“อีซี่ส์ คิทเช่น” รุกแฟรนไชส์ เมนูฟิวส์ชั่นปูพรมฟู้ดคอร์ท  
 

“อีซี่ส์” เดินหน้าเปิดตลาดใหม่ ปล่อยแฟรนไชส์ “อีซี่ส์ คิทเช่น” ชูงบลงทุนระดับกลางเริ่มต้น 8 หมื่นบาท นำเสนอเมนูแนวฟิวส์ชั่น ตะวันตกผสมตะวันออก มุ่งเจาะทำเลฟู้ดคอร์ทในห้างดังทั่วประเทศ วางระบบคลุมมาตรฐาน 3 ชั้น ขายไอเดีย win-win ทั้งสองฝ่าย

พัชราวดี หมื่นนิกร รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท อีซี่ส์ อินเตอร์เนชั่นแนล แฟรนไชส์ จำกัด ผู้ดูแลธุรกิจแฟรนไชส์ “อีซี่ส์ คิทเช่น” (EZ’S Kitchen) เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้บริษัทฯ ได้ขยายธุรกิจแฟรนไชส์ในเครือมาแล้ว ทั้งอีซี่ส์ สปอต (EZ’S SPOT) คีออสขายไส้กรอกเยอรมัน และมอร์เก้น บาย อีซี่ส์ (Morgen By EZ’S) ร้านขายอาหารเยอรมันพรีเมียม สำหรับปีนี้ (2554) ได้เพิ่มเติมขยายธุรกิจแฟรนไชส์ “อีซี่ส์ คิทเช่น” หลังจากได้ดำเนินธุรกิจด้วยตัวเองมากว่า 3 ปี
       
ทั้งนี้ “อีซี่ส์ คิทเช่น” เป็นอาหารแนว “ฟิวส์ชั่น ฟู้ด” (Fusion food) กล่าวคือ ผสมผสานระหว่างตะวันตกกับตะวันออก เน้นเป็นอาหารจานเดียว เช่น ข้าวผัดเยอรมัน สปาเก็ตตี้ผัดพริกแห้งไก่ย่างเยอรมัน ข้าวกะเพราไส้กรอกเยอรมัน เป็นต้น จุดเด่นเป็นอาหารที่หากินยากในท้องตลาด มุ่งลูกค้าระดับกลาง เจาะจงเปิดร้านขายใน “ฟู้ดคอร์ท” ตามห้างสรรพสินค้าต่างๆ โดยระยะ 3 ปีที่ผ่านมา มีกว่า 50 สาขา กระจายอยู่ในห้างต่างๆ เช่น เทสโก้โลตัส คาร์ฟูร์ บิ๊กซี ท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต ฯลฯ แบ่งเป็นในกรุงเทพฯ 80% และต่างจังหวัด 20%

 
ส่วนแนวคิดขายแฟรนไชส์ “อีซี่ส์ คิทเช่น” เกิดจากที่ผ่านมา มีผู้สนใจยื่นความประสงค์ขอซื้อแฟรนไชส์จำนวนมาก ประกอบกับบริษัทฯ มีความพร้อมจากประสบการณ์ทำแฟรนไชส์ที่ผ่านมา และที่สำคัญ มองประโยชน์จากการเปิดโอกาสให้ผู้อยากเป็นเจ้าของธุรกิจนี้เข้ามาเป็นหุ้นส่วน จะช่วยทั้งสร้างอาชีพ และกระตุ้นยอดขายแต่ละสาขาให้สูงขึ้น อีกทั้ง แก้ปัญหาเรื่องพนักงาน ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญของธุรกิจร้านอาหารแทบทุกแห่ง
       
“ระบบของอี่ซีส์ คิทเช่น จะทำงานร่วมกับห้าง ส่วนแฟรนไชซี (ผู้รับสิทธิ์แฟรนไชส์) มีหน้าที่หลักคือ งานขายหน้าร้านและบริหารพนักงาน ซึ่งระบบดังกล่าว ข้อดี คือ คลุมคุณภาพแฟรนไชส์ได้อย่างดี เพราะมีผู้ดูแลถึง 3 ชั้น ได้แก่ ชั้นแรก ฟู้ดคอร์ทแต่ละแห่งจะมีกฎระเบียบเป็นมาตรฐาน ช่วยดูแลทั้งความสะอาดของอุปกรณ์ สถานที่ รวมถึง วินัยพนักงาน และดูแลเก็บเงิน ป้องกันรั่วไหลจากการทุจริตของพนักงาน
       
ชั้นที่สอง บริษัทจะมีทีมตรวจสอบคุณภาพตามสาขาต่างๆ สม่ำเสมอ รวมถึง วัตถุดิบทุกอย่างกำหนดต้องรับจากส่วนกลาง ทำให้ได้มาตรฐานเดียวกันทุกแห่ง และชั้นที่สาม เมื่อผู้ลงทุนเข้ามาเป็นเจ้าของเอง จะทำให้ดูแลพนักงานได้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น หรือในกรณีผู้ลงทุนเป็นผู้ขายเอง ก็จะช่วยประหยัดต้นทุน และยังแก้ปัญหาพนักงานเข้าออกบ่อยไปในตัว ซึ่งจากการดูแลถึง 3 ชั้นดังกล่าว ดิฉันเชื่อว่า จะทำให้แต่ละสาขายอดขายสูงขึ้น เกิดประโยชน์ทั้งสองฝ่าย คือ ผู้ลงทุนมีอาชีพที่ประสบความสำเร็จ ขณะที่บริษัทฯ มียอดขายวัตถุดิบสูงขึ้น” พัชราวดี เผยรายละเอียด

  
สำหรับการลงทุนแฟรนไชส์ เบื้องต้นเบ็ดเสร็จอยู่ที่ 80,000-150,000 บาท (ขึ้นอยู่กับขนาดร้านและทำเล) แยกเป็นค่าสิทธิแรกเข้า 50,000 บาท อายุสัญญา 2+2 ปี ที่เหลือเป็นค่าอุปกรณ์ ค่าตกแต่งร้าน ค่าวัตถุดิบพร้อมขาย 30,000-60,000 บาท นอกจากนั้น มีค่ามัดจำสถานที่ 20,000-80,000 บาท (ได้รับคืนเมื่อหมดสัญญา) เรียกเก็บค่ารอยัลตี้ฟี 2% และค่าการตลาด 2% จากยอดขายต่อเดือน อีกทั้ง ยอดขายทั้งหมดต้องนำไปหักส่วนแบ่งรายได้กับทางห้าง (GROSS PROFIT : GP) ประมาณ 20-30% (แต่ละห้าง แตกต่างกัน)
 

       
เมนูของอีซี่ส์ คิทเช่น มีประมาณ 10 กว่าชนิด ราคาอยู่ที่ 40-129 บาท โดยกำไรเฉลี่ยต่อจานจะอยู่ที่ประมาณ 40% จากราคาขายปลีก ยอดขายโดยเฉลี่ยต่อร้านอยู่ที่เดือนละ 150,000 บาท เมื่อหักค่าใช้จ่ายอื่นๆ แล้ว ทั้งค่าวัตถุดิบ ค่า GP และค่าพนักงาน เป็นต้น ผู้ลงทุนจะมีกำไรสุทธิประมาณ 20,000 บาทต่อเดือน ทำให้มีอัตราคืนทุนใน 4-6 เดือน (ขึ้นอยู่กับทำเล และเงินลงทุน)
       
รูปแบบลงทุน มีทั้งให้สิทธิ์รับช่วงกิจการต่อในสาขาเดิมของบริษัทฯ ซึ่งจะเปิดเผยข้อมูลยอดขาย รายได้ รายจ่ายและอื่นๆ ให้รู้ทั้งหมด และอีกส่วนสำหรับเปิดสาขาใหม่ ซึ่งบริษัทฯ ได้ติดต่อพื้นที่กับห้างต่างๆ ไว้แล้ว โดยเป้าที่วางไว้ในปีนี้ (2554) จะเปิดเพิ่มราว 20 สาขา รวมร้านเดิมเป็น 70 สาขา โดยให้เป็นสัดส่วนร้านของแฟรนไชซีประมาณ 40% ที่เหลืออีก 10% บริหารโดยบริษัทฯ สำหรับใช้เป็นร้านต้นแบบ

       ในส่วนการดูแลแฟรนไชซี มีทั้งอบรมความรู้ครบถ้วนก่อนเปิดร้าน และมีทีมให้คำปรึกษาธุรกิจตลอดอายุสัญญา ออกเมนูใหม่ช่วยกระตุ้นยอดขายทุก 2 เดือน นอกจากนั้น ค่าการตลาดที่เรียกเก็บ 2% จะนำไปใช้ส่งเสริมการตลาดทั้งหมด เช่น ทำสื่อโฆษณา ออกแฟร์แนะนำแบรนด์ เป็นต้น
      
       พัชราวดี เผยต่อว่า ผลการดำเนินธุรกิจร้าน อีซี่ส์ คิทเช่น กว่า 50 สาขาของบริษัทฯ ในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา มีอัตราความล้มเหลวประมาณ 10% สาเหตุใหญ่มาจากทำเลไม่เหมาะสม ส่วนการคัดกรองผู้ที่จะร่วมธุรกิจนี้ เน้นคนที่รักและอยากเป็นเจ้าของธุรกิจนี้จริงๆ ซึ่งจะมีความเอาใจใส่ และทุ่มเทในการทำงานสูง 

       
       “ปัจจุบัน ห้างต่างๆ มีเปิดแทบทุกจังหวัด จำนวนหลายร้อยแห่ง ในขณะที่เมนูอาหารของเรา ค่อนข้างแตกต่าง หากินยากจากท้องตลาดทั่วไป และระดับราคาไม่สูงเกินไป เข้าถึงคนได้แทบทุกกลุ่ม ดิฉันจึงมองว่านี่เป็นโอกาสของผู้สนใจแฟรนไชส์อีซี่ส์ คิทเช่น ที่จะเข้าไปขยายให้ครอบคลุมฟู้ดคอร์ททุกแห่งได้” พัชราวดี ระบุ

โทร.0-2539-4884 หรือ www.ezssausage.com

อ้างอิงจาก ผู้จัดการออนไลน์