บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
305
4 นาที
5 มิถุนายน 2568
สงครามส่งด่วน • เกมส์ • กลยุทธ์ • ธุรกิจ 

 

เชื่อว่าหลายคนน่าจะได้ดูซีรีส์ Netflix "สงครามส่งด่วน" (Mad Unicorn) กันบ้างแล้ว เริ่มสตรีมมาตั้งแต่วันที่ 29 พ.ค. 2568 มียอดผู้ชมมากกว่า 1 ล้านครั้ง เป็นเรื่องราวความสำเร็จของ Flash Express ผู้ให้บริการขนส่งพัสดุสัญชาติไทย ก่อตั้งขึ้นในปี 2560 โดย "คุณคมสัน แซ่ลี" ผู้ที่มองเห็นโอกาสในตลาดอีคอมเมิร์ซ และเห็นช่องว่างในธุรกิจบริการขนส่งพัสดุของไทย 
 
หลังจากนั้นกระโดดเข้ามาเล่นในสมรภูมิที่มีการแข่งขันอย่างดุเดือด มีคู่แข่งมากหน้าหลายตา สร้างกลยุทธ์ราคาที่ต่ำกว่าคู่แข่ง บริการรับพัสดุฟรีถึงบ้าน และให้บริการทุกวันไม่มีวันหยุดตลอดทั้งปี ที่สำคัญยังมีการลงทุนทางด้านเทคโนโลยี และโครงสร้างพื้นฐานที่มีส่วนช่วยให้ธุรกิจเติบโตอย่างรวดเร็ว จนสามารถระดมทุนกลายเป็นยูนิคอร์นตัวแรกของประเทศไทยในปี 2564
 
ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ จะไม่เล่าถึงเรื่องราวในซีรีย์ "สงครามส่งด่วน" ว่าจะดุเดือดเผ็ดมันแค่ไหน แต่จะพาไปสำรวจสมรภูมิขนส่งพัสดุด่วนในประเทศไทยว่า ผู้เล่นแต่ละแบรนด์งัดกลยุทธ์อะไรมาต่อสู้กันในสมรภูมิที่หลายคนเรียกว่า Red Ocean  

ก่อนอื่นมาดูภาพรวมของตลาดบริการขนส่งพัสดุด่วนในประเทศไทย มีมูลค่าเติบโตมากแค่ไหน 
 
ข้อมูลจาก SHIPPOP ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มรวมขนส่งโลจิสติกส์ชั้นนำ ระบุว่ามูลค่าตลาดบริการจัดส่งพัสดุในประเทศไทยปี 2567 อยู่ที่ราวๆ 100,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% จากปี 2566 ที่มีมูลค่ากว่า 96,000 ล้านบาท
 
ส่วนข้อมูลของ Mordor Intelligence บริษัทวิจัยตลาดระดับโลก คาดการณ์ตลาดบริการส่งพัสดุด่วนในไทยปี 2568 มูลค่าอยู่ที่ 2.86 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 9.4 หมื่นล้านบาท และมีแนวโน้มว่าจะเติบโตถึง 4.04 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.32 แสนล้านบาทในปี 2573   
 
กลยุทธ์สร้างความต่าง ดึงดูดลูกค้า
 
1. ไปรษณีย์ไทย

ภาพจาก https://citly.me/k3muc

ไปรษณีย์ไทย หรือ Thailand Post อยู่ภายใต้บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เป็นธุรกิจสัญชาติไทย ก่อตั้งมายาวนานเมื่อปี 2426 มีจุดให้บริการกว่า 33,988 แห่งทั่วประเทศ ปี 2566 มีรายได้ 20,934 ล้านบาท สร้างกำไรกว่า 78 ล้านบาท ไปรษณีย์ไทย ถือเป็นผู้ให้บริการจัดส่งพัสดุด่วนอันดับ 1 ของไทย 

จุดเด่น
  • มีประสบการณ์รับ - ส่งพัสดุและไปรษณีย์มาอย่างยาวนาน และมีเครือข่ายบุรุษไปรษณีย์กว่า 25,00 คนทั่วประเทศ
  • มีจุดให้บริการทั่วประเทศ แม้อยู่พื้นที่ห่างไกล เจ้าหน้าที่ชำนาญเส้นทาง
  • มีบริการให้เลือกส่งพัสดุหลากหลายทั้งธรรมดา, ลงทะเบียน (R), EMS และ eCo-Poet
  • มีบริการเก็บเงินปลายทาง (COD)
  • สามารถส่งของชิ้นใหญ่ได้
  • เช็คสถานะพัสดุได้ตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง แบบลงทะเบียน eCo-Post และ EMS
  • พัสดุบรรจุซอง ส่งแบบลงทะเบียน (R) อัตราค่าขนส่งเริ่มต้น 13 บาท ระยะเวลาจัดส่ง 3 - 5 วัน 
  • พัสดุบรรจุกล่อง ส่งแบบลงทะเบียน (R), eCo-Post อัตราค่าขนส่งเริ่มต้น 20 บาท ระยะเวลาจัดส่ง 3 - 5 วัน
  • ส่งพัสดุแบบ EMS อัตราค่าขนส่งเริ่มต้น 32 บาท ระยะเวลาจัดส่ง 1 - 2 วัน
2. Flash Express

ภาพจาก https://bit.ly/3w2DDxP

ไปรษณีย์ไทย อยู่ภายใต้บริษัท แฟลซ เอ็กซ์เพรส จำกัด เป็นบริษัทสัญชาติไทย ก่อตั้งขึ้นในรปี 2560 มีจุดให้บริการกว่า 17,000 แห่งทั่วประเทศ ปี 2566 มีรายได้ 20,093 แต่ขากทุนถึง 559 ล้านบาท

จุดเด่น 
  • ให้บริการ 365 วัน ไม่มีวันหยุด
  • มีบริการรับพัสดุถึงหน้าบ้าน สามารถเรียกให้มารับพัสดุได้ผ่านแอปพลิเคชันโดยไม่บวกค่าบริการเพิ่ม
  • ศูนย์กระจายสินค้าขนาดใหญ่กว่า 22 แห่งที่สามารถคัดแยกพัสดุได้มากกว่า 40,000 ชิ้นต่อชั่วโมง
  • มีบริการส่งพัสดุแบบ Speed การันตี ส่งช้า คืนค่าจัดส่งให้ 
  • สามารถคำนวณค่าส่งพัสดุล่วงหน้า 
  • มีบริการเก็บเงินปลายทาง (COD)
  • อัตราค่าขนส่งพัสดุเริ่มต้น 18 บาท ภายในพื้นที่จังหวัดเดียวกัน ไม่รวมพื้นที่กรุงเทพฯ, นนทบุรี, สมุทรปราการ, ปทุมธานี และบริการ SPEED
  • จัดส่งพัสดุเร่งด่วนภายใน 1 วัน 
3. Kerry Express

ภาพจาก https://citly.me/SJBDk

Kerry Express หรือ KEX อยู่ภายใต้บริษัท เคอีเอ็กซ์ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทสัญชาติฮ่องกง ก่อตั้งในประเทศไทย ปี 2549 เปิดจุดให้บริการกว่า 37,337 แห่งทั่วประเทศ สร้างรายได้ปี 2566 กว่า 11,470 ล้านบาท แต่ขาดทุนถึง 3,880 ล้านบาท

จุดเด่น
  • เข้าถึงง่ายสะดวกสบาย  มีจุดให้บริการหลายที่ทั้งสาขาของ Kerry Express และพาร์ทเนอร์ รวมถึงสถานีรถไฟฟ้า BTS
  • มีบริการแบบ Parcel Shops รับ - ส่งพัสดุผ่านตู้ล็อคเกอร์ ใช้งานได้ตลอด 24 ชม. ตามสำนักงานและที่พักอาศัยในกรุงเทพฯ
  • บริการ  Bangkok Sameday มีพนักงานเข้ารับพัสดุถึงบ้านภายใน 2 ชั่วโมง และจัดส่งถึงปลายทางในวันเดียวกัน
  • มีบริการรับพัสดุถึงบ้าน
  • มีบริการเก็บเงินปลายทาง (COD)
  • อัตราค่าขนส่งในโซนกรุงเทพฯ ปริมณฑล เริ่มต้นที่ 25 บาท ระยะเวลา 1 - 2 วัน
  • ส่งพัสดุโซนต่างจังหวัด อัตราค่าขนส่งเริ่มต้นที่ 49 บาท ระยะเวลา 2 - 3 วัน
4. J&T Express

ภาพจาก https://citly.me/x2HnK

J&T Express อยู่ภายใต้บริษัท โกลบอล เจท เอ็กซ์เพรส (ไทยแลนด์) จำกัด เป็นบริษัทสัญชาติอินโดนีเซีย ก่อตั้งในประเทศไทยปี 2558 มีจุดให้บริการกว่า 26,000 แห่งทั่วประเทศ สามารุทำรายได้ปี 2566 กว่า 18,511 ล้านบาท แต่ขาดทุนมากถึง 7,093 ล้านบาท 

จุดเด่น 
  • เปิดบริการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่มีวันหยุด
  • มีระบบติดตามพัสดุแบบ Real Time
  • มีบริการเก็บเงินปลายทาง (COD)
  • อัตราค่าขนส่งพัสดุเริ่มต้น 25 บาท
  • ระยะเวลาจัดส่ง 1 - 3 วันทำการ
5. Lazada Express

ภาพจาก https://citly.me/e1xrF

Lazada Express อยู่ภายใต้บริษัท ลาซาด้า เอ็กซ์เพรส จำกัด เป็นบริษัทสัญชาติจีน เข้ามาก่อตั้งในไทยปี 2558 เปิดจุดให้บริการมากกว่า 2,000+ แห่งทั่วประเทศ สามารถสร้างรายได้ในปี 2566 มากกว่า 16,738 ล้านบาท ทำกำไรได้ถึง 2,909 ล้านบาท 

จุดเด่น 
  • ร้านค้าที่ใช้ LEX TH สามารถเข้าร่วมโปรแกรมจัดส่งเร็วพิเศษได้
  • มีอัตราการเข้ารับสินค้าวันเดียวกับที่ร้านค้ากดพร้อมจัดส่ง มากกว่าระบบขนส่งเจ้าอื่น
  • มีอัตราการจัดส่งล้มเหลวน้อยกว่าขนส่งเจ้าอื่น
  • มีอัตราการพยายามจัดส่งให้ลูกค้าในวัดถัดไปที่ 99%
  • ได้รับความพึงพอใจสูงสุดจากลูกค้าเกี่ยวกับการขนส่ง
  • อัตราค่าขนส่งพัสดุปริมณฑล เริ่มต้น 20 บาท ระยะเวลาจัดส่ง 1-2 วัน
  • อัตราค่าขนส่งพัสดุต่างจังหวัด เริ่มต้น 25 บาท ระยะเวลาจัดส่ง 2-3 วัน
6. SPX Express (Shopee) 

ภาพจาก https://citly.me/zDWje

SPX Express อยู่ภายใต้บริษัท เอสพีเอ็กซ์ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด เป็นบริษัทสัญชาติสิงคโปร์ ก่อตั้งในประเทศไทยปี 2561เปิดจุดให้บริการกว่า 900 แห่งทั่วประเทศ ทำรายได้ในปี 2566 ถึง 16,607 ล้านบาท มีกำไร 34 ล้านบาท

จุดเด่น 
  • มีบริการเข้ารับสินค้าถึงหน้าร้าน เลือกวันและเวลาที่ต้องการให้เข้ารับได้อย่างอิสระ
  • มีบริการเก็บเงินปลายทาง โอนเข้าบัญชีร้านค้าภายใน 1-2 วันทำการ
  • บริการขนส่งรวดเร็ว ใช้เวลาเพียง 1-3 วัน
  • ขนส่งทุกวัน ไม่มีวันหยุด
  • มีการรับประกันกรณีสินค้าเสียหาย หรือสูญหาย
  • ร้านค้าออนไลน์ปริ้นท์ใบปะหน้าได้ง่ายๆ แค่เข้าไปที่ Seller Center
  • อัตราค่าขนส่งพัสดุเริ่มต้น 18 บาท
  • น้ำหนักสูงสุด 20 กิโลกรัม และขนาดใหญ่รวมไม่เกิน 180 เซนติเมตร (ด้านยาวมากสุดเกิน 100 เซนติเมตร)
ภาพจาก freepik.com

จะเห็นได้ว่าการแข่งขันในธุรกิจบริการขนส่งพัสดุด่วนของไทยในปัจจุบันมีความเข้มข้นสูง ช่วงราวๆ ปี 2558-2560 ถือเป็นช่วงที่มีบริษัทขนส่งหน้าใหม่ๆ เข้าสู่สมรภูมิจัดส่งพัสดุในประเทศไทย ชิงส่วนแบ่งตลาดจากไปรษณีย์ไทยอย่างต่อเนื่องที่โดดเด่นและสร้างความแตกต่างในตลาด ก็คือ Kerry เปิดเกมรุกปูพรมทั่วทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ตามมาด้วยอีกหลายเจ้าจากจีน อาทิ J&T, Best Express, Flash Express และอื่นๆ อีกหลายเจ้า 

ช่วงนั้นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซโหมดึงผู้ใช้ “เผาเงิน” ด้วยคูปองส่งฟรี ส่วนลด และที่หนักที่สุดคือช่วงวันคู่ หรือดับเบิลเดต เช่น 9.9, 11.11 เป็นต้น ช่วงเวลาดับเบิลเดตทำให้มีปริมาณสินค้าเพิ่มขึ้นในระบบโลจิสติกส์มากกว่าช่วงปกติ 2-3 เท่าตัว

การที่มีปริมาณสินค้าเยอะในช่วงดับเบิลเดต ดูเหมือนว่าธุรกิจส่งด่วนจะได้ประโยชน์ แต่เป็นดาบ 2 คม เมื่อผู้ให้บริการหลายๆ เจ้าจัดส่งพัสดุไม่ทัน นำไปสู่ “คลังแตก” เพราะแรงกดดันที่เกิดขึ้นต่อพนักงาน จนจัดส่งไม่ทัน ลดค่าคอมฯ จนต้องลากออก  

สำหรับ “คลังแตก” หมายถึง กรณีพัสดุในโกดังมีปริมาณมากจนไม่สามารถจัดส่งได้ทัน หรือตามเวลาที่กำหนด หรืออาจต้องถูกส่งคืน ซึ่งปัญหาคลังแตกมักเกิดขึ้นกับผู้ให้บริการจัดส่งที่กำลังเติบโต โดยมีสาขาเหตุมาจากการแข่งขันด้าน “ราคา” 
 
กลยุทธ์ธุรกิจที่ช่วยลดการแข่งขันด้านราคา

ภาพจาก freepik.com

1.การรวมศูนย์โลจิสติกส์ (Hub-and-Spoke Model)
  • การจัดตั้งศูนย์กระจายสินค้า (Hub) ขนาดใหญ่ในจุดยุทธศาสตร์
  • ใช้ระบบ Spoke ในการส่งพัสดุเข้า-ออกแบบรวดเร็ว ลดเวลาขนส่งและต้นทุน
2.การลงทุนในเทคโนโลยี
  • ลงทุนในระบบจัดการคลังสินค้า (WMS), ระบบติดตามพัสดุ และ AI เพื่อวางแผนเส้นทาง
  • ยกตัวอย่าง Flash Express ที่ใช้เทคโนโลยีคัดแยกอัตโนมัติ เพิ่มประสิทธิภาพได้หลายเท่า
3.การสร้างพันธมิตรทางธุรกิจ
  • จับมือกับแพลตฟอร์ม E-commerce เช่น Shopee, Lazada หรือแพลตฟอร์มร้านค้าออฟไลน์ที่ต้องการขยายสู่ตลาดออนไลน์
  • พัฒนาบริการร่วมกับผู้ให้บริการชำระเงินหรือฟินเทค (FinTech)
4.การให้บริการที่แตกต่าง
  • เช่น การให้บริการพัสดุเปราะบาง พัสดุควบคุมอุณหภูมิ หรือสินค้าราคาสูง
  • บริการพิเศษ เช่น “รับถึงบ้าน-ส่งถึงมือ” โดยไม่มีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม
5.การขยายบริการแบบ Fulfillment
  • เสนอบริการคลังสินค้า บรรจุหีบห่อ และจัดส่งครบวงจร (One-stop service) สำหรับผู้ขายออนไลน์
  • เป็นแนวทางสร้างรายได้เพิ่มที่ไม่จำกัดแค่การจัดส่ง

แหล่งข้อมูล 
 
 ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ฟองสบู่ร้านอาหารแตก! วิกฤตที่คนทำร้านอาหารต้องรู..
645
10 คาเฟ่เขาหลัก จิบกาแฟกลางธรรมชาติ สัมผัสเสน่ห์..
515
รวม 5 ธุรกิจไทยเอาใจวัยเกษียณ! ทำไมดีกว่า Gen Z
423
23 จิตวิทยาการขายขั้นเทพ ขายแบบไม่ขาย ฉบับใช้จริง
409
รวม 10 แอปหางาน! สร้างรายได้เพิ่มขึ้นทันที
402
16 ระบบ LMS พัฒนาธุรกิจ Learning Management Syst..
401
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด