บทความทั้งหมด    บทความแฟรนไชส์    โอกาสทางธุรกิจ    แฟรนไชส์ต่างประเทศ
2.2K
3 นาที
21 มกราคม 2564
10 อันดับแฟรนไชส์อเมริกาที่แข็งแกร่งสุดๆ ยุคโควิด-19 (2021) 
 

เว็บไซต์ Entrepreneur.com ได้ทำการจัดอันดับธุรกิจแฟรนไชส์ในอเมริกาจาก 500 แบรนด์มาเป็นเวลา 42 ปีมาแล้ว โดยพิจารณาจากค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ การลงทุน ค่าสิทธิ ขนาด อัตราการเติบโต รวมถึงการได้รับความนิยมและตอบโจทย์ผู้บริโภคชาวอเมริกันในช่วงการระบาดโควิด-19 โดยมีแบรนด์แฟรนไชส์ใหม่ๆ ก้าวขึ้นมามาอย่างเหลือเชื่อ 
 
วันนี้ www.ThaiFranchiseCenter.com จะนำเสนอ 10 อันดับธุรกิจแฟรนไชส์อเมริกาที่แข็งแกร่งที่สุดในปี 2021 จาก 500 แบรนด์แฟรนไชส์ในสหรัฐอเมริกา มาดูกันว่ามีแบรนด์แฟรนไชส์ใดบ้างติด 10 อันดับแรกในยุคการระบาดโควิด-19 
 
1.Taco Bell 
 
ภาพจาก bit.ly/3p5x8Xp

Taco Bell แฟรนไชส์ฟาสต์ฟู้ดที่ถูกจัดอันดับแฟรนไชส์ 500 ขึ้นจากอันดับ 2 มาเป็นอันดับที่ 1 ในปี 2021 บริษัทเริ่มต้นทำแฟรนไชส์ในปี 2507 มีจำนวนสาขามากกว่า 7,136 แห่ง ค่าใช้จ่ายในการลงทุนแฟรนไชส์เริ่มต้น 525,500 – 2.96 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยทศวรรษที่ผ่านมา Taco Bell ได้รับการจัดอันดับที่ 45 ของ Franchise 500 แต่ในปี 2021 เป็นอันดับ 1 เนื่องจากตอบโจทย์ผู้บริโภคชาวอเมริกันในช่วงโควิด-19 ที่ต้องการความสะดวกสบาย รวดเร็ว อิ่มท้อง
 
2.Dunkin' 
 
ภาพจาก bit.ly/35WPwug

ปี 2021 Dunkin’ ถูกจัดอันดับแฟรนไชส์ที่แข็งแกร่งจากแฟรนไชส์ 500 มาเป็นอันดับ 2 จากที่ปี 2020 อยู่อันดับ 1 เริ่มต้นทำแฟรนไชส์ในปี 1955 มีจำนวนสาขาทั้งหมด 12,957 แห่งทั่วโลก ค่าใช้จ่ายในการซื้อแฟรนไชส์เริ่มต้น 395,500 – 1.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ Dunkin’ เป็นแฟรนไชส์ที่มีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังจาตัดคำว่า “โดนัท” ออก เพื่อไม่จำกัดว่าจะขายโดนัทอย่างเดียว สามารถขายสินค้าได้หลากหลายภายในร้าน จึงทำให้รายได้และยอดขายเติบโต
 
3.The UPS Store 
 
ภาพจาก bit.ly/2Nj8WCR

เป็นแฟรนไชส์ให้บริการไปรษณีย์ ธุรกิจ การพิมพ์ และบริการด้านการสื่อสาร ก่อตั้งขึ้นและขยายธุรกิจสู่ระบบแฟรนไชส์ในปี 1980 ในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา และแคนาดา ถือเป็นธุรกิจให้บริการที่ได้รับความนิยมของธุรกิจขนาดเล็ก ปี 2021 ถูกจัดอันดับที่ 3 จากแฟรนไชส์ 500 เดิมปี 2020 อยู่อันดับ 5 มีจำนวนสาขาทั้งหมด 5,166 แห่ง ค่าใช้จ่ายในการลงทุนแฟรนไชส์เริ่มต้น 138,400 ดอลลาร์สหรัฐ – 470,000 ดอลลาร์สหรัฐ โดยได้รับความนิยมจากการส่งพัสดุ การซื้อออนไลน์ 
 
4.Popeyes Louisiana Kitchen
 
ภาพจาก bit.ly/39Qondt

Popeyes Louisiana Kitchen นั้นได้ก่อตั้งขึ้นในปี 1972 ในนิวออร์ลีนส์ รัฐลุยเซียนา ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา และมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ เมืองไมอามี่ รัฐฟลอริด้า ของสหรัฐอเมริกา ดินแดนแห่งการผสมผสานวัฒนธรรมและเครื่องเทศรสจัด โดยเขาจะขายผลิตภัณฑ์ไก่ทอดที่กรอบนุ่ม เต็มไปด้วยรสชาติของไก่ทอดเต็มๆ คำ ซึ่งกิจการของ Popeyes ดูเหมือนจะไปได้ด้วยดีกว่า KFC ซะอีก ซึ่งคุณสามารถสั่งไก่รสชาติแบบเผ็ดหรือแบบดั้งเดิมก็ได้

อีกทั้งเมนู chicken sandwich ที่ได้นำออกมาวางจำหน่าย ก็ได้สร้างกระแสตอบรับการันตีในความอร่อยนี้ได้เป็นอย่างดี ค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์โดยเฉลี่ย : 50,000 เหรียญสหรัฐ ค่าใช้จ่ายในการลงทุนโดยเฉลี่ย : 1,452,150 เหรียญสหรัฐ ค่าสิทธิ Royalty fee : 5.00% ค่าโฆษณา Advertising fee : 5.42%
 
5.Culver's 
 
ภาพจาก bit.ly/3iELdsE

แฟรนไชส์ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดขายเบอร์เกอร์ รวมถึงคัสตาร์ด ไอศกรีม ที่ได้รับความนิยมในสหรัฐอมริกา ด้วยรสชาติอร่อย ก่อตั้งในปี 1984 หลังจากนั้นในปี 1988 ก็ขยายธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์ ปัจจุบันมีจำนวน 680 สาขาในอเมริกา โดยในปี 2017 สามารถทำรายได้กว่า 1.43 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ก้าวขึ้นมาติดอันดับ 5 จากแบรนด์แฟรนไชส์ 500 ในปี 2021 ค่าใช้จ่ายในการลงทุนแฟรนไชส์เริ่มต้น 1.97 ล้านดอลลาร์สหรัฐ – 4.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
 
6.Kumon Math & Reading Centers 
 
ภาพจาก bit.ly/2MaYBZ6

Kumon Math & Reading Centers แฟรนไชส์กวดวิชาคุมอง ก่อตั้งโดยอาจารย์คณิตศาสตร์ระดับมัธยม Toru Kumon ในปี 1954 และเริ่มต้นทำแฟรนไชส์ในปี 1958 ได้รับการจัดอันดับแฟรนไชส์ที่แข็งแกร่งและได้รับความนิยมจากผู้บริโภคชาวอเมริกันมาเป็นอันดับที่ 6 ปี 2021 จากแบรนด์แฟรนไชส์ 500 เนื่องจากการะบาดโควิด-19 ทำให้นักเรียนต้องเรียนออนไลน์จากที่บ้าน  สำหรับการลงทุนเริ่มแรก : $ 73,373 ถึง $ 154,825 ค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์เริ่มแรก : $ 1,000 จำนวนสาขาใหม่ : 397 แห่ง (1.5 เปอร์เซ็นต์) 
 
7.Jersey Mike’s Subs

ภาพจาก bit.ly/3bX7FvC

อีกหนึ่งแฟรนไชส์แซนด์วิชที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ด้วยจำนวนสาขาเพิ่มขึ้นนับแต่ก่อตั้ง โดยก่อตั้งขึ้นในปี 1956 และเปิดขาย ธุรกิจแฟรนไชส์ในปี 1987 ถูกจัดอันดับมาเป็นที่ 8 ของแฟรนไชส์ 500 ปัจจุบันมีจำนวนสาขาแฟรนไชส์ในสหรัฐฯ 1,592 แห่ง บริษัทแม่บริหารเองมากกว่า 58 สาขา โดยตั้งเป้าหมายขยายสาขาให้ถึง 2,000 สาขาภายในปี 2020 ถือเป็นครั้งที่ 3 ของ Jersey Mike’s Subs ติดอันดับ 1 ใน 10 อันดับจากแฟรนไชส์ 500 ของสหรัฐอเมริกา ค่าใช้จ่ายในการลงทุนแฟรนไชส์เริ่มต้น 237,400 ดอลลาร์สหรัฐ – 766,970 ดอลลาร์สหรัฐ
 
8.Planet Fitness 
 
ภาพจาก bit.ly/39LpkUo

Planet Fitness แฟรนไชส์ฟิตเนสถูกจัดมาเป็นอันดับที่ 8 จากแฟรนไชส์ 500 เริ่มต้นทำแฟรนไชส์ในปี 2003 มีจำนวนสาขาทั้งหมด 1,859 แห่ง ค่าใช้ในการลงทุนแฟรนไชส์เริ่มต้น 1.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ – 4.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รูปแบบการให้บริการลูกค้า Planet Fitness คิดค่าสมาชิกพื้นฐานเพียง 10 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ 80 เปอร์เซ็นต์ของชาวอเมริกันที่ไม่มีสมาชิกสถานที่ออกกำลังกาย จนถึงขณะนี้กลยุทธ์ดังกล่าวได้ผลเนื่องจากสมาชิกของ Planet Fitness เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาจาก 7 ล้านคนเป็น 14 ล้านคน
 
9.7-Eleven 
 
ภาพจาก bit.ly/38ZhiYN

เป็นแบรนด์ร้านสะดวกซื้อที่ดำเนินธุรกิจมายาวนานกว่า 57 ปี ปัจจุบันมีจำนวนสาขามากกว่า 67,000 แห่งทั่วโลก แต่ในสหรัฐอเมริกา 7-Eleven ได้เผชิญกับคู่แข่งค้าปลีกมากมายไม่ว่าจะเป็น AmPm รวมไปถึง Circle K ที่มีสาขาอยู่มากมาย แต่ 7-Eleven ในสหรัฐอเมริกายังมีรายได้และการเติบโตที่แข็งแกร่ง ได้รับความนิยมเนื่องจากเป็นร้านสะดวกซื้อตอบโจทย์ผู้บริโภคในยุคโควิด-19 จึงได้รับการจัดอยู่อันดับที่ 9 จากแฟรนไชส์ 500 ปี 2021 
 
สำหรับในเอเชียนั้น 7-Eleven ประสบความสำเร็จอย่างมาก ญี่ปุ่นมีจำนวนมากที่สุดกว่า 20,033 สาขา ขณะที่ไทยมี 10,300 สาขา โดยทางซีพี ออลล์ วางแผนขยายสาขา 700 สาขาทุกปี และตั้งเป้ามีสาขาครบ 13,000 ในปี 2564
 
10.ServPro 
 
ภาพจาก bit.ly/3ixNc1G

Servpro เป็นบริษัทแฟรนไชส์เกี่ยวกับการทำความสะอาด ซ่อมแซม กู้ภัย ดับเพลิงไฟไหม้ เป็น แฟรนไชส์ อันดับต้นของผู้ประกอบการ Franchise 500 ในปี 2563 บริษัทมีความเชี่ยวชาญในการรักษาดูแลเกี่ยวกับภัยพิบัติให้กับลูกค้าในเชิงพาณิชย์และที่อยู่อาศัย ในกรณีเกิดไฟไหม้ทรัพย์สิน จนได้รับความเสียหายจากไฟไหม้หรือน้ำท่วม การลงทุนเริ่มแรก $ 160,075 ถึง $ 213,950 ค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์เริ่มแรก: $ 50,000 จำนวนสาขาใหม่ในปี 2562: 28 แห่ง (+1.7 เปอร์เซ็นต์)
 
ทั้งหมดเป็น 10 แบรนด์แฟรนไชส์ในสหรัฐอเมริกาที่ได้รับความนิยม มีความแข็งแกร่ง และตอบโจทย์ผู้บริโภคชาวอเมริกันมากที่สุดในช่วงการระบาดโควิด-19 มาตั้งแต่ปี 2020 ซึ่งหลายคนอาจแปลกใจที่ไม่มีชื่อของแฟรนไชส์ “แม็คโดนัลด์” “เคเอฟซี” และ “พิซซ่า ฮัท” อาจเป็นเพราะแฟรนไชส์เหล่านี้ได้รับผลกระทบในด้านยอดขายและการเติบโตในช่วงที่ผ่านมา 
 
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
 
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
 
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ www.thaifranchisecenter.com/document
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter
 
อ้างอิงข้อมูล
 
บทความแฟรนไชส์ยอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
6 แฟรนไชส์บริการ! สร้างรายได้ 24 ชม.
913
ลงทุนตามเทรนด์ฮิต! 7 แฟรนไชส์ไอเดียเงินล้าน ปี ..
637
ตั้งแถวใหม่ 10 แฟรนไชส์ น่าลงทุน ครึ่งปีหลัง 68
577
แฟรนไชส์ชาจีน Good Me 古茗 ดังจนถูกก๊อป 600 สาขา
527
“ปิ้งย่าง” ธุรกิจหมื่นล้าน! มีแฟรนไชส์ไหน น่าลง..
508
Shake Shack จากรถเข็นขายฮอทดอกในนิวยอร์ก สู่แฟรน..
490
บทความแฟรนไชส์มาใหม่
บทความอื่นในหมวด