ดาวเด่นแฟรนไชส์    ‘คิโด้’ ตอบโจทย์ธุรกิจการศึกษาเพื่อคุณหนู
5.8K
3 มกราคม 2552

‘คิโด้’ ตอบโจทย์ธุรกิจการศึกษาเพื่อคุณหนู 
 

        ด้วยสังคมไทยยุคนี้ แต่ละครอบครัวนิยมมีลูกเพียงแค่ 1-2 คน แต่ขอให้มีคุณภาพสูง ประกอบกับมองเห็นปัญหาในระบบการศึกษาไทย จุดประกายให้ “ชลิดา วัฒนคุณ” และทีมงาน เปิดสถาบันพัฒนาเด็กเล็ก “คิโด้” เพื่อเป็นทางเลือกแก่พ่อแม่ยุคปัจจุบันที่พร้อมจะทุ่มเงินมอบสิ่งดีที่สุดให้แก่ลูก 

 

         ชลิดา วัฒนคุณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เพลย์ แอน เลอน จำกัด หนึ่งในผู้ก่อตั้งสถาบันพัฒนาเด็กเล็ก “คิโด้” (KiDO) เผยว่า เริ่มธุรกิจเมื่อปี 2546 จากแรงบันดาลใจที่เธอก็มีลูกเล็กๆ 2 คน และมองระบบการศึกษาของประเทศไทยที่ผ่านมายังไม่ดีเท่าที่ควร ส่วนใหญ่เน้นให้เด็กเรียนท่องจำ ไม่เน้นกระตุ้นให้เด็กเกิดความคิด ช่างสังเกตหรืออยากทดลอง
      
       เป็นที่มาของแนวคิดตั้งสถาบันพัฒนาการเรียนรู้สำหรับเด็กเล็ก เพราะข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญระดับสากลเชื่อกันว่า การพัฒนาสมอง และรากฐานการเรียนรู้ของคนเราตลอดชีวิตนั้น 80% เกิดขึ้นในช่วงแรกเกิดจนถึงวัยก่อนอนุบาล ฉะนั้นการส่งเสริมและกระตุ้นการเรียนรู้ของเด็กวัยนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้เขาเติบโตขึ้นเป็นเด็กที่มีความคิดสร้างสรรค์ และก้าวสู่ผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ
      
       ชลิดา เผยว่า จุดเด่นของ “คิโด้” คือ หลักสูตรที่ได้รับความเชื่อถือนำมาจากประเทศสหรัฐอเมริกา เหมาะแก่เด็กวัย 3 เดือนจนถึง 6 ขวบ โดยหลักสูตรมีความหลากหลายและต่อเนื่อง ไม่ได้เน้นพัฒนาทักษะความเป็นเลิศด้านใดด้านหนึ่ง แต่เปิดโอกาสให้เด็กได้ฝึกฝน และพัฒนาตนเองในทุกด้านอย่างเต็มศักยภาพตามที่เขาเลือกเอง แบ่งเป็น 5 โปรแกรมหลักได้แก่

  1. KiDO Gym & Play เรียนรู้ผ่านการเล่นและออกกำลังกาย
  2. KiDO Music &More พัฒนาสมองและเสริมสร้างทักษะกับกิจกรรมดนตรี
  3. KiDO Arts &Crafts ฝึกกล้ามเนื้อมือ ใช้จินตนาการและความคิดสร้างสรรค์อย่างอิสระกับศิลปะ
  4. KiDO Art & Cooking พัฒนาทักษะพื้นฐานผ่านการลงมือทำเมนูสนุกๆ
  5. KiDO Science & Numbers ฝึกกระบวนการคิดผ่านการทดลองและเกมคณิตศาสตร์
           และเสริมด้วยโปรแกรมพิเศษ KiDO Day & Care รับดูแลและพัฒนาทักษะเด็กเล็กระหว่างวัน

       

นอกจากนั้น มีระบบบริหารจัดการครบวงจร เช่น ครูผู้สอนจบไม่ต่ำกว่าระดับปริญญาตรี ผ่านการอบรมอย่างดี และกำหนดอัตราครู1 คนต่อเด็ก 3 คน สามารถเลือกเวลาเรียนเองได้ รวมถึง ติดตั้งกล้องวงจรปิดทุกส่วนในสถาบันเพื่อให้พ่อแม่สามารถเปิดเข้าดูทางเว็บไซต์ได้ตลอดเวลา สร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัย ซึ่ง “คิโด้” ถือเป็นแห่งแรกในประเทศไทยที่ใช้ระบบนี้

        สำหรับอัตราค่าบริการของ “คิโด้” จะสูงกว่าสถาบันพัฒนาเด็กเล็กส่วนใหญ่ในประเทศไทย กว่า 5 เท่าตัว เช่น ค่าเรียน 3,300-4,900 บ./โปรแกรม/ 10 สัปดาห์ เป็นต้น ซึ่งแม้ราคาจะสูง แต่ผู้ปกครองรุ่นใหม่ยิ่งดีจะจ่าย เพราะปัจจุบันคนไทยเน้นมีลูกจำนวนน้อย แต่ให้มีคุณภาพ ดังนั้น จึงพร้อมจะจ่าย เพื่อมอบสิ่งดีที่สุดให้ลูกเสมอ
      
       ชลิดา ระบุด้วยว่า ถึงแม้จะมีระบบและหลักสูตรดีเพียงใด แต่หัวใจสำคัญที่สุดในการจะพัฒนาเด็กได้อย่างเต็มศักยภาพ คือ พ่อแม่ต้องมีวินัยในการพาลูกๆ มาเข้าเรียนให้ครบถ้วน และพ่อแม่ต้องเข้าร่วมเรียนพร้อมกับลูก เพื่อสร้างความผูกพัน และต้องนำเกม หรือการละเล่นต่างๆ กลับไปเล่นกับลูกที่บ้านสม่ำเสมอ หากปฏิบัติได้ดังกล่าว จากผลสอบถามผู้ปกครองที่นำลูกมาเรียน จะได้คำตอบตรงกันว่า ลูกมีพัฒนาการที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน
 
       ทั้งนี้ ใช้ทุนในการเริ่มต้นธุรกิจกว่า 5 ล้านบาท โดยปัจจุบันสถาบัน “คิโด้” มีทั้งหมด 3 สาขา ได้แก่ ชั้น 1 อาคารคิว เฮาส์ ลุมพินี , ชั้น 6 เซ็นทรัลเวิล์ดพลาซ่า โดย 2 สาขานี้เปิดด้วยตัวเอง และสาขาใหม่ที่ชั้น 2 โฮมโปร ถนนราชพฤกษ์ เป็นสาขาที่ขายแฟรนไชส์
      
       เจ้าของธุรกิจ เผยว่า การขยายแฟรนไชส์เพื่อรองรับความต้องการของตลาดที่เพิ่มมากขึ้น และเพื่อขยายฐานการบริการ ซึ่งการบริหารแฟรนไชส์ใช้มาตรฐานสากล นำระบบต่างๆ ของ “คิโด้” ไปใช้อย่างสมบูรณ์ เช่น การจัดหาบุคลากรครูผู้สอน วางเนื้อหาหลักสูตรต่างๆ สนับสนุนคู่มือ คำปรึกษาในการติดต่อหน่วยงานราชการเพื่อขอใบอนุญาต และกิจกรรมประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อ ฯลฯ โดยเรียกเก็บค่า Royalty Fee 6-7.5% ของยอดขาย และค่า Marketing Fee 3% ต่อเดือน

 

       สำหรับผู้จะเป็นแฟรนไชส์ซี (Franchisees) ต้องใช้เงินลงทุนเบื้องต้นประมาณ 2.2 – 3 ล้านบาท โดยผลจากที่เปิดธุรกิจด้วยตัวเอง มีอัตราคืนทุนได้ในเวลา 3 – 3.5 ปี ด้านเกณฑ์คัดเลือกค่อนข้างเข้มงวด เช่น มีความสุขที่ได้ทำงานกับเด็กๆ เชื่อในการเรียนรู้ผ่านการเล่น มีศักยภาพในการบริหารจัดการด้วยตัวเอง หรือจ้างมืออาชีพโดยพิจารณาจากการสัมภาษณ์ ข้อมูลประวัติ มีทุนทรัพย์สุทธิ (Net Worth) ในการลงทุนกว่า 85% ของเงินลงทุนทั้งหมด มีเงินสดพร้อมลงทุนอย่างน้อย1.5 ล้านบาท และมีแผนธุรกิจ กับทำเลเหมาะสม เป็นต้น
      
       ชลิดา เผยว่า ด้วยระบบบริหารดังกล่าว ประกอบกับผลสำเร็จของบริษัทแม่ที่ผ่านมา ในปัจจุบันจึงมีผู้สนใจอยากร่วมธุรกิจจำนวนมาก แต่เนื่องจากกติกาที่วางไว้สูง ทำให้หาผู้ผ่านเกณฑ์ยาก แต่ในอีกแง่หนึ่ง ถือเป็นจุดดีที่จะคัดกรอกผู้ร่วมธุรกิจที่เหมาะสมจริงๆ สามารถการันตีความสำเร็จ และช่วยเสริมคุณค่าของแบรนด์

       โดยตั้งเป้าขยายแฟรนไชส์ไว้ที่ปีละ 1 สาขา ครอบคลุมพื้นที่สำคัญๆ ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล และต่างจังหวัดที่มีศักยภาพ โดยเชื่อมั่นว่า อนาคตธุรกิจเกี่ยวกับการศึกษาจะมาแรงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อมองจากประเทศที่พัฒนาแล้ว อย่างสิงคโปร์ ธุรกิจการศึกษาทั้งหลายต่างเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคอย่างสูง เพราะทุกคนต้องเร่งพัฒนาศักยภาพให้เพิ่มขึ้น ซึ่งคนไทยก็กำลังปรับตัวสู่จุดนี้เช่นกัน

สนใจ โทร.02-677-7511 , 02-613-1713 หรือ www.kidothailand.com

อ้างอิงจาก ผู้จัดการออนไลน์

ดาวเด่นแฟรนไชส์ยอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
รวบรวมขนมปัง 20 บาท มาเอาใจคนอยากมีร้าน
156,201
ชานมไข่มุกปลุกตลาด 7 พันล้าน เทรนด์‘ไต้หวันกลับซ..
99,217
กาแฟสด ชาวดอย ลงทุนน้อย ความเสี่ยงต่ำ ความคล่องต..
80,802
เนสท์เล่ ปูพรมร้านไอศกรีมลงทุนเอื้ออาทร สานฝันคน..
77,058
ปั่นแหลก น้ำผลไม้สด แซงโค้งเข้าวินสร้างอาชีพ
76,344
“เคพีเอ็นพลัส” แฟรนไชส์อะไหล่มอ’ไซด์ ลั่นขยาย100..
54,210
ดาวเด่นแฟรนไชส์มาใหม่
ดาวเด่นแฟรนไชส์อื่นในหมวด