บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
3.9K
2 นาที
14 ธันวาคม 2559
4 วิธีคิด! ธุรกิจที่ทำนั้นคุ้มค่าการลงทุนหรือไม่

 
เรื่องสำคัญที่หลายคนกังวลในการที่จะก้าวออกมาทำกิจการตัวเอง ทำแล้วมันจะคุ้มไหม ?

แล้วมันจะทำให้มีรายได้เท่าไหร่ ? เมื่อไหร่จะคืนทุนกันนะ ?เมื่อเริ่มคิดลงมือทำ คำถามเหล่านี้ผุดขึ้นมาก หาคำตอบไม่ได้ธุรกิจมันก็เลยไม่เกิด เรียกได้ว่า “เจ๊ง” กันตั้งแต่ความคิดเลยทีเดียว
 
www.ThaiFranchiseCenter.com  มี4 วิธีคิดสำหรับทุกคนที่อยากลงทุนทำธุรกิจส่วนตัว หรือต้องการเป็นนายตัวเอง ด้วยวิธีที่ว่านี้จะทำให้เรารู้ว่าคุ้มค่าแค่ไหนกับกิจการที่เราอยากจะทำ

1.ขายได้มีกำไรไหม?

 
ยกตัวอย่างง่ายๆ กับร้านขายกาแฟสดยอดนิยมคือเช่าพื้นที่วางคีออส ข้าง ๆ บริษัท 12,000 ต่อเดือน จ้างลูกน้อง 8,500 ต่อเดือน ขายได้วันละ 60 แก้วเฉลี่ยแก้วละ 35 บาท ขายได้เดือนละ 20 วัน ต้องจ่ายค่าน้ำแข็งต่อเดือนประมาณ 6,000 ค่าแก้วใบละ 5 บาท ค่าเมล็ดกาแฟ 3,000 บาทต่อเดือน ค่านมข้นหวาน 2000 ค่าน้ำตาล 1,000  ค่าน้ำ ค่าไฟ 3,000 บาท
 
คำถามก็คือว่า ร้านกาแฟนี้ขายแล้วมีกำไรไหม ? โดยใช้วิธีคิดกำไร = ยอดขาย – (ต้นทุนคงที่ + ต้นทุนผันแปร) จะพบว่ามียอดขายประมาณ 42,000 ต้นทุนคงที่ประมาณ 20,500 ต้นทุนผันแปรอีกประมาณ 21,000 ซึ่งจะทำให้เหลือกำไรน้อยมากๆ 

และเพื่อให้ธุรกิจเดินหน้าต่อไปได้ก็จำเป็นต้องตัดรายจ่ายบางส่วนที่ไม่สำคัญออกเช่น เลิกจ้างลูกน้องแล้วหันมาทำเองหรือการหาทำเลใหม่ที่ค่าเช่าถูกลงแต่ปริมาณลูกค้าไม่น้อยกว่าเดิม แน่นอนว่าถ้าเรารู้จักพิจารณาเรื่องพวกนี้ก็ทำให้เรามีวิธีรับมือและสามารถเพิ่มกำไรให้การทำธุรกิจเราได้มากขึ้น
 
2.หาหน่วยขายที่คุ้มทุน 

 
หรือพูดง่ายคือรู้จักคิดก่อนว่าขายเท่าไหร่แล้วจะไม่ขาดทุนในวันนั้นๆ ซึ่งก็มีสูตรคำนวณที่เป็นระบบให้สามารถอ้างอิงเอามาใช้ได้ เช่น จุดคุ้มทุน=ต้นทุนคงที่/(ราคาขายต่อหน่วย - ต้นทุนผันแปรต่อหน่วย) ถ้าเรายกเอาตัวเลขของข้อที่ 1 มาเป็นเกณฑ์ก็จะพบว่า
 
ปริมาณคุ้มทุนที่ต้องขายได้อยู่ที่ 58 แก้วต่อวันแต่ถ้าเราเป็นคนทำเองก็เท่ากับต้นทุนจะน้อยลงทำให้ปริมาณการขายคุ้มทุนก็ลดน้อยลงเหลือประมาณ 35 แก้วต่อวันดังนั้นสิ่งที่ดีที่สุดในช่วงแรกคือการลงมือทำเองจะเป็นทั้งการเพิ่มประสบการณ์และทำให้เราลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ที่มากขึ้นด้วย
 
3.หายอดขายที่คุ้มทุนและสมควรทำให้ได้ใน 1 วัน  


 
หรือจะเรียกว่าเป็นรายได้สุทธิหลังการหักค่าใช้จ่ายจิปาถะ ที่ควรให้อยู่ในสัดส่วนที่ควรจะเป็นเพื่อให้ถึงเวลาสิ้นเดือนจะได้มียอดขายที่เรียกว่ากำไรได้อย่างเต็มปากเต็มคำ ซึ่งวิธีการคำนวณส่วนใหญ่ก็จะใช้ สูตรการคำนวณดังนี้
 
ยอดขายที่คุ้มทุน= หน่วยขายที่คุ้มทุน x ราคาขายต่อหน่วย และก็เช่นกันกับการหาตัวเลขที่ว่านี้จะยิ่งดีมากขึ้นถ้าในช่วงแรกเราลงมือทำเองโดยที่ไม่ต้องจ้างลูกน้องจะช่วยให้ยอดขายที่คุ้มทุนใน 1 วันมีตัวเลขมากขึ้นได้อย่างน่าพอใจทีเดียว
 
4.ระยะเวลาคืนทุน  

 
คือจำนวนวัน เดือน ปี ที่เงินที่เราลงทุนไปนั้น ก่อให้เกิดผลกำไร เป็นเงินกลับมาได้เท่ากับเงินที่เราลงไปตอนแรก ถ้าสมมุติว่ามีการลงทุนเบื้องต้นในรูปแบบการซื้อแฟรนไชส์ประมาณ 45,000 บาท ได้อุปกรณ์ทุกอย่างที่พร้อมเปิดขายได้ทันที

แต่ถามว่าระยะเวลาคืนทุนจะสั้นหรือยาวก็ต้องขึ้นอยู่กับกำไรในแต่ละเดือนยิ่งถ้าหากเราเริ่มต้นกิจการใหม่ๆแล้วมีลูกจ้างมากบอกได้เลยว่าโอกาสคืนทุนไวนั้นแทบไม่มีแต่กลับกันถ้าเราทำเองบริหารเองไปพลางๆ จะช่วยร่นเวลาคืนทุนให้สั้นได้อย่างมากทีเดียว
 
ทั้งนี้ถ้าเราดูอีกสักตัวอย่างจาก Warren Edward Buffett เจ้าพ่อแห่งวงการธุรกิจระดับโลกที่เขาเริ่มต้นการทำธุรกิจทุกอย่างด้วยตัวเขาเองทั้งนั้น โดยเมื่อตอน 6 ขวบเขานำเงิน 25 เซนต์ซื้อโค๊กจำนวน 6 แพ็ค และนำมาขาย ในราคา กระป๋องละ 1 เหรียญ และเมื่ออายุ 11 ขวบ เขาเริ่มลงทุนในหุ้น 
 

โดยนำเงินจากการเก็บแต่ก็ซื้อได้แค่ 3 หุ้นในราคาหุ้นละ 38 เหรียญ เมื่อซื้อแล้วราคาได้ตกมา 27 เหรียญ แต่เมื่อหุ้นกลับขึ้นมาอีกที เขาก็ขายไปที่ 40 เหรียญ ด้วยความที่มีหัวธุรกิจ ใจอยากค้าขาย เขายังทำงานพิเศษอื่น ๆ ควบคู่ไปด้วย

ไม่ว่าจะเป็น การเร่ขายของเคาะประตูตามบ้าน ส่งหนังสือพิมพ์ จนเมื่อเขาอายุได้ 14 ปี เขานำเงินสะสมจากธุรกิจต่าง ๆกว่า  1200 เหรียญ ไปซื้อที่ดินราว ๆ 100 ไร่ เพื่อให้คนเช่าทำการเกษตร

เรียกว่าเป็นการนำเงินไปต่อเงินอีก จนทุกวันนี้ Warren Edward Buffett คือบุคคลที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่แต่เขาก็มีคำกล่าวเดียวสำหรับผู้ลงทุนทุกคนที่อยากประสบความสำเร็จนั้นคือ “อย่าขาดทุน”  เพราะแค่คำเดียวนี้แต่ถ้าเราทำได้โดยรู้จักประมาณตน รู้จักการตลาด รู้จักการวางแผน ไม่ต้องเริ่มต้นอย่างยิ่งใหญ่แต่ก็ทำให้เราประสบความสำเร็จได้อย่างแน่นอน
 
แม้จะฟังดูว่าธุรกิจเป็นเรื่องที่ยุ่งยากซับซ้อน แต่หลายคนก็มั่นใจว่าโอกาสทางธุรกิจยังคงเปิดกว้างอีกมากขอเพียงมีแนวทางที่ดีรู้จักการทำธุรกิจที่แท้จริงเริ่มต้นไม่ต้องใหญ่เราก็สามารถยิ่งใหญ่ได้ในอนาคต
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
สร้างรายได้จาก กระเบื้องยางSPC วัสดุปูพื้นยอดนิย..
525
ประกาศเซ้ง! แบรนด์แฟรนไชส์จีนหมดแรง แซงไทยไม่ไหว
446
ถอดรหัส Santa Fe Steak รีแบรนด์แล้วยังเหนื่อย?
435
สงครามเย็น จักรวาลชานมไข่มุก ใครจะอยู่ใครจะไป
408
รวมเทคนิค “ดิ้นสู้” วิกฤติร้านอาหารปี 2568 ทำยัง..
404
“Gap Model” ร้านค้าทำดีทุกอย่าง แต่ทำไมลูกค้าไม..
392
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด