บทความทั้งหมด    บทความแฟรนไชส์    การเริ่มต้นธุรกิจแฟรนไชส์    เรื่องราวความสำเร็จ
4.6K
2 นาที
29 พฤษภาคม 2556
สร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ใน 7 ขั้นตอน


เรามักจะรับรู้ความคิดของผู้ประสบความสำเร็จในธุรกิจยุคก่อนๆ จากการเผยแพร่กันตามโทรทัศน์ ด้วยคำถามที่ว่าเพราะเหตุใดถึงประสบความ สำเร็จในธุรกิจที่ทำอยู่ เกือบจะเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ของนักธุรกิจที่ถูกสัมภาษณ์มักตอบอยู่สองอย่างว่า “เพราะโชคเข้าข้าง” และ “โอกาสวิ่งเข้ามาหาพอดี”


จนนักธุรกิจยุคใหม่หลายคนที่ต้องการประสบความสำเร็จต่างนอนฝันและรอโอกาสที่จะวิ่งเข้ามาชนบ้าง เพื่อจะได้กลายเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จคนต่อไป ซึ่งเป็นวิธีการคิดที่ผิด
 
ในโลกแห่งความเป็นจริงมันจะเป็นไปได้อย่างไรที่คนเราจะประสบความสำเร็จโดยที่ไม่ได้ลงมือทำอะไรเลยนอกจากแค่รอโอกาสให้วิ่งมาหา ทางที่ดีที่สุดในการจะประสบความสำเร็จในธุรกิจก็คือ การริเริ่มสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับตัวเอง มาดู 7 ขั้นตอนที่จะช่วยทำความฝันให้เป็นความจริง
 
ขั้นที่ 1 มองภาพรวมและให้ความสำคัญที่ผลิตภัณฑ์
 
ขั้นแรกที่ควรทำคือการมองภาพรวมของผลิตภัณฑ์ว่ามีข้อดีและข้อเสียอย่างไรบ้าง เมื่อนำมาพิจารณากับผลิตภัณฑ์ของคู่แข่งในท้องตลาดที่เป็น สินค้าชนิดเดียวกันและสามารถใช้ทดแทนกันได้ หรือที่เรียกกันว่า “สินค้าทดแทน” ซึ่งในความเป็นจริงบริษัทของผู้ประกอบการอาจเป็นบริษัทขนาดเล็กและเพิ่งทำผลิตภัณฑ์ออกมาทแข่งขันในตลาดที่มีการแข่งขันกันสูงอยู่แล้ว ความสามารถทางการแข่งขันจึงมีน้อยและไม่อาจสู้กับบริษัทขนาดใหญ่และอยู่ในท้องตลาดมายาวนานได้อย่างแน่นอน ดังนั้นทางที่ดีที่สุดสำหรับผลิตภัณฑ์และ บริษัทก็คือต้องค้นหาจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ที่เป็นความสามารถเฉพาะซึ่งเหนือกว่าผลิตภัณฑ์ของคู่แข่งออกมานำมาเสนอขายลูกค้าให้ได้
 
ขั้นที่ 2 นำเสนอขายงานผลิตภัณฑ์ให้เข้าใจง่าย
 
ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่อธิบายได้ง่ายที่สุดคือ ผู้ประกอบการต้องมีความสามารถในการนำงานของบริษัทไม่ว่าจะเป็นสินค้าหรือบริการไปขายให้ ลูกค้าด้วยคำพูดและวิธีการนำเสนอที่เข้าใจง่าย กระชับ อีกทั้งมีพลังในการสร้างแรงดึงดูดให้กับผู้บริโภคหรือลูกค้า ชนิดที่ว่าลูกค้าฟังการเสนอขายจบแล้วก็ต้องการสินค้าโดยทันที ที่สำคัญที่สุด ต้องสามารถตอบโจทย์ของลูกค้าได้ว่าทำไมจึงต้องใช้สินค้าของทางบริษัท และสินค้าจะตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างไร เป็นต้น
 
นอกจากนี้ เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมและเป็นการป้องกันความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นได้ระหว่างนำเสนองาน ควรทำการทดสอบวิธีการนำเสนองานก่อน ทั้งข้อความและวิธีการนำเสนอเพื่อเช็กความพร้อมก่อนจะไปเสนอขายจริง เพราะหากเกิดข้อผิดพลาดจะได้แก้ไขได้ก่อน
 
ขั้นที่ 3 เข้าถึงและรอบรู้อย่างแท้จริง
 
ผู้ประกอบการต้องมีความรอบรู้ข้อมูลต่างๆ ที่จำเป็นต่อการสร้างโอกาสทางธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลที่เกี่ยวกับธุรกิจของผู้ประกอบการ เช่น ข้อเด่น ข้อด้อย ของผลิตภัณฑ์ ความรู้ในเรื่องการตลาด การจัดการในบริษัท รวมถึงวิธีการจัดเก็บข้อมูลอื่นๆ ที่มีความสำคัญซึ่งสามารถนำมาใช้ช่วยสร้างโอกาสในธุรกิจด้วย นอกจากนี้ข้อมูลทางการแข่งขันทางการตลาดและข้อมูลของลูกค้าก็เป็นสิ่งที่สำคัญมากด้วยเช่นกัน
 
ต้องรู้ทุกอย่างแบบรอบด้านทั้งสินค้าตัวเองและคู่แข่ง
 
ขั้นที่ 4 วางแผนธุรกิจให้เหมาะกับบริษัท
 
ก่อนจะวางแผนธุรกิจให้เหมาะสมกับบริษัทได้ สิ่งแรกที่ต้องเริ่มทำคือสำรวจความต้องการทางตลาดหรือความต้องการของลูกค้าว่าลูกค้าต้องการอะไร ต้องการมากขนาดไหน จากนั้นจึงมาไล่ดูในส่วนที่เกี่ยวกับตัวธุรกิจและผลิตภัณฑ์ว่าสามารถตอบสนองความต้องการในส่วนนั้นได้มากขนาดไหนและอย่างไร จากนั้นจึงเริ่มลงมือวางแผนและเขียน แผนธุรกิจที่เหมาะกับตัวธุรกิจมากที่สุด
 
เช่น ในกรณีที่บริษัทเพิ่งจะเปิดดำเนินการใหม่ มีสินค้าชนิดใหม่ต้องการนำมาวางขายในท้องตลาด ก็ควรระบุกลุ่มเป้าหมายที่มีขนาดเล็กและเฉพาะกลุ่ม ที่มั่นใจว่าสินค้าของบริษัทสามารถตอบสนองความความต้องการของลูกค้าเฉพาะกลุ่มนี้ได้ดีที่สุด อีกทั้งเรื่องการใช้กลยุทธ์ด้านราคาที่ถูกกว่ามานำเสนอเพื่อตัดราคาของผลิตภัณฑ์อื่น อันเป็นการสร้างโอกาสให้กับผลิตภัณฑ์ของเราได้แข่งขันกับผลิตภัณฑ์ของบริษัทยักษ์ใหญ่ก็เป็นวิธีที่น่าสนใจมากวิธีหนึ่ง ดีกว่าที่จะเลือกตลาดใหญ่และกว้างจนเกินไป ซึ่งอาจถูกบริษัทที่เป็นเจ้าของตลาดอยู่ก่อนนี้กลืนผลิตภัณฑ์และสินค้าของผู้ประกอบการไปในที่สุด
 
ขั้นที่ 5 ใช้เครื่องมือทางการตลาดที่ดีที่สุดสำหรับบริษัท
 
เมื่อตัดสินใจวางแผนธุรกิจให้เหมาะสมได้แล้ว ขั้นต่อมาคือการเลือกใช้เครื่องมือทางการตลาดที่เหมาะสมกับแผนการทางธุรกิจที่ได้วางไว้ก่อนหน้านี้ โดยการประเมินและเลือกใช้เครื่องมือทางการตลาดควรมองให้ครบทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเข้าถึงผู้บริโภค ค่าใช่จ่ายในการดำเนินกิจกรรมทางการตลาด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการโฆษณาและ ประชาสัมพันธ์ตามสื่อต่างๆ ที่มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างแตกต่างกัน ซึ่งการใช้เครื่องมือทางการตลาดที่แตกต่างกันจะทำให้ผลลัพธ์ที่ได้ออกมาแตกต่างกันออกไปด้วย
 
เลือกใช้วิธีทำการตลาดที่เหมาะสมกับแผนและค่าใช้จ่ายที่ตั้งไว้
 
ขั้นที่ 6 นำแผนไปลงมือปฏิบัติ
 
ขั้นตอนนี้เป็นการนำวิธีและกลยุทธ์ต่างๆ ที่ได้วางแผนไว้ก่อนหน้านี้ไปลงมือปฏิบัติจริง โดยการปฏิบัติตามแผนอย่างจริงจังเป็นสิ่งที่เหมาะสมมากที่สุด เพราะจะวัดและประเมินผลได้อย่างแม่นยำว่ากลยุทธ์ที่ได้วางเอาไว้สามารถใช้งานจริงได้ดีสักแค่ไหน อีกทั้งการนำแผนไปลงมือปฏิบัติจริงควรมีกำหนดระยะเวลาในการปฏิบัติงานไว้อย่างชัดเจนว่ามีระยะเวลานานเท่าไหร่จึงจะเหมาะสม
 
ขั้นที่ 7 ทดสอบแผน
 
ขั้นทดสอบแผนนี้ถือเป็นขั้นตอนสุดท้ายของกระบวนการสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ เราต้องทำการตรวจสอบดูว่าแผนที่ได้วางเอาไว้เพื่อนำไปสู่ขั้น ตอนการปฏิบัติจริงก่อนหน้านี้ทั้ง 6 ขั้นตอนมีข้อผิดพลาดอย่างไรบ้าง เพื่อที่จะได้ปรับปรุงและแก้ไขให้สมบูรณ์มากขึ้น
 
การสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่เป็นเรื่องที่สามารถทำให้เกิดขึ้นได้ด้วยตัวของผู้ประกอบการเอง ไม่จำเป็นต้องรอให้เทวดาที่ไหนมาหยิบยื่นโอกาสให้ ทั้งสิ้น สำคัญที่ว่าต้องเริ่มทำการปฏิรูปความคิดในหัวเสียใหม่ ทำความเข้าใจในความหมายที่แท้จริงของคำว่า "โอกาส" ในมุมมองของนักธุรกิจ ว่าหมายถึงสิ่งที่ต้องทำการมุ่งไปหาและไขว่คว้ามาครอบครองด้วยตนเอง ไม่ใช่ความหมายแบบเดิมๆ ที่หมายถึงการรอเวลาโดยไม่ต้องทำอะไรเลย ถ้าผู้ประกอบการสามารถปฏิบัติตามได้นี้ รับรองว่าสักวันหนึ่งต้องได้เป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน

อ้างอิงจาก  KSMECare
 
บทความแฟรนไชส์ยอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
6 แฟรนไชส์บริการ! สร้างรายได้ 24 ชม.
984
ลงทุนตามเทรนด์ฮิต! 7 แฟรนไชส์ไอเดียเงินล้าน ปี ..
704
ตั้งแถวใหม่ 10 แฟรนไชส์ น่าลงทุน ครึ่งปีหลัง 68
643
แฟรนไชส์ชาจีน Good Me 古茗 ดังจนถูกก๊อป 600 สาขา
593
“ปิ้งย่าง” ธุรกิจหมื่นล้าน! มีแฟรนไชส์ไหน น่าลง..
576
Shake Shack จากรถเข็นขายฮอทดอกในนิวยอร์ก สู่แฟรน..
556
บทความแฟรนไชส์มาใหม่
บทความอื่นในหมวด