บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    การวางแผนธุรกิจ
3.4K
2 นาที
26 เมษายน 2561
9 ข้อเช็คลิส ไอเดียคุณเจ๋งพอทำเป็นธุรกิจได้มั้ย
 

ก่อนมีธุรกิจก็ต้องเริ่มจากมีไอเดีย ระหว่างความคิดกับไอเดียมีสิ่งที่ต่างกันนิดหน่อยคือความคิดเป็นสิ่งที่มีได้ทั่วไปคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยก็เรียกว่าความคิดแต่ไอเดียคือสิ่งที่ปิ๊งขึ้นมาและรู้สึกว่าจะเอาไปใช้ทำประโยชน์ได้ คำถามสำคัญคือแล้วไอเดียแบบไหนที่จะเอามาทำธุรกิจได้

วันนี้ www.ThaiFranchiseCenter.com มีวิธีเช็คไอเดียที่ผุดขึ้นจากความคิดของเราว่าเหมาะสมจะผลักดันให้เป็นธุรกิจได้มากน้อยแค่ไหน
 
1.เป็นไอเดียที่ขัดแย้งตัวตัวตนของเราหรือไม่?
 

ไอเดียต้องสัมพันธ์กับไลฟ์สไตล์ตัวเอง ซึ่งจะนำไปสู่ Passion ที่สอดคล้องกัน หากคุณมีไอเดียที่จะผลิตสินค้าเกี่ยวกับอาหาร ไลฟ์สไตล์ตัวเองก็ต้องเป็นคนชอบทำอาหารด้วย ไอเดียที่ขัดแย้งกับตัวเองไม่ควรนำมาเป็นไอเดียทำธุรกิจเพราะส่วนใหญ่เกิดจากเห็นคนอื่นทำแล้วอยากทำตาม ไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่เป้าหมายที่ตัวเองตั้งใจไว้ แนะนำว่าหาไอเดียใหม่ให้ตอบโจทย์ตัวเองได้ด้วย
 
2.เป็นไอเดียที่แก้ไขปัญหาคนส่วนใหญ่ได้
 

หากไอเดียเราตอบโจทย์ในการแก้ปัญหาคนส่วนใหญ่ได้ถือว่าเรามาถูกทางและน่าจะสร้างเป็นธุรกิจได้ เช่นในพื้นที่ที่เราอยู่ขาดแคลนเรื่องน้ำสะอาด เราเลยมีไอเดียอยากสร้างโรงกรองน้ำหรือทำธุรกิจน้ำดื่มอันนี้เรียกว่าแก้ปัญหาของคนส่วนใหญ่ที่พัฒนาให้เป็นธุรกิจได้ หรือในพื้นที่ที่มีสินค้าครบทุกอย่างแต่สินค้าบางอย่างไม่ตอบโจทย์เช่นบริการไม่ดี สินค้าไม่มีคุณภาพและเรามีไอเดียในการทำที่ดีกว่าได้ ก็เหมาะเอามาต่อยอดทำธุรกิจได้เช่นกัน
 
3.ไอเดียเข้าใจง่าย คนทั่วไปเข้าใจได้
 

เป็นมุมมองของการหาลูกค้าที่เป็นส่วนสำคัญของการทำธุรกิจ ดังคำกล่าวของ Wil Schroter ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ Fundable ที่พูดว่า “ไอเดียก็เป็นเพียงแนวคิดจนกว่าจะมีลูกค้าจ่ายเงินให้กับมันถึงจะเรียกว่าธุรกิจ”  นั้นหมายถึงว่าไอเดียต่อให้ดีสุดโต่งแต่หากล้ำเลิศจนคนทั่วไปไม่เข้าใจก็ยากที่จะสร้างลูกค้าได้ ดังนั้นไอเดียที่คิดได้ต้องอยู่บนหลักของความเป็นจริงที่สร้างขึ้นจริงในโลกของธุรกิจได้
 
4.มีวิธีการที่จะทำให้ไอเดียนั้นเป็นจริงได้
 

ทุกไอเดียจะสำเร็จก็ต้องลงมือทำ ไอเดียที่พัฒนาให้เป็นธุรกิจได้ต้องคิดกลับไปกลับมาว่ากว่าจะมาเป็นไอเดียที่จับต้องได้ต้องผ่านอะไรมาบ้างมีโอกาสทำให้เป็นจริงได้มากน้อยแค่ไหน นั้นหมายถึงองค์รวมของการทำธุรกิจเช่นพันธมิตร คู่ค้า แหล่งวัตถุดิบ สถานที่จำหน่าย  คู่แข่งทางการตลาด กลุ่มเป้าหมายของสินค้า เป็นต้น
 
5.เป็นไอเดียที่เอาไปต่อยอดได้
 

เราต้องดูว่าไอเดียของเรามันมาถึงที่สุดแล้วหรือยัง สินค้าหรือบริการที่ดีต้องมีการพัฒนาต่อยอดได้เพื่อให้ก้าวทันตามยุคสมัยได้ ของที่เคยดีในยุคสมัยหนึ่งไม่ได้การันตีว่าจะดีในอีกหลายสิบปีต่อมา เราต้องมองว่าไอเดียในวันนี้ของเราหากจะต่อยอดพอจะมีโอกาสเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน หากมองเห็นความเป็นไปได้ก็เริ่มทำเป็นธุรกิจได้เช่นกัน
 
6.ไอเดียดีพอที่ทำให้มีคนมาสนับสนุน
 

หลายธุรกิจในโลกนี้เกิดขึ้นจากไอเดียดีแล้วมีคนสนใจในความคิดจนนำมาสู่เงินลงทุนในลักษณะของการระดมทุน บางความคิดสามารถระดมทุนได้นับ 100 ล้าน คำถามคือทำไมคนจ่ายเงินล่วงหน้าเหล่านี้ถึงกล้าให้เงินแก่เจ้าของความคิดนำมาผลิตสินค้าก่อน

นั้นเพราะเขามั่นใจว่าสินค้าที่ผลิตนี้จะพลิกโลกได้จริง ปฏิวัติวงการธุรกิจได้จริง ในสายตาของนักลงทุนเรียกว่าการซื้ออนาคต แต่ทั้งหมดก็ต้องมาจากไอเดียที่สุดยอดและทำให้นักลงทุนเห็นคุณค่าได้
 
7.มีไอเดียสำรองในยามที่เกิดปัญหา


การนำไอเดียหลักมาเป็นต้นแบบทำธุรกิจเป็นสิ่งที่ดี แต่ทั้งนี้ในโลกของความจริงเมื่อลงมือทำย่อมมีปัญหามากกว่าตอนที่นั่งคิด ดังนั้นไอเดียที่จะเปลี่ยนเป็นธุรกิจที่ประสบความสำเร็จได้ต้องมีไอเดียสำรองควบคู่กันไป หากเรายังไม่สามารถคิดไอเดียสำรองไว้ในยามฉุกเฉินได้ จะเป็นการเสี่ยงในการลงทุนหากไอเดียหลักเกิดปัญหาจนไม่สามารถเดินหน้าไปต่อได้
 
8.ไอเดียที่ดีควรได้รับการทดสอบก่อนลงมือทำจริง
 

คล้ายกับเป็นการทดลองทางวิทยาศาสตร์ที่ต้องมีสมมุติฐานว่าสิ่งที่เราคิดจะเป็นจริงได้หรือไม่ ในระบบแฟรนไชส์ก็เช่นกันที่ความคิดก็ต้องมีร้านต้นแบบตัวเองก่อนที่จะเป็นแฟรนไชส์เพื่อให้รู้ว่าความคิดนี้ทำได้ ความคิดนี้ปฏิบัติได้จริง หากใครมีไอเดียดีๆ ลองทำเป็นสินค้าตัวอย่าง หรือธุรกิจตัวอย่างมาลองชิมลางกันสักหน่อย เพื่อดูว่าผลที่ตอบมาเป็นอย่างไรประเมินแบบเห็นภาพว่าจะสานต่อไอเดียได้หรือไม่
 
9.มั่นใจว่าไอเดียนั้นสมบูรณ์แบบ
 

อาจจะไม่ต้องถึงขนาด 100% เพราะไม่มีไอเดียไหนในโลกที่เพอร์เฟคเต็มร้อยแต่ไอเดียที่แปรเปลี่ยนมาเป็นธุรกิจได้ต้องผ่านการทดสอบ ทดลอง และได้รับการปรับแต่งให้เป็นไอเดียเพื่อทำธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ

วิธีการที่ดีคือลองเอาไอเดียดังกล่าวไปพูดคุยปรึกษากับคนที่มีประสบการณ์และไว้ใจได้ ซึ่งความคิดที่จะเป็นไอเดียธุรกิจจำเป็นต้องผ่านการตัดแต่งพอสมควรเหมือนที่ Angie Yasulitis ซีอีโอและหุ้นส่วนผู้จัดการของ The YaZo Group กล่าวว่า "ความคิดที่ดีที่สุดบางส่วนใช้เวลาปรับแต่งบางอย่างเพื่อเข้าสู่ตลาดได้”
 
ซึ่งบางครั้งการจะได้ไอเดียดีๆนั้นเป็นเรื่องยาก แต่สิ่งที่ยากกว่าคือการทำไอเดียนั้นให้เป็นจริงซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องง่ายและไม่ใช่เรื่องจะสำเร็จได้ในเวลาอันรวดเร็วธุรกิจที่ดีจึงต้องมีแผนสำรองไว้รองรับยามฉุกเฉิน การเตรียมแผนที่ดีเตรียมตัวที่ดีย่อมทำให้มีโอกาสประสบความสำเร็จจากไอเดียที่คิดไว้ได้
 

SMEs Tips
  1. เป็นไอเดียที่ขัดแย้งตัวตัวตนของเราหรือไม่?
  2. เป็นไอเดียที่แก้ไขปัญหาคนส่วนใหญ่ได้
  3. ไอเดียเข้าใจง่าย คนทั่วไปเข้าใจได้
  4. มีวิธีการที่จะทำให้ไอเดียนั้นเป็นจริงได้
  5. เป็นไอเดียที่เอาไปต่อยอดได้
  6. ไอเดียดีพอที่ทำให้มีคนมาสนับสนุน
  7. มีไอเดียสำรองในยามที่เกิดปัญหา
  8. ไอเดียที่ดีควรได้รับการทดสอบก่อนลงมือทำจริง
  9. มั่นใจว่าไอเดียนั้นสมบูรณ์แบบ
สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมาย ติดตามได้ที่  goo.gl/Io5k2S
 
ข้อมูลจาก goo.gl/m6q7pD
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
612
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
514
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
477
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
433
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
419
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
417
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด