เมื่ออาหารคือหนึ่งในปัจจัยสี่ที่มีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ ธุรกิจร้านอาหารจึงจำเป็นและเกิดขึ้นเพื่อตอบสนอง ความต้องการของผู้บริโภคนั่นเอง จึงไม่แปลกใจเลยว่าร้านอาหารจะเป็นอีกหนึ่งธุรกิจ ที่ได้รับความนิยมจากผู้ประกอบการเสมอมา ไม่ว่าเศรษฐกิจจะวิกฤตมากน้อยแค่ไหน 

 

ลองดูธุรกิจอาหารประเภทหนึ่งที่กำลังมาแรงไม่แพ้ร้านอาหารประเภทฟาสต์ฟูด

 

ติ่มซำ : ร้านอาหารรูปแบบใหม่ 

 

ร้านอาหารว่าง ประเภทติ่มซำ เป็นอีกหนึ่งรายการอาหารที่ผู้บริโภคชื่นชอบ แต่กลับไม่มีผู้ประกอบการรายใดเปิดร้านทำธุรกิจอย่างเต็มรูปแบบเท่าใดนัก อาหารประเภทติ่มซำ เป็นอาหารว่างแบบจีนซึ่งชื่อก็บอกอยู่แล้ว หากใครต้องการรับประทานก็ต้องไปตามโรงแรมที่ใช้กลยุทธ์ด้านราคา ด้วยการจัดเป็นแบบ บุฟเฟ่ต์ หรือประเภทเหมาจ่าย แต่ปัจจุบันก็มีจำหน่ายสอดแทรกไปกับร้านอาหารและภัตตาคารหลายแห่ง แต่ไม่ค่อยเห็นใครคิดที่จะตั้งร้าน ติ่มซำ ขึ้นมาโดยตรงสักที

 

จากช่องว่างดังกล่าวทำให้ร้านติ่มซำเต็มรูปแบบอย่าง “โชคดีติ่มซำ” กล้าลงทุนสร้างร้านติ่มซำในลักษณะ Stand alone เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่มีอยู่ทั่วทุกหย่อมหญ้า

 

 ร้านโชคดีติ่มซำ เริ่มต้นร้านแรกที่อำเภอหาดใหญ่ ในชื่อ “โชคดีแต่เตี๊ยม” (แต่เตี๊ยม เป็นภาษาจีนแต้จิ๋วหมายถึงการกินน้ำชากับของว่าง) เมื่อประมาณ 10 ปีที่ผ่านมา โดย “คล่องเจน ศิรประภาธรรม” (ฉี กั้งเจิน) ซึ่งการประกอบการก็เป็นไปด้วยดีมีลูกค้าอุดหนุนมากมาย 

 

กลุ่มลูกค้ามีทั้งคนท้องถิ่นในอำเภอหาดใหญ่ และนักท่องเที่ยวที่มาจากกรุงเทพฯ ซึ่งทุกคนมักจะได้รับการแนะนำจากมัคคุเทศก์ หรือคนขับรถตุ๊กๆ ให้มากินอาหารเช้า สไตล์แต่เตี๊ยมที่ร้านนี้ 
 

 
 

เป็นที่น่าแปลกใจว่ามีนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย สิงคโปร์ เข้ามารับประทานติ่มซำ และบักกุ๊ตแต๋ในร้านโชคดีเป็นจำนวนมาก ทั้งๆที่อาหารประเภทนี้ก็สามารถหากินได้ไม่ยากนักในประเทศของเขา แสดงว่าร้านนี้ต้องมีจุดขาย ซึ่งเป็นจุดแข็งของตัวเอง นั่นก็คือ คุณภาพ ความสด ความอร่อย ของติ่มซำ 

 

นอกจากนี้ บักกุ๊ตแต๋ที่เป็นเมนูเสริมของร้านโชคดี ก็เป็นที่ยอมรับจากลูกค้าทั่วทุกสารทิศอีกด้วย 

 

จากความสำเร็จในเบื้องต้น ทำให้ทายาทของฉี กั้งเจินเกิดแนวคิดในการขยายธุรกิจ โดยมุ่งสู่ตลาดใหญ่ที่มีกำลังซื้อมากมายมหาศาล อย่างกรุงเทพมหานคร 

 

โดยใช้กลยุทธ์ป่าล้อมเมือง หมายถึงสร้างธุรกิจในถิ่นบ้านเกิดจนประสบความสำเร็จแล้วค่อยรุก เข้ามาสู่ตลาดใหญ่มหาศาลอย่างกรุงเทพมหานคร พร้อมกับกลยุทธ์ขายแฟรนไชส์ ซึ่งทำให้ โชคดีติ่มซำ เติบโตแบบก้าวกระโดดทันที 

 

ปี 2543 ร้านโชคดีติ่มซำในกรุงเทพมหานครก็เกิดขึ้น จากวิสัยทัศน์ของ “ธีรภพ ศิรประภาธรรม” ผู้เป็นหลานชายของฉี กั้งเจิน ซึ่งได้รับการถ่ายทอดเคล็ดวิชาการทำติ่มซำและบักกุ๊ตแต๋สูตรลับเฉพาะ ที่ถ่ายทอดกันเฉพาะคนในตระกูลเท่านั้น 

 

“เรามองว่าลูกค้าที่มาที่ร้านในหาดใหญ่ ไม่ใช่เป็นเพียงคนในท้องถิ่นเท่านั้น อาจมาจากกรุงเทพฯ หรือจังหวัดอื่นๆ อาจจะบอกไม่ได้ว่าแบรนด์โชคดีติ่มซำเป็นแบรนด์ที่ติดตลาดแล้ว แต่เชื่อว่าคนกรุงเทพฯ รู้จักเรา แต่ก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบของร้านให้ทันสมัยมากกว่าที่หาดใหญ่ ซึ่งการบริหารจัดการระหว่างหาดใหญ่กับการขยายธุรกิจมาที่กรุงเทพฯ และจังหวัดอื่นๆ ในอนาคตแยกกันอย่างชัดเจน” ธีรภพบอกถึงโอกาสในการแจ้งเกิดของร้านโชคดีติ่มซำในเมืองหลวง 

 

“Semi-self service” ความหรรษาของการกิน 

ร้านโชคดีติ่มซำเป็นร้านอาหารที่มีบริการเฉพาะติ่มซำและบักกุ๊ตแต๋ ซึ่งถือว่าเป็นร้านติ่มซำร้านแรกในกรุงเทพฯ ที่ขายติ่มซำนึ่งสดๆ เสิร์ฟให้ลูกค้ารายต่อราย และเป็นติ่มซำร้านแรกในกรุงเทพฯ ที่ขายติ่มซำในเวลากลางคืน คือเปิดให้บริการตั้งแต่ 10.00 – 22.00 น. 
 

 
 

โดยจุดเด่นที่ทำให้ร้านโชคดีติ่มซำ อาหารที่การผลิตและการบริหารจัดการไม่ยุ่งยากนัก สามารถแจ้งเกิดในตลาดกรุงเทพมหานครแห่งนี้ คือการที่ผู้ประกอบการมีความรู้ความเข้าใจอย่างเจนจบ ในเรื่องของอาหารประเภทติ่มซำอย่างแตกฉาน ผสานกับเมนูที่มีกว่า 50 ชนิด เพื่อป้องกันการตีจากของลูกค้าที่เบื่อง่ายและแสวงหาอาหารแปลก เพื่อสร้างความบันเทิงของกระเพาะอาหารอย่างไม่หยุดหย่อน ซึ่งทางร้านจะมีรายการอาหารพิเศษตามช่วงเวลา ไว้เรียกน้ำย่อยและเงินของผู้บริโภคอีกด้วย 

 

ประการต่อมา คือ การให้บริการแบบ “Semi-self service” ที่เป็นแบบกึ่งบริการตนเอง โดยลูกค้าจะมีส่วนร่วมในการที่จะเลือกติ่มซำที่ต้องการ ซึ่งลูกค้าต้องเลือกติ่มซำสดๆ ที่ตู้โชว์ หลังจากนั้นพนักงานเตานึ่งจึงทำการนึ่ง และส่งติ่มซำที่ลูกค้าเลือกให้ถึงโต๊ะภายใน10 นาที 

 

ทั้งนี้ ระหว่างที่ลูกค้ารอคอยติ่มซำที่กำลังนึ่งอยู่นั้น อาจรองท้องด้วยเมนูของทอด เช่น ปอเปี๊ยะทอด เกี๊ยวซ่าปักกิ่งทอด เกี๊ยวกุ้งทอด พระจันทร์กระดาษ ถุงทอง ซาลาเปาไส้ครีม/หมูแดงทอด ซึ่งเมนูอาหารทุกชนิดจะมีราคา 15 บาทเท่านั้น 

 

นอกจากรายการอาหารประเภทติ่มซำแล้ว โชคดีติ่มซำยังได้นำเสนอเมนูบักกุ๊ตแต๋ อาหารบำรุงสุขภาพที่หากินได้ไม่ง่ายนักในประเทศไทย โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ รวมถึง ”Kong-fu cha” การดื่มชาและการชงชาในแบบกังฟู 

 

เส้นทางจากหาดใหญ่ สู่เมืองกรุงของร้านโชคดีติ่มซำและนำไปสู่รูปแบบแฟรนไชส์ในขณะนี้เป็น บทพิสูจน์ว่าการนำอาหารว่างที่โปรดปรานของผู้บริโภค ซึ่งอาจไม่เพียงแต่ติ่มซำเท่านั้น มาเปิดให้บริการ แต่หากมีรูปแบบของร้านที่ชัดเจน ก็สามารถแจ้งเกิดได้ 

 

ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถติดต่อได้ที่ 6-8 จุฬาซอย 12 ถ.บรรทัดทอง แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ โทร. 0-2215-2273, 0-2215-5263, FAX : 0-2215-2276 

 

เวลาเปิด – ปิด : 10.00 – 22.00 น. ทุกวัน 

 

อ้างอิงจาก: ผู้จัดการออนไลน์