตู้บุญเติม จับจังหวะที่ธนาคารหลายแห่งปิดสาขา คิดโมเดลใหม่คือตู้ขายเครื่องดื่มและซิมมือถือ เพื่อที่จะเป็นทางเลือกดึงลูกค้าจากร้านสะดวกซื้อมาใช้บริการให้มากขึ้น

โดยไปจับมือร่วมกับ เอไอเอสและเริ่มติดตั้งตู้ดังกล่าวไปกว่า 2,000 ตู้ และพร้อมจะขยายเพิ่มมากขึ้นและยังมีแนวคิดธุรกิจตู้ชาร์จไฟสำหรับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่ร่วมมือกับดีแทคที่ได้แตกไลน์ทำธุรกิจจำหน่ายมอเตอร์ไซด์พลังงานไฟฟ้า

www.facebook.com/vendingplusfanpage/
 
หรือแม้แต่มาเก็ตแชร์อันดับ 2 ในตลาดอย่าง “เติมสบาย” ก็มีแผนติดตั้งตู้เครื่องดื่มอัตโนมัติ “เวนดิ้งพลัส” เช่นกัน และกำลังมองหาพาร์ตเนอร์ใหม่ๆ เพื่อเพิ่มโอกาสทางการค้าให้ตัวเองมากขึ้น โดยสิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่าธุรกิจยุคใหม่จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องพุ่งเข้าหาลูกค้า ไม่ใช่รอลูกค้าพุ่งเข้าหาตัวเองเหมือนในอดีต 
 
ถือเป็นเรื่องที่น่าสนใจหากจะพูดถึงเสือนอนกินยุคนี้ก็เห็นจะมีแต่ “ร้านสะดวกซื้อ” ที่ยังมีแนวทางเติบโตอย่างสดใสสวนทางกับอีกหลายธุรกิจที่ต้องมีการขยับและปรับตัวมากขึ้น แต่เชื่อได้เลยว่าในอนาคตแม้แต่ร้านสะดวกซื้อที่ตอนนี้ยังไม่มีผลกระทบมากนักแต่ในอนาคตก็คงเจอปัญหาไม่ต่างกัน สำคัญที่ว่าจะมีการวางแผนและเตรียมรับมือในเรื่องนี้ไว้ล่วงหน้าอย่างไร
 
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน

ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
 
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ goo.gl/Io5k2S
 
ย้อนกลับไปสัก 10-15 ปีก่อน เป็นยุคเรืองรองของธุรกิจร้านเกมส์และ Internet Café ยุคนั้นถือว่าเฟื่องฟูจริงๆ จำได้ว่าตอนอยู่ประมาณ ม.ปลาย เราเคยสนุกมากกับการไปเล่นเกมส์ Winning เลิกเรียนต้องรีบไปร้านเกมส์บางทีก็ไปไม่ทันคนอื่นเขามาเล่นกันเต็ม ต้องนั่งรอ ก็ยอม ค่าใช้จ่ายในการเล่นก็แค่ 15-..
74months ago   3,293  6 นาที
คำว่าหมดยุคเสือนอนกิน!ธุรกิจโรงภาพยนตร์ไม่ได้หมายความว่า “ธุรกิจโรงภาพยนตร์ กำลังจะหายไป” จากเดิมที่โรงภาพยนตร์เหมือนเป็นจุดนัดพบของวัยรุ่น หนุ่มสาว  ไม่รู้จะทำอะไรไม่รู้จะไปเที่ยวไหน ก็ไปดูหนังในโรงภาพยนตร์ นั่นคือภาพในอดีตที่ปัจจุบันสิ่งเหล่านี้ได้เปลี่ยนแปลงไป..
74months ago   3,089  6 นาที
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
สร้างรายได้จาก กระเบื้องยางSPC วัสดุปูพื้นยอดนิย..
525
ประกาศเซ้ง! แบรนด์แฟรนไชส์จีนหมดแรง แซงไทยไม่ไหว
445
ถอดรหัส Santa Fe Steak รีแบรนด์แล้วยังเหนื่อย?
435
สงครามเย็น จักรวาลชานมไข่มุก ใครจะอยู่ใครจะไป
408
รวมเทคนิค “ดิ้นสู้” วิกฤติร้านอาหารปี 2568 ทำยัง..
404
“Gap Model” ร้านค้าทำดีทุกอย่าง แต่ทำไมลูกค้าไม..
392
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด