บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
721
2 นาที
22 เมษายน 2568
เจ๊งหมดตัว รวยฟ้าผ่า ย่านบรรทัดทอง คน • แบรนด์ • สถานที่
 

ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เราต้องยอมรับว่า “ย่านบรรทัดทอง” ถูกขนานนามว่าเป็นหนึ่งในทำเลทองที่กำลังมาแรงของกรุงเทพฯ 
 
มีร้านค้าและร้านอาหารเปิดใหม่แทบจะทุกสัปดาห์ มีนักท่องเที่ยวและผู้คนเดินขวักไขว่ มีรีวิวจากอินฟลูเอนเซอร์ทุกช่องทาง ทำให้คนแห่ตามรอยไปกินกันกันแทบไม่ขาดสาย หลายคนเชื่อว่าถ้าได้เปิดร้านอาหารแถวย่านนี้ โอกาสรวยอยู่แค่เอื้อม
 
แต่รู้หรือไม่ว่า ในความเป็นจริงที่กำลังปรากฏให้เห็น ย่านบรรทัดทองที่เคยเป็นความหวังของผู้ประกอบการหลายราย กำลังกลายเป็นหลุมพรางธุรกิจ “รวยเร็ว เจ๊งเร็ว” สะท้อนให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงของธุรกิจในย่านนี้ 
 
ช่วงแรกๆ อาจเป็นศูนย์รวมร้านอาหาร คาเฟ่ และไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ต่อมาค่อยๆ เงียบเหงาในระยะเวลาไม่นานนัก 
 
มาวิเคราะห์กันว่า อะไรคือสาเหตุที่ทำให้ทำเลทองย่านบรรทัดทอง ที่เมื่อช่วง 2-3 ปีก่อน “พุ่งแรง” แล้วค่อยๆ ดับไป ธุรกิจร้านค้าต่างทยอยปิดกิจการลง ติดประกาศเซ้งอย่างน่าใจหาย
 
1.ค่าเช่าที่สูง ทำให้ความคุ้มกลายเป็นฝันร้าย
 

เมื่อย่านบรรทัดทองเริ่มบูม เจ้าของที่ก็ขึ้นค่าเช่าเป็นเรื่องธรรมดา แต่ที่เป็นฝันร้ายของผู้ประกอบการ ก็คือ ค่าเช่าร้านพุ่งสูงอย่างต่อเนื่อง ร้านเล็กๆ ขนาดเพียงไม่กี่ตารางเมตร อาจมีค่าเช่าตั้งแต่ 30,000 ไปจนถึง 50,000 บาทต่อเดือน 
 
ยังไม่รวมค่าเซ้งร้านที่อาจถึงหลักล้านบาท สำหรับสัญญาระยะสั้น 2-3 ปี เมื่อต้นทุนสูงขนาดนี้ไม่ใช่ว่าผู้ประกอบการทุกรายแบกรับไหว โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายย่อยที่เงินทุนไม่หนาพอ ที่สำคัญผู้ประกอบการยังมีต้นทุนแฝงอื่นๆ เช่น ค่าตกแต่งร้าน, ค่าจ้างพนักงาน, ค่าการตลาด ฯลฯ แม้ร้านค้าจะขายดี แต่กำไรอาจไม่ทันคืนทุนในเวลาอันสั้น
 
2.เวลาขายจำกัด รายได้หดเพราะเวลาไม่พอ
 
แม้จะมีคนเดินเยอะช่วงเย็น แต่หลายพื้นที่ในย่านนี้มีข้อจำกัดเรื่องเวลาการเปิดให้บริการลูกค้า บางร้านขายได้แค่ช่วง 18.00–00.00 น. ทำให้ไม่สามารถเพิ่มรอบการขาย หรือหารายได้ในช่วงกลางวันได้ ส่งผลให้ธุรกิจที่ต้องการเวลาสร้างยอดขาย เช่น ร้านอาหารที่ให้บริการเต็มรูปแบบ ถ้ามีเวลาเพียง 6 ชั่วโมงอาจไม่เพียงพอ
 
3.แข่งขันรุนแรง พึ่งพารีวิว กระแสมาเร็ว ไปเร็ว
 

เมื่อใครๆ ก็อยากมาทำธุรกิจในย่านนี้ คู่แข่งก็เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว มีร้านใหม่เปิดตลอดเวลา กลายเป็นสนามแข่งขันดุเดือดที่ต้องพึ่งรีวิว พึ่งกระแสออนไลน์จนอาจลืมเรื่องความยั่งยืนของธุรกิจในระยะยาว เพราะการรีวิวเพียงชั่วคราวอาจพาลูกค้ามาได้เพียงระยะสั้น แต่หลังจากนั้นหากไม่มีแผนรองรับ ร้านก็จะเงียบเหงาและขาดทุนในที่สุด
 
4.ปัญหาภายในร้าน บริการไม่ดี ทำให้ลูกค้าหนี
 
เราจะเห็นดราม่าเรื่องบริการในร้านดังย่านนี้ออกมาเป็นระยะ เช่น ปัญหาคิวล้น การจัดการที่ไม่เป็นมืออาชีพ ไปจนถึงการปฏิบัติต่อลูกค้าที่ทำให้เกิดเสียงวิจารณ์ในโลกออนไลน์ จนกลายเป็นจุดจบของร้านไปหลายแห่ง แม้จะเคยดังแค่ไหนก็ตาม
 
5.พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
 

โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงาน ที่เคยมาปักหมุดถ่ายรูป รีวิวกินร้านใหม่ๆ เมื่อมีที่ใหม่บูมกว่า ก็ย้ายไปเลย ผู้บริโภคยุคนี้เปลี่ยนไวมาก แค่ย่านไหนไม่ว้าวเหมือนแต่ก่อนก็โดนเท ถ้าร้านหรือย่านบรรทัดทองปรับตัวไม่ทัน ก็จะถูกทิ้งไว้ข้างหลัง
 
6.ขาดคาแรคเตอร์เฉพาะของสถานที่
 
ทำเลย่านบรรทัดทองไม่มีอัตลักษณ์หรือจุดขายเฉพาะตัวที่ชัดเจน เหมือนกับทำเลย่านเยาวราช เอกมัย ทองหล่อ ไม่มีการวางแนวทางการพัฒนาแบบองค์รวม  ธุรกิจร้านค้าต่างคนต่างทำ ขาดความเชื่อมโยง หรือ Ecosystem กลายเป็น “ย่านรวมของร้านค้าหลายอย่างที่ไม่ค่อยมีอะไรเด่นชัด จะเห็นได้ว่าทำเลดี ต้องมีมากกว่าแค่ “คนเดินเยอะ” ย่านบรรทัดทอง คือ ภาพสะท้อนของความจริงในโลกธุรกิจยุคใหม่ ทำเลดีเพียงอย่างเดียวไม่พอ 
 
ถ้าไม่มีแผนธุรกิจที่ชัดเจน ระบบหลังบ้านดี ที่สำคัญต้องสามารถรับมือกับต้นทุนที่พุ่งสูงด้วย การทำธุรกิจในยุคนี้ คำว่า “รอด” มีความสำคัญกว่า “รวยไว” และต้องวางแผนระยะยาวจะทำให้ธุรกิจอยู่ได้ยั่งยืน  
 
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 

บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
อวสาน E-commerce ไทย? ต่างชาติรุกหนัก ตลาดไทยกำล..
819
เศรษฐกิจยังทรุด! 9 แบรนด์ดังไทย-เทศ “ปิดกิจการ-ล..
481
จิตวิทยาตั้งราคา! Psychological Pricing ทำให้ลูก..
427
โชว์รูมรถ ปี68 ปิดเกือบ 100 หายนะเศรษกิจไทย
418
เทคนิคร้านอาหารเพิ่มกำไรธุรกิจ 18% สู้กลับยุคแข่..
417
Ediya Coffee (이디야커피) แฟรนไชส์ร้านกาแฟที่มีชื่อเส..
412
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด