บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
1.5K
3 นาที
1 พฤศจิกายน 2567
สงครามร้านสะดวกซื้อ 6 แบรนด์ ในมือ 5 เจ้าสัวไทย
 

เชื่อหรือไม่ว่าธุรกิจร้านสะดวกซื้อในเมืองไทยแข่งขันกันดุเดือดมาก คาดว่ามูลค่าตลาดจะพุ่งสูงถึง 6.38 แสนล้านบาทในปี 2568 เติบโตเพิ่มขึ้นจากปี 2567 ที่คาดว่ามูลค่าตลาดจะเติบโตอยู่ที่ 6.05 แสนล้านบาท
 
ต้องยอมรับว่าสมรภูมิรบในธุรกิจ “ร้านสะดวกซื้อ-มินิมาร์ท” เริ่มทวีดีกรี มีการแข่งขันร้อนแรงและมีอัตราการเติบโตของแต่ละแบรนด์มากขึ้นทุกๆ ปี โดยสมรภูมิรบแห่งนี้จะเห็นผู้เล่นหลักๆ ในตลาดล้วนเป็นเครือข่ายธุรกิจใต้ปีกของ “เจ้าสัวเมืองไทย” 
 
ถามว่าความท้าทายของธุรกิจร้านสะดวกซื้อที่ต้องเผชิญคืออะไร ราคาสินค้าปรับตัวสูงขึ้นตามภาวะต้นทุน ค่าครองชีพสูงขึ้น กำลังซื้อของผู้บริโภคยังไม่ฟื้นตัว อาจส่งผลกระทบต่อยอดขายต่อบิล รวมถึงการแข่งขันและผูกขาดโดยผู้ประกอบการรายใหญ่เพียงไม่กี่รายในตลาด ส่งผลให้โอกาสในการเข้าสู่ตลาดของผู้เล่นรายใหม่มีความเป็นไปได้น้อยในอนาคต
 
มาดูส่วนแบ่งการตลาดร้านสะดวกซื้อในประเทศไทย (ทุกขนาด) เป็นของแบรนด์เจ้าสัวท่านใด 
  • 7-Eleven (70.8%)
  • Lotus's (10.6%)
  • Big C Mini (4.5%)
  • CJ MORE (4.2%)
  • อื่นๆ รวมกัน (9.9%)
การสร้างจุดยืนทางการตลาดที่แตกต่างกันของแต่ละแบรนด์ กลายเป็นกลยุทธ์สำคัญในการแข่งขันในตลาดของธุรกิจร้านสะดวกซื้อในเมืองไทย ยกตัวอย่าง 7-Eleven, Lotus´s, Big C mini และ CJ Express, CJ More ขายสินค้าและบริการที่เหมือนกัน มุ่งเน้นลูกค้าระบบสมาชิก กลุ่มลูกค้าเป้าหมายเดียวกัน มักจะเปิดร้านใกล้ๆ กัน 
 
ส่วน Tops Daily และ Lawson 108 เน้นขายสินค้าคุณภาพดี ทำเลส่วนใหญ่จะอยู่ตามแหล่งชุมชนคนมีฐานะขึ้นมาหน่อย อย่างร้านสะดวกซื้อ Lawson 108 เปิดสาขาในศูนย์การค้าก็มีมาแล้ว 
 
1.7-Eleven
 

ก่อนอื่นมาดูสัดส่วนรายได้ในร้าน 7-Eleven แบ่งออกเป็นสินค้าอุปโภค 24% ที่เหลือ 76% เป็นสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม แต่ละสาขาของ 7-Eleven มียอดขายเฉลี่ยต่อวัน 86,656 บาท ยอดซื้อต่อบิล 85 บาท มีจำนวนลูกค้าเฉลี่ยต่อวัน 1,007 คน 
  • บริษัท ซีพีออลล์ จำกัด (มหาชน)
  • ตระกูล เจียรวนนท์
  • เปิดบริการครั้งแรก ปี 2532 (35 ปี)
  • จำนวน 14,545 สาขา
  • เวลาทำการ เปิด 24 ชั่วโมง
  • รายได้ปี 2566 ประมาณ 429,495 ล้านบาท
  • กำไร 15,403 ล้านบาท
  • ขายแฟรนไชส์
#รูปแบบที่ 1 
  • เงินลงทุน 4.8 แสนบาท
  • เงินประกัน 1 ล้านบาท
รวมแล้วต้องมีเงินให้กับทาง 7-Eleven ประมาณ 1.48 ล้านบาท อายุสัญญา 6 ปี
 
Store Business Partner เข้าไปเป็นผู้จัดการร้าน มีเงินเดือน 29,000 บาท ต้องบริหารค่าใช้จ่ายให้ได้ตามงบ ย้ำว่าค่าใช้จ่ายไม่ใช่ยอดขาย ค่าใช้จ่ายก็มี ค่าจ้างพนักงาน ค่าน้ำค่าไฟฟ้า ค่าโทรศัพท์หลัก และอื่นๆ 
 
ถ้าบริหารร้านได้ตามเป้างบค่าใช้จ่าย จะมีปันผลแบ่งยอดกำไรจากการขายให้ 20-30% ในส่วนที่มียอดขายเกินเป้า

#รูปแบบที่ 2 
  • เงินลงทุน 1.73 ล้านบาท
  • เงินประกัน 9 แสนบาท
รวมแล้วต้องมีเงินให้กับทาง 7-Eleven = 2.63 ล้านบาท อายุสัญญา 10 ปี
 
ผู้ซื้อแฟรนไชส์จะได้ส่วนแบ่งจากกำไร 54% (ยังไม่ได้หักค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าจ้างพนักงาน และอื่นๆ ในร้าน)
 
การเป็น Store Business Partner ทั้ง 2 รูปแบบ ผู้ลงทุนไม่ได้เสียค่าใช้จ่ายในการซื้อสินค้า วัสดุอุปกรณ์ และการก่อสร้างออกแบบตกแต่งร้าน ทางซีพีออลล์เป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด รวมถึงค่าเช่า ภาษีป้าย ภาษีที่ดิน และอื่นๆ
 
2.Lotus´s 
  • บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน)
  • ตระกูล เจียรวนนท์
  • เปิดบริการครั้งแรก ปี 2536 (31 ปี)
  • จำนวน 1,595 สาขา
  • เปิดให้บริการ 06.00 -23.00 น.
  • รายได้ปี 2566 ประมาณ 250,000 ล้านบาท
  • กำไร 7,470 ล้านบาท
  • ไม่ขายแฟรนไชส์
3.Big C mini
 
  • บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน)
  • ตระกูล สิริวัฒนภักดี
  • เปิดบริการครั้งแรก ปี 2551 (16 ปี)
  • จำนวน 1,434 สาขา
  • เปิดบริการ 24 ชั่วโมง
  • รายได้ปี 2566 ประมาณ 168,029 ล้านบาท
  • กำไร 4,794 ล้านบาท
  • ไม่ขายแฟรนไชส์
4.CJ Express 

  • บริษัท ซี.เจ. เอ็กซ์เพรส กรุ๊ป จำกัด
  • ตระกูล เสถียรธรรมะ
  • เปิดบริการครั้งแรก ปี 2548 (19 ปี)
  • จำนวน 1,000 สาขา
  • เปิดบริการ 06.00 -23.00 น.
  • รายได้ปี 2566 ประมาณ 44,000 ล้านบาท
  • กำไร 2,600 ล้านบาท
  • ไม่ขายแฟรนไชส์
5.Tops Daily
 
  • บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด มินิมาร์เก็ต จำกัด
  • ตระกูล จิราธิวัฒน์
  • เปิดบริการครั้งแรก ปี 2535 (32 ปี)
  • จำนวน 515 สาขา
  • เปิดบริการส่วนใหญ่ 24 ชั่วโมง
  • รายได้ปี 2566 ประมาณ 9,771 ล้านบาท
  • กำไร 248 ล้านบาท
  • ขายแฟรนไชส์
FC ประเภทที่ 1
 
ผู้รับสิทธิ์มีกรรมสิทธิ์หรือสิทธิ์ครอบครองที่ดิน/อาคาร ขนาดมากกว่า 200 ตร.ม. เป็นระยะเวลามากกว่า 9 ปี สนใจที่จะนำพื้นที่ดังกล่าวเปิดร้าน ท็อปส์ เดลี่
  • มีเงินทุนค่าก่อสร้างและอุปกรณ์ ประมาณ 4.60 ล้านบาท (ขึ้นอยู่กับขนาดพื้นที่)
  • ส่วนแบ่ง 70 % จากกำไรขั้นต้น ยิ่งขายมากยิ่งเติบโต
  • การันตรีรายได้ 150,000 บาท ต่อเดือน 1 ปีแรกของสัญญา
FC ประเภทที่ 2

ผู้รับสิทธิ์ไม่มีกรรมสิทธิ์ หรือสิทธิครอบครองที่ดิน/อาคาร แต่สนใจที่จะเข้าสวมสิทธิบริหารร้านค้า ท็อปส์ เดลี่ ที่เปิดอยู่เดิม
  • มีเงินทุน 1.07 ล้านบาท
  • ส่วนแบ่ง 40 % จากกำไรขั้นต้น ยิ่งขายมากยิ่งเติบโต
  • การันตรีรายได้ 60,000 บาท ต่อเดือน 1 ปีแรกของสัญญา 
6.Lawson 108
 

ภาพจาก https://www.facebook.com/LAWSON108/
  • บริษัท สห ลอว์สัน จำกัด
  • ตระกูล โชควัฒนา
  • เปิดบริการครั้งแรก ปี 2556 (11 ปี)
  • จำนวน 198 สาขา
  • เปิดบริการ 06.00 -23.00 น.
  • รายได้ปี 2566 ประมาณ 2,805 ล้านบาท
  • กำไร 8.7 ล้านบาท
  • ไม่ขายแฟรนไชส์
ร้านสะดวกซื้อแต่ละแบรนด์ มีลักษณะ มีข้อแตกต่างกันอย่างไร? 

1. 7-Eleven
 
  • ลักษณะ: ร้านสะดวกซื้อ 24 ชั่วโมง
  • สินค้า: อาหารสำเร็จรูป, ขนมขบเคี้ยว, เครื่องดื่ม, ของใช้ประจำวัน
  • บริการ: เติมเงิน, จ่ายบิลต่างๆ, รับส่งพัสดุ, เดลิเวอรี่, สะสมแสตมป์, สแกนจ่าย 
  • กลุ่มเป้าหมาย: ประชาชนทั่วไป 
2. Lotus's
 
  • ลักษณะ: ร้านสะดวกซื้อใกล้บ้าน 
  • สินค้าที่มี: สินค้าอุปโภคบริโภค, อาหารสด, ของใช้ประจำวัน
  • บริการ: โปรโมชั่นพิเศษ, สะสมแต้ม, บริการจัดส่งสินค้า
  • กลุ่มเป้าหมาย: ประชาชนทั่วไป
3. Big C Mini
 
  • ลักษณะ: ร้านสะดวกซื้อใกล้ชุมชน
  • สินค้า: สินค้าอุปโภคบริโภค, อาหารสำเร็จรูป, ของใช้ประจำวัน
  • บริการ: โปรโมชั่น ส่วนลด สะสมแต้ม 
  • กลุ่มเป้าหมาย: ประชาชาชนทั่วไป 
4. CJ Express
 
  • ลักษณะ: ร้านสะดวกซื้อค้าส่ง-ค้าปลีก 
  • สินค้า: อาหารสำเร็จรูป, สินค้าอุปโภคบริโภค, เครื่องสำอาง, ของใช้ประจำวัน
  • บริการ: จัดโปรโมชั่น ส่วนลดพิเศษ สะสมแต้ม ขายส่ง-ขายปลีก 
  • กลุ่มเป้าหมาย: ประชาชนทั่วไป พ่อค้าแม่ค้า
5. Tops Daily
 

ภาพจาก https://topsdaily.tops.co.th
  • ลักษณะ: ร้านสะดวกซื้อใกล้ชุมชน 
  • สินค้า: สินค้าเกรดพรีเมียม, อาหารสด, อาหารแห้ง, ข้าวกล่อง, ของใช้ในบ้าน 
  • บริการ: โปรโมชั่น เดลิเวอรี่ เติมเงิน เงินสด บัตรเครดิต บัตรเดบิต 
  • กลุ่มเป้าหมาย: ประชาชาชนทั่วไป ผู้ที่มองหาสินค้าคุณภาพ
6. Lawson 108
 

ภาพจาก https://www.facebook.com/LAWSON108/
 
  • ลักษณะ: ร้านสะดวกซื้อพรีเมี่ยมสไตล์ญี่ปุ่น
  • สินค้า: อาหารญี่ปุ่น, ขนม, เครื่องดื่ม, ของใช้ทั่วไป
  • บริการ: เดลิเวอรี่ สะสมแต้ม โปรโมชั่น 
  • กลุ่มเป้าหมาย: ประชาชนทั่วไป และคนชื่นชอบอาหารญี่ปุ่น
สรุป
  • 7-Eleven และ CJ Express เน้นความสะดวก รวดเร็ว เน้นบริการลูกค้าระบบสมาชิก 
  • Lotus's และ Big C Mini สินค้าและบริการคล้ายๆ กัน 
  • Lawson 108 และ Tops Daily มุ่งเน้นสินค้าคุณภาพดี  
 ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
สร้างรายได้จาก กระเบื้องยางSPC วัสดุปูพื้นยอดนิย..
547
หมดยุคทอง อพาร์ตเมนต์-หอพัก จากเสือนอนกิน สู่แมว..
520
ถอดรหัส Santa Fe Steak รีแบรนด์แล้วยังเหนื่อย?
487
ประกาศเซ้ง! แบรนด์แฟรนไชส์จีนหมดแรง แซงไทยไม่ไหว
468
รวมเทคนิค “ดิ้นสู้” วิกฤติร้านอาหารปี 2568 ทำยัง..
436
สงครามเย็น จักรวาลชานมไข่มุก ใครจะอยู่ใครจะไป
425
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด