จากธุรกิจของครอบครัวที่ได้ทำธุรกิจกุ้งแช่แข็งเพื่อการส่งออก จนกระทั่งธุรกิจดังกล่าวได้เข้ามามีบทบาทของลูกหลานยุคใหม่ที่ต้องการ แตกธุรกิจเดิมมาดัดแปลงเพื่อเพิ่มรายได้จากวัตถุดิบเดิมที่ทีอยู่ จนได้ออกมาเป็นร้าน “ติ่มซำ อาหลง” ที่แต่เดิมมีเพียงร้านเดียว แต่ขณะนี้ได้มีการขยายสาขาออกไป จนถึงขั้นขายแฟรนไชส์โดยต้องการให้เป็นธุรกิจเสริมสำหรับ ร้านที่ขายอาหารทั่วไป ซึ่งได้ขยายไป 4 สาขา ได้แก่ สาขาพุทธมณฑลสาย 3,สาขาบางพลี,สาขาเอแบค หัวหมาก,สาขาอุดมสุข 103 และสาขาลาดพร้าว 101 การให้เป็นธุรกิจเสริมสำหรับร้านที่มีอาหารอื่นขายอยู่ก่อน

นายมนัสสิทธิ์ ตรีสุขเกษม ผู้จัดการร้าน “ติ่มซำ อาหลง” กล่าวว่า แต่เดิมเป็นโรงงานผลิตกุ้งแช่แข็งมาก่อน จนทำให้มีความชำนาญในเรื่องของกุ้งเป็นอย่างดี จึงคิดที่จะนำกุ้งมาดัดแปลงเป็นผลิตภัณฑ์อาหาร เพื่อเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า จนกระทั่งมาลงตัวที่ “ติ่มซำ” พร้อมทั้งได้มีการจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งสินค้าก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เช่น ขนมจีบกุ้งไทย, ฮะเก๋า,ซาลาเปา และซี่โครงหมูอบเต้าซี่ เป็นต้น หลังจากที่ได้เปิดร้านเป็นของตัวเอง รวมถึงได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคทั้งในเรื่องของคุณภาพ มาตรฐาน และรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว รวมถึงในเรื่องของราคาที่ขายเพียง เข่งละ 15 บาท ส่งผลให้ทางเจ้าของร้านได้เริ่มศึกษาข้อมูล 

 

เพื่อเป็นลู่ทางในการเปิดขยายแฟรนไชส์ โดยได้เข้าเรียนคอร์สต่างๆ สำหรับผู้ประกอบการใหม่ที่ต้องการศึกษาหาความรู้ในเรื่องการบริหารจัดการ ของทางกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม และกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ จนสามารถมองเห็นช่องทางในการขยายธุรกิจในระบบแฟรนไชส์
 

 
 

สำหรับการลงทุนในรูปแบบร้านจะอยู่ที่ประมาณ 1 ล้านบาทต้นๆ ขึ้นอยู่กับทำเล ค่าเช่าสถานที่ และการตกแต่ง ส่วนรูปแบบคิออสจะใช้เงินลงทุนประมาณ 70,000 บาท ส่วนค่าแฟรนไชส์ 20,000 บาท อายุสัญญา 6 ปี ซึ่งค่ารอยัลตี้ฟี หรือค่าผลประโยชน์ตอบแทนภายใต้ชื่อ “ติ่มซำอาหลง” จะไม่มีการเรียกเก็บ และค่าการทำการตลาด ทางร้านจะเรียกเก็บตามค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง

 

โดยแฟรนไชส์ซีจะได้รับสิทธิแฟรนไชส์เป็นเวลา 6 ปี ได้รับการช่วยเหลือในการจัดหาวัตถุดิบและเครื่องปรุง ให้การฝึกอบรมพนักงาน และเอกสารคู่มือการบริหารร้าน รวมถึงวิธีคิดบัญชีแยกประเภท เป็นต้น ซึ่งจะสามารถคืนทุนได้ภายใน 6 เดือน 

ส่วนเรื่องความปลอดภัยของอาหารผู้บริโภคหรือแฟรนไชส์ซีสามารถมั่นใจได้ เนื่องจากทางร้านได้มีประสบการณ์ในธุรกิจโรงงานกุ้งแช่แข็งมากว่า 32 ปี โดยได้รับมาตรฐานอย.,GMP และ HACCP ที่มีคุณภาพและมาตรฐานการส่งออก ซึ่งทำให้ผลิตภัณฑ์ได้ส่งออกไปยังหลากหลายประเทศ เช่น ยุโรป, ญี่ปุ่น และฮ่องกง เป็นต้น 

 

ทั้งนี้โรงงานมีกำลังการผลิตประมาณ 100,000 ชิ้นต่อวัน รวมติ่มซำแบบทอดและนึ่งรวม 54 รายการ ทำให้ทางร้านสามารถส่งผลิตภัณฑ์ให้กับแฟรนไชส์ซีได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

 

นอกจากนี้แผนทางการตลาดของติ่มซำอาหลง จะทำติ่มซำในรูปแบบแช่แข็งวางจำหน่ายตามซูเปอร์มาร์เก็ต ในอีก 5 ปีข้างหน้า โดยขณะนี้อยู่ในช่วงเตรียมพร้อม และศึกษาเงื่อนไข รวมถึงยังต้องการทำให้ธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์มีระบบ การบริหารจัดการให้คงที่ก่อน ซึ่งโครงการจำหน่ายในซูเปอร์มาร์เก็ตจะเป็นโครงการที่จะดำเนินต่อไป 

 

สนใจติดต่อ 0-2675-5267 

 

อ้างอิงจาก: ผู้จัดการออนไลน์