|
|
|
| แฟรนไชส์เบสท์ เอ็กซ์เพรส (BEST Express) ผู้ให้บริการ รับ-ส่งพัสดุด่วนทั่วไทย เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2562
โดยดำเนินธุรกิจภายใต้การบริหารงานของ เบสท์ อิงค์ (BEST Inc.) ผู้นำด้านซัพพลายเชนอัจฉริยะแบบบูรณาการ และผู้ให้บริการโซลูชันด้านโลจิสติกส์ในประเทศจีน และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัทแม่ของเบสท์ ประเทศไทย ที่ได้นำรูปแบบธุรกิจ “แฟรนไชส์ขนส่งพัสดุ” ที่ประสบความสำเร็จจากประเทศจีนเข้ามาในประเทศไทย
นับเป็นแบรนด์ขนส่ง (Express) เจ้าแรกในไทยที่ดำเนินธุรกิจแบบแฟรนไชส์ขนส่งพัสดุ 100% ปัจจุบัน BEST Express มีแฟรนไชส์ (รวมทุกประเภท) กว่า 900 สาขา ครอบคลุม 77 จังหวัดทั่วประเทศ" โดยเบสท์ได้ใช้งบประมาณกว่า 3.5 พันล้านบาทในการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน การสร้างศูนย์กระจายพัสดุ (HUB / DC) ที่ครอบคลุม รวมถึงคลังสินค้า และการพัฒนาระบบการบริหารจัดการ การฝึกอบรม และระบบการปฏิบัติการ ฯลฯ เพื่อพัฒนาเครือข่ายแฟรนไชส์ให้แข็งแกร่ง และเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกัน เพื่อตอบสนองต่อความต้องการด้านการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้น เบสท์ ประเทศไทย ได้วางกลยุทธ์การให้บริการสำหรับธุรกิจขนส่งพัสดุข้ามพรมแดน (cross-border) และการบริหารจัดการคลังสินค้า (supply chain) เพื่อเชื่อมต่อธุรกิจขนส่งพัสดุในประเทศไทย จีน และประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เข้าไว้ด้วยกัน พร้อมการพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ทั้งในด้านเทคโนโลยี ระบบอัตโนมัติ และการวิเคราะห์ข้อมูลในการจัดส่งพัสดุที่เป็นกรรมสิทธิ์ของเบสท์ รวมถึงการพัฒนาระบบ SaaS หรือซอร์ฟแวร์โซลูชั่นด้านธุรกิจอีคอมเมิร์ซ และการจัดการคลังสินค้าแบบครบวงจร เพื่อส่งมอบบริการที่มีคุณภาพ และประสิทธิภาพสูงสุดให้กับลูกค้าและผู้ใช้บริการ | | | 6 เดือน – 2 ปี (ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการ) |
| | | | | พ.ศ. 2562 (ก่อตั้งมา 5 ปี) |
| พ.ศ. 2562 (ขายแฟรนไชส์มา 5 ปี) |
BEST Express หรือ เบสท์ ประเทศไทย เป็นบริษัทจัดส่งพัสดุแห่งแรกของไทยที่เสนอให้นักลงทุนในท้องถิ่นได้เข้ามาร่วมเป็นเจ้าของธุรกิจขนส่งพัสดุ ผ่านการบริหารจัดการในรูปแบบ “แฟรนไชส์ขนส่ง 100%” ซึ่งเป็นโมเดลที่สามารถดำเนินธุรกิจโลจิสติกส์ได้อย่างยั่งยืน โดย BEST Express ตอกย้ำความสำเร็จในฐานะสุดยอดแฟรนไชส์ การรันตีด้วยรางวัลแฟรนไชส์ยอดเยี่ยมจากการประกวดรางวัลธุรกิจแฟรนไชส์ไทย (Thailand Franchise Award) จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ถึง 3 ปีซ้อน ประกอบด้วย - รางวัล “BEST INNOVATION FRANCHISE 2021” สาขาแฟรนไชส์นวัตกรรมยอดเยี่ยม
- รางวัล “BEST OVERSEAS FRANCHISE 2022” สาขาแฟรนไชส์ต่างประเทศยอดเยี่ยม
- รางวัล “BEST SERVICE FRANCHISE 2023” สาขาแฟรนไชส์บริการยอดเยี่ยม
นอกจากการนำนวัตกรรมเทคโนโลยีเข้ามาใช้เพื่อพัฒนาด้านบริการและคุณภาพของศูนย์กระจายพัสดุ (HUB) ของ BEST Express แล้ว บริษัทฯ ยังได้รับมาตรฐานสากล ISO 9001:2015 Quality Management System (QMS) จาก LRQA องค์กรผู้เชี่ยวชาญด้านการตรวจประเมินระบบคุณภาพชั้นนำของโลก
โดยมีขอบข่ายครอบคลุมถึงการบริการจัดส่งพัสดุด่วน และการบริหารจัดการคลังสินค้า ณ สำนักงาน ศูนย์กระจายพัสดุ และคลังสินค้าของบริษัทฯ เพื่อแสดงถึงความเป็นเลิศด้านคุณภาพ และความมีประสิทธิภาพของการดำเนินการให้บริการขนส่งพัสดุด่วนและบริการบริหารจัดการคลังสินค้าที่ได้มาตรฐานสากล ลูกค้าจึงมั่นใจได้ว่า พัสดุทุกชิ้นที่ส่งกับ BEST Express จะไปถึงปลายทางอย่างรวดเร็วและปลอดภัย
BEST Express (เบสท์ เอ็กซ์เพรส) ผู้ให้บริการรับ – ส่งพัสดุด่วนทั่วประเทศไทย ภายใต้รูปแบบ “แฟรนไชส์ขนส่ง” ที่เปิดโอกาสให้นักลงทุนในพื้นที่ต่าง ๆ เข้ามาลงทุนแฟรนไชส์ขนส่งกับ BEST Express เพื่อต่อยอดธุรกิจและการบริการขนส่งพัสดุในพื้นที่ที่ดูแล มีสิทธิ์ในการบริหารพื้นที่ที่ดูแล ภายใต้การควบคุมและชี้แนะจากเบสท์ สำนักงานใหญ่ โดยปัจจุบัน BEST Express มีบริการที่หลากหลาย สามารถตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่มเป้าหมาย อาทิ - บริการ BEST Big Parcel รับ-ส่งพัสดุชิ้นใหญ่ ที่มีน้ำหนักมากถึง 110 กิโลกรัม
- บริการรับ-ส่งพัสดุถึงหน้าบ้าน โดยลูกค้าสามารถ Booking ผ่านไลน์ หรือ BEST Express APP ได้โดยตรง
- นอกจากนี้ เพื่อเพิ่มศักยภาพการให้บริการขนส่ง และเพิ่มรายได้ให้กับหน้าร้านสาขา BEST Express ยังมีบริการเสริมอื่น ๆ (Value Added Services) อีกมากมาย อาทิ
- บริการเก็บเงินปลายทาง (Cash On Delivery – COD) โดยคิดค่าบริการเพิ่มเติมเพียง 2%
- บริการประกันภัยสินค้า (Insurance) บริการคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นกับพัสดุ ค่าเบี้ยประกันภัย 0.4% ของมูลค่าสินค้าหรือขั้นต่ำ 10 บาท และให้ความคุ้มครองสูงสุดถึง 30,000 บาท
- บริการแจ้งเตือนพัสดุอัตโนมัติผ่านไลน์ @BESTExpressTH หรือลิงค์ https://lin.ee/jj3oCAb
- บริการ BEST Multiple Parcel บริการส่งพัสดุหลายกล่องใน 1 เวย์บิล สู่ปลายทางในเวลาเดียวกัน
รูปแบบการลงทุนในธุรกิจแฟรนไชส์ขนส่ง BEST Express แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ตามหน้าที่และความรับผิดชอบ ประกอบด้วย
BEST Express First- Station แฟรนไชส์หลัก >> โดยจุดเด่นและหน้าที่ความรับผิดชอบหลัก ๆ ของแฟรนไชส์หลัก BEST Express มีดังนี้ - แฟรนไชส์หลัก BEST Express จะมีรายได้ 2 ทาง จากทั้งขารับและกระจาย โดยขารับพัสดุ จะเป็นรายได้ที่แฟรนไชส์ได้รับจากการเข้ารับพัสดุจากลูกค้าต้นทาง ส่วนขากระจายพัสดุ จะเป็นรายได้จากการนำส่งพัสดุให้กับลูกค้าปลายทาง
- แฟรนไชส์หลัก BEST Express จะได้รับสิทธิ์บริหารพื้นที่ที่อยู่ภายใต้การดูแล มีอิสระในการขยายเครือข่าย ต่อยอดหาลูกค้าในพื้นที่ และกำหนดราคาขายได้ด้วยตัวเอง ทั้งยังสามารถเปิดจุดรับพัสดุในพื้นที่ได้อีกด้วย โดยอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของเบสท์ สำนักงานใหญ่
- แฟรนไชส์หลัก BEST Express จะได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานใหญ่ ทั้งเรื่องการจัดการระบบ การฝึกอบรม และมีผู้จัดการภูมิภาค (หรือ AM) คอยให้คำปรึกษาด้านการบริหารจัดการ และการสนับสนุนราคาโปรโมชั่น เพื่อหาลูกค้าและเพิ่มยอดพัสดุในพื้นที่ อีกด้วย
- ทั้งนี้ แฟรนไชส์หลัก BEST Express จะต้องมีความพร้อม และเวลาในการทำธุรกิจขนส่ง และการบริหารจัดการหน้าร้านสาขาอย่างเต็มที่ โดยมีทุนจดทะเบียนบริษัทฯ ตามเงื่อนไขที่บริษัทกำหนดไว้ และมีวิสัยทัศน์ และพร้อมเติบโตไปด้วยกันกับเบสท์
ตัวแทนจุดรับพัสดุ (BEST Express Drop Point) >> มีหน้าที่ “รับพัสดุเพียงอย่างเดียว” โดยผู้สมัครเป็นแฟรนไชส์ประเภทนี้ไม่จำเป็นต้องมีโกดัง หรือพื้นที่สำหรับการคัดแยกพัสดุ และไม่ต้องทำหน้าที่ในการกรัจายพัสดุไปยังลูกค้าปลายทาง โดยตัวแทนจุดรับพัสดุ (BEST Express Drop Point) จะอยู่ภายใต้การดูแลของแฟรนไชส์หลักในพื้นที่
- มีความพร้อม และเวลาในการทำธุรกิจขนส่ง และการบริหารจัดการหน้าร้านสาขาอย่างเต็มที่
- มีทุนจดทะเบียนบริษัทฯ ตามเงื่อนไขที่บริษัทกำหนดไว้
- มีวิสัยทัศน์ และพร้อมเติบโตไปด้วยกันกับเบสท์
- ค่าสมัครสมาชิก, เงินประกันการบริหารจัดการ และเงินประกันตกแต่ง เริ่มต้นที่ 250,000 บาท* และมีเงินทุนหมุนเวียน ที่เพียงพอต่อการบริหารจัดการธุรกิจ (ขึ้นอยู่กับจำนวนพัสดุ และขนาดของพื้นที่) โดยสาขามีสิทธิจะได้รับเงินประกันคืนตามเงื่อนไขของบริษัท
สิทธิประโยชน์ BEST Express First- Station แฟรนไชส์หลัก จะได้รับ - ได้รับสิทธิ์บริหารพื้นที่ที่อยู่ภายใต้การดูแล โดยการบริหารจะอยู่ภายใต้การชี้แนะและควบคุมดูแลของสำนักงานใหญ่
- สามารถเปิดจุดรับพัสดุในพื้นที่ เพื่อเพิ่มยอดพัสดุ และรายได้ของสาขา
- มีสาขาครอบคลุม และศูนย์กระจายสินค้าทั่วประเทศไทย
- ได้เปอร์เซ็นต์รายได้ทั้ง ขารับพัสดุ และ ขากระจายพัสดุ
- มีผู้จัดการภูมิภาค (AM) ให้คำปรึกษาด้านการบริหารจัดการ
- ระบบการจัดการและการทำงานของเครือข่ายศูนย์กระจายสินค้าที่ครอบคลุม
- จัดตารางฝึกอบรมแฟรนไชส์อย่างต่อเนื่อง
- การสนับสนุนราคาโปรโมชั่น VIP เพื่อหาลูกค้า และเพิ่มยอดพัสดุในพื้นที่
- แฟรนไชส์หลัก BEST Express จะมีรายได้ 2 ทาง จากทั้งขารับและกระจาย โดยขารับพัสดุ จะเป็นรายได้ที่แฟรนไชส์ได้รับจากการเข้ารับพัสดุจากลูกค้าต้นทาง ส่วนขากระจายพัสดุ จะเป็นรายได้จากการนำส่งพัสดุให้กับลูกค้าปลายทาง
- แฟรนไชส์หลัก BEST Express จะได้รับสิทธิ์บริหารพื้นที่ที่อยู่ภายใต้การดูแล มีอิสระในการขยายเครือข่าย ต่อยอดหาลูกค้าในพื้นที่ และกำหนดราคาขายได้ด้วยตัวเอง ทั้งยังสามารถเปิดจุดรับพัสดุในพื้นที่ได้อีกด้วย โดยอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของเบสท์ สำนักงานใหญ่
- แฟรนไชส์หลัก BEST Express จะได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานใหญ่ ทั้งเรื่องการจัดการระบบ การฝึกอบรม และมีผู้จัดการภูมิภาค (หรือ AM) คอยให้คำปรึกษาด้านการบริหารจัดการ และการสนับสนุนราคาโปรโมชั่น เพื่อหาลูกค้าและเพิ่มยอดพัสดุในพื้นที่ อีกด้วย
| | | | ข้อมูล ณ วันที่ 21 มีนาคม 2567 | |
รายชื่อผู้สนใจแฟรนไชส์ เบสท์ เอ็กซ์เพรส | ลำดับ | ชื่อ-สกุล | โทร | E-mail |
1. |
สาวิตรี ปาxxx |
08130xxx |
sawitxxx |
2. |
สุทธิพงษ์ xxx |
09849xxx |
bas.axxx |
3. |
น้ำฝนxxx |
08333xxx |
fon08xxx |
4. |
เอกพลxxx |
08635xxx |
Eak24xxx |
5. |
วิกรีน เมฆxxx |
09249xxx |
Kunawxxx |
| | | |
|
|
|
|