บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การตลาด บริหารธุรกิจ    ความรู้ทั่วไปทางการตลาด
2.0K
2 นาที
31 พฤษภาคม 2560
Starbucks จับมือ WeChat ลุยตลาดกาแฟประเทศจีน
 
 
ภาพจาก goo.gl/4aV872

Starbucks ได้ชื่อว่าเป็นธุรกิจกาแฟระดับพรีเมี่ยมที่ตีตลาดไปทั่วโลกนับรวมสาขาได้ไม่ต่ำกว่า 21,000 สาขาใน 62 ประเทศทั่วโลกอีกทั้ง Starbucks ยังมีแผนการตลาดที่จะขยายธุรกิจไปในประเทศที่มีศักยภาพนั้นก็รวมถึงประเทศจีนที่ว่ากันว่าการทำตลาดในประเทศนี้ค่อนข้างยากและมีอัตราความเสี่ยงสูง

แต่ทว่าจากข้อมูลที่ผ่านมาถือว่า Starbucks ในประเทศจีนทำได้ดีกว่าที่คาดโดยมีการครองส่วนแบ่งการตลาดถึง 75% เมื่อปี 2558 นำหน้าคู่แข่งอย่าง แมคโดนัลด์และ Costa Coffee ของบริษัท ไวท์เบรด ร้านกาแฟสัญชาติอังกฤษที่มีส่วนแบ่งการตลาดตามมาห่างประมาณ 9 % กว่าๆเท่านั้น

และแม้ว่า Starbucks จะดูแข็งแกร่งและมีแผนจะขยายสาขาให้ครบ 5,000 แห่งในปี 2021 หนึ่งในกลยุทธ์การตลาดของ Starbucks คือการร่วมมือและเป็นพันธมิตรกับธุรกิจอื่นที่เข้าถึงผู้บริโภคได้มากกว่าหนึ่งในนั้นคือการจับมือกับ WeChat ที่ถือว่าเป็นก้าวย่างสำคัญที่ทำให้ธุรกิจมีแนวโน้มเติบโตขึ้นมาก

ซึ่ง www.ThaiFranchiseCenter.com มองว่าสิ่งเหล่านี้คือวิสัยทัศน์ทางธุรกิจที่สำคัญและนักธุรกิจเมืองไทยที่กำลังก่อร่างสร้างตัวควรศึกษาไว้เพื่อเป็นแนวทางในการขยายกิจการให้เติบโตได้เช่นกัน 
 
จุดแข็งการตลาดของ WeChat 

 
WeChat เป็นหนึ่งในแอพการสื่อสารที่โตเร็วที่สุดในโลกด้วยผู้ใช้หลายร้อยล้านคนทั่วโลก WeChat ทำให้ผู้ใช้ได้มีวิธีการที่สนุกในการเอาการส่งข้อความ การสื่อสารในสังคม และเกมมารวมเป็นประสบการณ์แบบอินเทอร์แอคทีฟ

ด้วยความเป็นส่วนตัวสูงและการตั้งค่าความปลอดภัยที่สามารถทำได้ตามต้องการของตน WeChat ให้ผู้ใช้สามารถควบคุมได้ด้วยตนเองไม่ว่าจะเป็นการแชร์เสียง วิดีโอ รูปภาพ และข้อความผ่านทางเครือข่าย WeChat ผ่านทาง Official Accounts และเป็นเครือข่ายยอดนิยมของชาวจีนที่มีผู้ใช้งานมากกว่า 846 ล้านคนต่อเดือน ซึ่งการจับมือลุยตลาดกันในครั้งนี้คาดว่า 
 
Starbucks จะเข้าถึงตลาดผู้บริโภคชาวจีนได้แบบก้าวกระโดดมากยิ่งขึ้น
 
ทั้งนี้ในความร่วมมือดังกล่าวก็ก่อให้เกิดเป็นแนวทางของกลยุทธ์การตลาดที่น่าสนใจ 5 ประการที่นับว่าเป็นการเดินเกมส์ของผู้นำการตลาดที่ต้องการทิ้งห่างคู่แข่งให้มากขึ้นและต้องการสร้างฐานธุรกิจให้สำเร็จตามเป้าที่ตั้งไว้ด้วย
 
1.สร้างกิจกรรมให้ธุรกิจมีสีสันน่าสนใจ

 
ผู้ใช้ WeChat จะได้เห็น 2 ทางเลือกในร้าน Starbucks บนแอป ได้แก่การมอบของขวัญให้เพื่อนในรูปบัตรกำนัลหรือเครื่องดื่มแบบกำหนดโดยลูกค้าสามารถเลือกเครื่องดื่มได้ 6 แบบ บนอีการ์ด 6 สไตล์ ซึ่งราคาเริ่มต้นของเครื่องดื่มนั้นต่ำสุดเริ่มที่ลาเต้หรือคาปูชิโน 31 หยวน(ประมาณ 158 บาท) และจะได้บัตรกำนัลราคาระหว่าง 50-500 หยวน (ประมาณ245-2,450 บาท)

โดยผู้สนใจสามารถชำระเงินแบบรวดเดียวจบผ่านบริการ WeChat Wallet ซึ่งลูกค้าสามารถส่งข้อความพร้อมบัตรของขวัญนี้ถึงเพื่อนได้ทันทีเมื่อจ่ายเงินแล้วซึ่งความนิยมการมอบของขวัญผ่านดิจิทัลมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ อีกด้วย
 
2.สร้างภาพลักษณ์ของ Starbucks ให้ดีขึ้นกว่าเดิม



การร่วมมือกันในครั้งนี้ไม่ใช่แค่การเข้าถึงผู้บริโภคที่มากขึ้นเท่านั้นแต่ยังส่งเสริมภาพลักษณ์ของธุรกิจอย่าง Starbuck ให้ดูดียิ่งขึ้นในสายตาของคนจีนเนื่องด้วยนี่คือประเทศที่มีวัฒนธรรมยาวนานผู้คนส่วนมากยังยึดติดกับธรรมเนียมเดิมและไม่ยอมรับสินค้าที่มาจากต่างชาติ

การที่ WeChat ได้เข้ามาร่วมมือก็ทำให้มุมมองนั้นเริ่มเปลี่ยนไปประกอบกับการสนับสนุนให้คนจีนได้มีโอกาสส่งต่อความรู้สึกดีต่อกันพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้าในทุกที่ทุกเวลา จึงถือเป็นการยกระดับของStarbucks Experience ที่มากกว่าการเป็นแค่ร้านรีเทล์ธรรมดาในประเทศจีน

3.เพิ่มพลังในการเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างชัดเจน

 
 
พูดถึงเรื่องตัวเลขในการเข้าถึงก็เป็นคีเวิร์ดที่โดดเด่นของการจับมือในครั้งนี้โดยเป้าหมายสำคัญของ Starbucks ที่ใช้ระบบการชำระเงินผ่านสมาร์ทโฟนของ WeChat นั้นมีเป้าหมายในการขยายสาขาที่มีอยู่จากเดิม 2,500 สาขาใน 118 เมืองทั่วประเทศนจีน ให้เพิ่มขึ้นเป็น 5,000 แห่งภายในปี 2021  แต่ทั้งนี้การเพิ่มขึ้นในสัดส่วนดังกล่าวก็ยังถือเป็นเพียงครึ่งหนึ่งของ Starbucks ในสหรัฐอเมริกาที่มีสาขากว่า 12,900 แห่งเลยทีเดียว
 
4.ยกระดับการบริการสู่สังคมไร้เงินสดในอนาคต

ทาง Starbucks จะแนะนำการใช้ WeChat Pay สำหรับการซื้อสินค้าเพื่อยกระดับประสบการณ์ให้กับลูกค้า ประสบการณ์การจ่ายเงินดิจิทัลโดยไม่ใช้เงินสดนั้นทำให้ผู้ใช้งานสามารถซื้อสินค้าและบริการจากมือถือ และเป็นวิธีการจ่ายเงินที่ได้รับความนิยมในจีน โดยมีผู้ใช้กว่า 300 ล้านคนเชื่อมบัตรเครดิตของตัวเองกับ WeChat หรือ QQ ซึ่งเป็นการปูทางสู่สังคมไร้เงินสดในการทำธุรกิจที่เริ่มมีอิทธิพลมากขึ้นด้วย
 
5.Starbucks พร้อมขยายธุรกิจด้วยการจับมือพันธมิตรมากขึ้น


 
และนอกจากการร่วมมือกับ WeChat แล้ว ทาง Starbucks ยังได้พัฒนาความแข็งแกร่งทางธุรกิจให้ต่อเนื่องด้วยการจับมือกับพันธมิตรยักษ์ใหญ่ต่อเนื่องนั้นรวมถึง Tencent ยักษ์ใหญ่ไอทีของประเทศจีนที่จะเข้ามาเสริมศักยภาพในการทำธุรกิจของ Starbucks ให้มีคุณภาพได้มากขึ้น

ซึ่งแน่นอนว่าการร่วมมือกับหลายธุรกิจเช่นนี้ย่อมต้องมีกิจกรรมการตลาดและแนวทางการขยายธุรกิจที่เข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น นั้นเป็นการส่งสัญญาณว่า Starbucks เต็มที่และจริงจังกับการทำธุรกิจที่พร้อมเดินหน้าสร้างการเติบโตในแบบไร้ขีดจำกัด
 
ในฐานะที่ Starbucks คือแบรนด์ระดับโลกวิธีคิดอ่านทางการตลาดจึงต้องยิ่งใหญ่เป็นเรื่องธรรมดาแต่ในฐานะที่เรายังเป็นธุรกิจขนาดเล็กหรือไม่มีเงินทุนมหาศาลเช่นนั้นเราก็มีวิธีต่อสู้แบบคนตัวเล็กที่พร้อมจะเติบโตในอนาคต

ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับวิสัยทัศน์ของผู้ประกอบการที่จะต้องวางแผนการตลาดให้เข้าถึงผู้บริโภคและต้องรู้จักผสมผสานการใช้เทคโนโลยีอันเป็นพัฒนาการสำคัญที่สังคมกำลังมีการเปลี่ยนแปลง หากเราเข้าถึงเข้าใจและก้าวตามเทรนด์ของตลาดได้ทันธุรกิจนั้นก็ยังมีความหวังในการเติบโตแม้ทิศทางเศรษฐกิจจะยังไม่เป็นใจแต่เราก็ทำธุรกิจให้อยู่รอดได้หากว่าเราตั้งใจที่จะทำจริงๆ
 
สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมายไว้ให้ทุกท่านพิจารณากันตามความเหมาะสม ดูรายละเอียด goo.gl/Io5k2S
 
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก goo.gl/qpCVFg
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
612
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
514
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
477
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
434
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
421
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
417
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด