บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
403
2 นาที
25 มีนาคม 2568
ยุคคนไทยเกิน 40% เป็นหนี้! ทำธุรกิจอะไร ถึงจะรอด?
 

ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจจะรอดหรือไม่รอดก็ขึ้นอยู่กับ “กำลังซื้อ” ของผู้บริโภค ถ้าดูจากสถิติในช่วง 10 ปีที่ผ่านมามีตัวเลขที่น่าเป็นห่วงคือ
  • ปัญหาหนี้ครัวเรือนไทยรุนแรงขึ้น สะท้อนจากยอดคงค้างหนี้ครัวเรือน อยู่ที่ 16.3 ล้านล้านบาท คิดเป็น 89% ของ GDP
  • 40% คนไทยมีหนี้เฉลี่ยกว่า 1.18 แสนบาท/คน และในจำนวนนี้เป็นหนี้เสีย 22%
  • วัยสร้างครอบครัว อายุ 35-50 ปี ก่อหนี้มากสุดในสัดส่วน 62% 
  • ประเภทหนี้ส่วนใหญ่คือ หนี้เช่าซื้อรถ 23% , หนี้บัตรเครดิต 17%  รวมถึงมีหนี้บ้านด้วย
  • วัยเริ่มทำงาน อายุ 25-29 ปี จำนวน 4.6 ล้านคน ในจำนวนนี้กว่า 57% เริ่มเข้าสู่วงจรหนี้ 
  • ลูกหนี้อายุ 60-70 มีหนี้เสียสูงถึง 14% เกิดจากความสามารถหารายได้ที่ต่ำ สวนทางค่าใช้จ่ายสุขภาพที่เพิ่มขึ้นตามอายุ
ตัวชี้วัดว่าคนไทยมีกำลังซื้อดีหรือไม่ดีบางที “บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป” คือคำตอบที่ชัดเจน แม้กระนั่นแม้แต่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในตอนนี้ก็ยังมียอดขายลดลงเช่นกัน จากข้อมูลในปีที่ผ่านมายอดขายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมีอัตราเติบโต 1.36% แม้จะเพิ่มแต่ก็ต่ำกว่าตัวเลขที่ควรจะเป็นตัวเลขปกติควรอยู่ที่ 3-5% หรือเท่ากับการบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของคนไทยเฉลี่ยอยู่ที่ 53 หน่วยต่อคนต่อปี
 
จะเห็นได้ว่าปี 2568 นี้การทำธุรกิจส่วนใหญ่ต้องอิงไปตามกระแส ที่บางทีมาแรงแค่วูบเดียวก็หายไป ถ้าจำกันได้ ตอนที่ “บรรทัดทอง” มาแรง คนแห่ไปเปิดร้านเพราะหวังสร้างยอดขาย แต่ทำไปทำมา หลายร้านในบรรทัดทองก็ส่อแววจะไปไม่รอด อันเนื่องมาจากค่าเช่าที่สูงขึ้นทุกปี สวนทางกับต้นทุนวัตถุดิบที่มาก รวมถึงกำลังซื้อของคนส่วนใหญ่ที่ลดลง เรียกว่าต้นทุนเพิ่มแต่ขายได้น้อยลง ก็เป็นเหตุผลให้อยู่ไม่ได้แม้จะเป็นย่านที่ชื่อว่าทำเลทองก็ตามที
 
กับคำถามที่ว่าสถานการณ์มันเป็นแบบนี้ จะทำมาหากินกันยังไง จะขายอะไรเพื่อให้รอด? 
 
ในมุมของชาวบ้านธรรมดา ผู้ที่ไม่ได้มีงบลงทุนเยอะแยะมากมาย แน่นอนว่ากลุ่มนี้ต้องโฟกัสไปที่สินค้าจำเป็นต้องใช้
 
1.อาหาร / เครื่องดื่ม
 

แต่ก็ใช่ว่าร้านอาหาร หรือ เครื่องดื่มจะขายดีทุกร้าน มันขึ้นอยู่กับวิธีบริหารจัดการ ไอเดียด้านการตลาดเป็นสำคัญ มีหลายคนที่ลาออกจากงานและหวังว่าจะสร้างรายได้จากธุรกิจนี้แต่ก็เจ๊งไม่เป็นท่า ในขณะเดียวกันบางคนก็เอาตัวรอดได้ แต่ก็ต้องเหนื่อยในการพัฒนาธุรกิจตัวเองให้ก้าวตามเทรนด์ลูกค้าและยุคสมัย หรือจะให้ง่ายขึ้นหน่อยก็เลือกลงทุนในระบบ
 
แฟรนไชส์ที่อย่างน้อยก็ไม่จำเป็นต้องสร้างแบรนด์เอง มีระบบบริหารจัดการให้ ก็มีหลายแฟรนไชส์ที่น่าสนใจเช่น ไจแอ้นลูกชิ้นปลาระเบิด , ฮิปสเตอร์สเต็ก , ชีสซี่ฟรายสแน็ค , เดรี่ชา , โอจังชานมไข่มุก , ฟินิกซ์ชา เป็นต้น
 
2.สินค้ามือสองเสื้อผ้า / รองเท้า
 

ในยุคที่คนมีรายได้น้อยการจับจ่ายต้องเน้นที่ความคุ้มค่า สินค้าไม่จำเป็นต้องแพงแต่ขอให้น่าสนใจ เราจะเห็นสินค้ามือสองในช่วงนี้ขายดีไม่ว่าจะเสื้อผ้า รองเท้า ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับไอเดียในการขาย ทำเลในการเปิดร้าน บางคนขายในช่องทางออนไลน์ร่วมด้วย รายได้จากธุรกิจนี้จะมากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับคุณภาพสินค้าและการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป็นสำคัญด้วย
 
3.ธุรกิจด้านสุขภาพ
 

จากปัญหาเรื่องการแพร่ระบาดของโรคต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทำให้คนไทยหันมาสนใจเรื่องประกันสุขภาพกันมากขึ้นข้อมูลตัวเลขจากปี 2567 ธุรกิจประกันชีวิตเติบโตกว่า 2-4 % เบี้ยประกันรวมในปีที่ผ่านมาก็สูงกว่า 6.3 แสนล้านบาท ไม่นับรวมที่เรื่องค่ารักษาพยาบาลในปัจจุบันมีราคาสูงมาก การประกันความเสี่ยงด้วยการซื้อประกันสุขภาพเป็นเรื่องที่คนสนใจและคาดว่าในปี 2568 จะยิ่งมีมูลค่ามากขึ้น การเป็นตัวแทนประกันชีวิตจึงเป็นอีกหนึ่งการสร้างรายได้ที่น่าสนใจแต่ก็ขึ้นอยู่กับความขยันและตั้งใจทำจริงด้วย
 
อย่างไรก็ดีไม่ว่าจะมองมุมไหนการทำธุรกิจในปี 2568 ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย มี 5 เคล็ดลับ ที่ธุรกิจยุคใหม่ควรปรับตัวเพื่ออยู่รอดในตลาดระยะยาวได้แก่
  1. อัพเดทเทรนด์ใหม่ ๆ ตามกระแสให้ทันอยู่เสมอ
  2. มี Service mind ที่ดี เน้นการบริการด้วยใจและรวดเร็ว
  3. สร้างจุดเด่นให้ธุรกิจของคุณแตกต่างจากคู่แข่ง
  4. รู้จัก Customer Insight เข้าใจลูกค้าให้มากขึ้น
  5. รักษาฐานลูกค้าเก่าไม่ให้ลด และเพิ่มจำนวนลูกค้าใหม่อยู่ตลอด
ก็ต้องมาตามกันต่อไปว่าในสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจที่ยังซบเซาแบบนี้ การอยู่รอดของผู้ประกอบการจะเป็นอย่างไรต่อไป หรือในปีนี้อาจมีจุดพลิกผันตอนไหนที่ทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นจนมีผลต่อการทำธุรกิจที่ดีขึ้นจนผู้ประกอบการลืมตาอ้าปากได้มากขึ้น

ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
606
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
499
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
475
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
419
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
406
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
405
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด