หมูปลาร้า เมนูยอดฮิตของคนเมืองหลวง จากจุดเริ่มต้นมา มาจากร้านรถเข็นเล็ก ที่เปิดขายย่านสี่แยกคอกวัว ด้วยชื่อเสียงของร้าน ในแบบที่ไม่มีใครไม่รู้จักหมูปลาร้าสีแยกคอกวัว ทำให้เกิดเป็นที่มาของร้านหมูปลาร้า ที่เปิดให้บริการอีกหลายที

 

รวมถึง ร้านดังที่เกิดมาพร้อมๆ กับ การเติบโตของแอปพลิเคชั่นสั่งและจัดส่งอาหารทางช่องทางออนไลน์ในปีที่ผ่านมา (2562) อย่าง ร้านติดลมหมูปลาร้า ของ “นายธีรนัย จินดานุภาจิตต์” อายุ 26 ปี ทายาทธุรกิจที่เข้ามารับช่วงต่อดูแลกิจการร้านข้าวต้มที่เปิดมากว่า 50 ปี ต่อจากครอบครัว และด้วยเป็นคนรุ่นใหม่มองเห็นถึงการเติบโตของช่องทางดิลิเวอรี่ ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ เป็นที่มาของการทิ้งร้านข้าวต้ม โดดเข้าสู่ช่องทางดิลิเวอรี่อย่างเต็มตัว เป็นที่มาของ “ร้านติดลมหมูทอดปลาร้า”

 

นายธีรนัย เล่าว่า ร้านติดลมหมูทอดปลาร้า เปิดมาได้ประมาณ 2 ปี เดิมผมทำร้านข้าวต้มมาก่อน และเพื่อนที่เคยอยู่สหรัฐอเมริกา บอกว่าในช่วงนั้นตลาดดิลิเวอรี่ที่อเมริกา และจีนเติบโตอย่างมาก ซึ่งในช่วงนั้น ประเทศไทยเองก็เริ่มมีบริการแอปพลิเคชั่นเข้ามา โดยส่วนตัวคิดว่าประเทศไทยเองก็น่าจะเติบโตได้เช่นเดียวกันกับอเมริกาและจีนในขณะนั้น จึงตัดสินใจ เปิดร้านติดลม หมูปลาร้าน และเลือกขายผ่านดิลิเวอรี่เพียงช่องทางเดียว

 

 

คำตอบคือ ร้านข้าวต้มพัฒนาอะไรไม่ได้แล้ว ทั้งที่เราเองก็อยากจะพัฒนากิจการข้าวต้มของครอบครัวต่อ แต่ไม่สามารถพัฒนาอะไรได้ ไม่ว่าจะเป็นการนำข้าวต้มมาให้บริการเดลิเวอรี่เป็นไปได้ยาก เพราะเป็นอาหารที่ต้องนั่งกินที่ร้าน และร้านมีพื้นที่นั่งจำกัด เวลาลูกค้ามาพร้อมๆ กัน ก็ไม่เพียงพอ การขยายสาขาก็ต้องใช้เงินทุนสูงเพราะการเปิดร้านข้าวต้มแต่ละครั้งต้องใช้พื้นที่

 

 

ทั้งนี้ พอทำร้านติดลม ตั้งใจว่าเปิดบริการเดลิเวอรี่อย่างเดียว เพราะเชื่อว่าตลาดเดลิเวอรี่ในประเทศไทยจะต้องมา และก็มาจริง พอเปิดได้1 ปี มีบริการแอปพลิเคชั่นสั่งและจัดส่งอาหาร เข้ามาให้บริการในประเทศไทยหลายราย เกิดการแข่งขันกันอย่างรุนแรง ช่วยดันยอดขายอาหารในช่องทางออนไลน์เติบโตแบบก้าวกระโดด และทำให้เรามีตัวเลือกมากขึ้น และส่งผลให้ยอดขายหมูปลาร้าติดลม ในช่วงนั้นมียอดขายสูงไปถึงวันละ 40,000 บาท ในบางสาขา อย่างสาขาลาดพร้าว ที่อยู่ในช่วงของการสร้างรถไฟฟ้า การจราจรที่ติดขัด ทำให้คนไม่ออกมากินอาหารนอกบ้าน ยอดขายหมูปลาร้าติดลมของเราเคยทำยอดขายสูงถึงเดือนละ 900,000 บาท

 

 

นายธีรนัย เล่าถึง แผนการทำตลาดของ “ติดลมหมูปลาร้า” ว่า เริ่มจากบุกตลาดออนไลน์ สิ่งที่ทำ คือ การสร้างแบรนด์ใหห้เป็นที่รู้จักก่อน โดยใช้เพจรีวิว และหาคนมาช่วยรีวิว เพื่อให้เป็นที่รู้จักในโลกออนไลน์ และถูกจับตามองของเหล่าแอปพลิเคชั่นจัดส่งอาหาร ก็จะมาชวนให้เราเข้าร่วมขายในแอปพลิเคชั่นเหล่านั้น พร้อมข้อเสนอดีดี ซึ่งหลังจากได้ร่วมกับแอปพลิเคชั่นสั่งและจัดส่งอาหาร ได้เพียงไม่นาน ได้เลือกให้เป็นหนึ่งในร้านที่ทำยอดขายสูงในแอปฯนั้น เช่น การเข้าร่วมกับเก็ทฟู้ด ช่วยดันยอดขายของเราในหลายสาขาเพิ่มขึ้นถึง 50% และปัจจุบัน สามารถสร้างแฟรนไชส์ได้ถึง 12 สาขา

 

 

สำหรับ “ติดลมหมูปลาร้า” มีหมูทอดด้วยกัน 4 แบบ และน้ำจิ้ม 3 แบบ และ น้ำจิ้มแจ่วปลาร้า ลูกค้าหลายคนติดใจน้ำจิ้มแจ่วปลาร้า และมีการสั่งซื้อน้ำจิ้มแจ่วปลาร้าเพิ่มขึ้นมา ในระยะหลังมีน้ำจิ้มแจ่วปลาร้าขายแยกด้วย ซึ่งหมูปลาร้าของเราแตกต่างจากหมูปลาร้าร้านอื่นๆ เพราะมีการทอด หมู4 แบบให้ลูกค้า เพื่อจะได้ไม่กินหมูปลาร้าในแบบเดียว หรือน้ำจิ้มที่ต้องมี 3 แบบ ตอบโจทย์ลูกค้าที่ชอบน้ำจิ้มหลายแบบ ซึ่งปัจจุบันลูกค้าของเราส่วนใหญ่เป็นพนักงานออฟฟิศ และ แม่บ้าน รวมถึงกลุ่มลูกค้าจัดเลี้ยงสรรค์ ปาร์ตี้ ราคาหมูปลาร้า ร้านติดลมบน มี 2 แบบ กล่องใหญ่ปาร์ตี้ราคา 359 บาท และกล่องดูโอเซ็ท สำหรับ 2-3 ที่ ราคา199 บาท

 

 

ทั้งนี้ ที่ต้องเปิดขายแฟรนไชส์ เพราะจะได้จัดส่งให้ลูกค้าในแต่ละพื้นที่ได้อย่างทั่วถึง โดยที่ลูกค้าจะได้ไม่ต้องเสียค่าจัดส่งในราคาที่แพงเกิน ไป โดยลูกค้าที่เป็นแฟรนไชส์ของเราจะต้องสั่งน้ำหมัก และน้ำจิ้ม และกล่องบรรจุเท่านั้น ส่วนหมูและอื่นแนะนำให้ลูกค้า ว่าต้องเลือกอย่างไร โดยลูกค้าสามารถหาซื้อวัตถุดิบส่วนนี้เองได้

 

สนใจ ติดต่อ ติดลมหมูปลาร้า


ที่มา https://bit.ly/2ughtxu