บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การตลาด บริหารธุรกิจ    ความรู้ทั่วไปทางการตลาด
2.2K
2 นาที
13 มิถุนายน 2560
5 เหตุผลดีๆ ทำไมนักธุรกิจถึงเลือกลงทุนหุ้นในสิงคโปร์


 
ภาพจาก goo.gl/yVdW15

ตอนนี้เรื่องของการลงทุนในตลาดหุ้นดีจะมีความน่าสนใจมากขึ้นโดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เริ่มหันมาศึกษาวิธีการเทรดหุ้น สร้างพอร์ตการลงทุนและเริ่มหาข้อมูลวิธีการลงทุนที่คุ้มค่าในแบบใช้เงินต่อเงิน และแม้ว่าการลงทุนแบบนี้จะให้ผลตอบแทนค่อนข้างดีแต่ก็มีความเสี่ยงที่ต้องคำนึงถึงอยู่มาก
 
ในมุมมองของผู้มีประสบการณ์ด้านการลงทุนนั้นมองว่าตลาดสิงคโปร์เป็นตลาดหุ้นสำคัญที่ทำกำไรได้ง่ายที่สุดสำหรับใครที่กำลังศึกษาเรื่องการเล่นหุ้นวันนี้ www.ThaiFranchiseCenter.com มีลักษณะที่สำคัญของตลาดหุ้นในสิงคโปร์ที่เป็นจุดเด่นทั้ง 5 ประการมานำเสนอให้รับทราบว่าที่หลายคนบอกว่าดีลงทุนที่นี่โอกาสมีกำไรเยอะขึ้นนั้นเป็นอย่างไร
 
1.ตลาดหุ้นสิงคโปร์มีความหลากหลายในการลงทุน

 
ภาพจาก goo.gl/aFSwt5

แม้ภาพลักษณ์โดยรวมในตลาดหุ้นสิงคโปร์จะค่อนข้างนิ่ง ไม่หวือหวาเหมือนกับตลาดหุ้นไทยเพราะมูลค่าการซื้อขายกว่า 80% มาจากนักลงทุนสถาบัน โอกาสที่จะเห็นหุ้นวิ่งแรงๆ ทำกำไรแบบเดย์เทรดได้ในวันเดียวค่อนข้างน้อย แต่ตลาดหุ้นสิงคโปร์ก็ถูกทดแทนด้วย “ความหลากหลาย” ของสินค้า ด้วยความที่เป็น “ฮับ” ในด้านต่างๆ ทำให้บริษัทข้ามชาติหลายแห่งเข้ามาจดทะเบียนในตลาด SGX โดยที่อาจจะไม่มีธุรกิจอยู่ในสิงคโปร์เสียด้วยซ้ำ

อีกทั้งการลงทุนในตลาดหุ้นสิงคโปร์ยังมีทางเลือกน่าสนใจในการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ๆที่ตลาดหุ้นไทยยังไม่เปิดให้บริการ เช่นกองทุนประเภท ETF ที่เลือกลงทุนได้กับสินค้าโภคภัณฑ์อย่างทองคำ หรือน้ำมัน รวมถึงกลุ่มเทคโนโลยีต่างๆด้วย
 
2.นักลงทุนในสิงคโปร์สามารถซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทั่วโลกได้
 
นักลงทุนที่เปิดพอร์ตกับโบรกเกอร์สิงคโปร์ยังสามารถซื้อขายหุ้นในตลาดหลักๆ ของโลกได้ครบไม่ว่าจะเป็น ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ลอนดอน ฮ่องกง ญี่ปุ่น จีน รวมถึงย่านอาเซียนอื่นๆ อย่างมาเลเซียและอินโดนีเซีย แม้แต่ตลาดหุ้นไทยก็ตามแต่จะเสียค่าคอมมิชชั่นสูงกว่าที่เทรดในไทยก็ตาม
 
3.มีผลิตภัณฑ์การลงทุนที่น่าสนใจออกมาต่อเนื่อง

 
ภาพจาก goo.gl/T5JpGh

โดยผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจในตอนนี้และเป็นของใหม่ก็คือ ตราสารที่เรียกว่า Daily Leverage Certificate ซึ่งออกแบบขึ้นโดยสถาบันการเงินจากฮ่องกง รูปแบบคล้ายกับ Options คือมีทั้ง Call และ Put แต่มีข้อดีคือไม่มี Time Decay หรือมูลค่าที่ลดลง ทำให้นักลงทุนสามารถถือลงทุนได้ระยะยาว คาดว่าจะเริ่มเปิดให้ซื้อขายได้ในเดือนสิงหาคมนี้
 
4.นักลงทุนหุ้นในสิงคโปร์สามารถซื้อขายล่วงหน้าได้

ความพิเศษของตลาดหุ้นสิงคโปร์คือ ผู้ที่เปิดพอร์ตกับโบรกเกอร์สามารถ “ขายล่วงหน้า” หรือ Short Sell ได้ทันที จากปกติถ้าซื้อขายในตลาดหุ้นไทยจะต้องเปิดธุรกรรมยืมหุ้นมาขายก่อนหรือ SBL และต้องเสียค่าวางมาร์จิ้น แต่ที่สิงคโปร์เราสามารถตั้งขายหุ้นล่วงหน้าได้เลย และเมื่อหุ้นลงก็จะทำกำไรได้ แต่จำเป็นต้องขายออกไปทันทีในวันนั้นไม่เช่นนั้นทางตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์จะซื้อคืนหุ้นตัวนั้นให้เอง
 
5.ตลาดหุ้นสิงคโปร์มีโปรแกรม Contra Trading
 

 
ภาพจาก goo.gl/q3TH5y

ตลาดหุ้นสิงคโปร์มีโปรแกรมที่เรียกว่า Contra Trading กล่าวคือนักลงทุนสามารถซื้อหุ้นได้เกินวงเงินที่มีอยู่ในพอร์ต เช่น ใส่เงินไว้ในพอร์ตจำนวน 50,000 บาท แต่สามารถเทรดได้ในวงเงิน 100,000 บาท โดยไม่จำเป็นต้องเปิดบัญชีมาร์จินแบบไทย โดยมีระยะเวลาให้ซื้อขายได้ภายใน 3 วันทำการสำหรับหุ้นในตลาดสิงคโปร์

ส่วนตลาดหุ้นสหรัฐฯจะได้เวลาถึง 5 วัน ตลาดหุ้นลอนดอน 4 วัน โดยหากซื้อและขายได้กำไรภายในระยะเวลาดังกล่าว เราก็จะได้กำไรที่เกิดขึ้นนั้นไป แต่ยังเสียค่าธรรมเนียมซื้อขายตามปกติ จุดประสงค์ที่เกิดโปรแกรมดังกล่าวเพราะทางตลาดหุ้นสิงคโปร์ต้องการจะสนับสนุนให้นักลงทุนรายย่อยซื้อขายหุ้นให้มากขึ้นนั่ โดยโปรแกรมนี้เปิดบริการมาแล้ว 3 ปี ถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ที่สนใจการเล่นเก็งกำไรในระยะสั้น
 
ส่วนเหตุผลข้อสุดท้ายไม่ได้จัดเอาไว้ใน 5 ข้อน่าสนใจแต่ก็ดูเหมือนว่าจะมีคนสนใจไม่น้อยนั้นคือจำเป็นต้องมีเงินแค่ไหนถึงจะลงทุนหุ้นในตลาดสิงคโปร์ได้ คำตอบนี้บอกได้เลยว่า หลักแสนกลางๆ ก็เพียงพอต่อการลงทุน และแม้ว่าจะมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าหุ้นไทยแต่สำหรับนักลงทุนที่ต้องการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตและต้องการเปิดโลกการลงทุนของตัวเองให้กว้าง การลงทุนหุ้นในตลาดสิงคโปร์ก็ดูน่าสนใจไม่ใช่เล่นทีเดียว
 
สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมายไว้ให้ทุกท่านพิจารณากันตามความเหมาะสม ดูรายละเอียด goo.gl/Io5k2S
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
612
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
514
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
477
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
434
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
421
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
417
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด