บทความทั้งหมด    บทความแฟรนไชส์    โอกาสทางธุรกิจ    แฟรนไชส์ขายดี
6.0K
4 นาที
15 พฤษภาคม 2560
“คิด เอเบิ้ล” สถาบันสอนภาษาแบบบูรณาการ คิดเรียนก็ยอด คิดลงทุนก็เยี่ยม! 
 
 
กระแสของโลกยุคใหม่การแข่งขันมีสูงขึ้นทุกด้านแม้กระทั่งเรื่องการเรียนก็เช่นกัน ผู้ปกครองทุกคนมุ่งหวังให้บุตรหลานตัวเองมีความสามารถที่เพิ่มขึ้นเพื่อให้แข่งขันในสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นธุรกิจสถาบันการศึกษาจึงเปิดตัวกันเป็นจำนวนมากเพื่อขานรับความต้องการที่เกิดขึ้นนี้

แต่ทว่าในแง่ของความเป็นจริงสถาบันการเรียนการสอนสิ่งสำคัญที่ผู้เรียนหวังจะได้รับคือเนื้อหาที่สามารถพัฒนาตัวเองได้อย่างสูงสุดและ www.ThaiFranchiseCenter.com มีหนึ่งสถาบันน่าสนใจนั้นคือ “คิด เอเบิ้ล” ซึ่งเป็นสถาบันสอนภาษาที่ได้ชื่อว่าเน้นการสอนในเชิงบูรณาการและต้องการให้เด็กไทยทุกคนสามารถพูดอ่านเขียนภาษาอังกฤษและภาษาจีนได้อย่างคล่องแคล่ว

ด้วยแนวคิดและวิธีการบริหารจัดการต่างๆทำให้ “คิด เอเบิ้ล” กลายเป็นที่ยอมรับของผู้ปกครองจำนวนมากและคาดว่าจะเป็นอีกหนึ่งสถาบันที่พัฒนาทักษะการใช้ภาษาของเด็กไทยให้เก่งขึ้นได้อย่างผิดหูผิดตาเลยทีเดียว

“คิด เอเบิ้ล” สถาบันสอนภาษา..หัวใจคือเด็กไทยทุกคน
 
 
คุณจินตนา ดาเนียล หรือครูจี้ เจ้าของสถาบันสอนภาษา “คิด เอเบิ้ล” โปรโฟต์นั้นไม่ธรรมดาจบการศึกษาคณะอักษรศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยศิลปากร มีประสบการณ์ในต่างประเทศมากมายและสามารถสื่อสารได้หลายภาษา เช่น ไทย อังกฤษ ฝรั่งเศส เวียดนาม เป็นต้น จุดเริ่มต้นของธุรกิจนี้ ครูจี้บอกว่า ต้องย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 7 ปีก่อน ด้วยความตั้งใจที่อยากทำสถาบันสอนภาษา

เริ่มต้นธุรกิจแรกคือ Perfect Education ที่มีหลักของธุรกิจคือการพาเด็กไปเรียนรู้ภาษาที่ต่างประเทศและเน้นการสอนภาษาให้กลุ่มคนทำงานเป็นหลัก แต่ด้วยความที่ครูจี้รู้สึกว่าการสอนเด็กนั้นเป็นเรื่องที่น่าสนใจกว่า

เนื่องจากผลสัมฤทธิ์ระหว่างการสอนเด็กและผู้ใหญ่ปรากฏว่า เด็กเล็กจะพัฒนาได้ดีกว่า เนื่องจากเขาสามารถเปิดรับสิ่งใหม่ๆอยู่ตลอดเวลา ด้วยเหตุนี้จาก Perfect Education จึงรีแบรนด์มาเป็น Kidable และถ้านับเวลารวม 2 ธุรกิจเข้าด้วยกันก็นับว่าครูจี้อยู่ในธุรกิจสถาบันสอนภาษามายาวนานกว่า 8 ปีเลยทีเดียว โดยครูจี้กล่าวถึงความตั้งใจในการทำธุรกิจสถาบันสอนภาษานี้ว่า 
 
“ ปัญหาของการเรียนการสอนภาษาส่วนใหญ่คือเราให้แบบท่องจำ เรียนแบบนกแก้วนกขุนทอง เด็กไม่สามารถเอาวิชาเหล่านั้นมาใช้ได้จริง สังเกตว่าเรียนจบประถม หรือมัธยมก็ยังพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ สถาบันจึงเน้นการสอนที่เอากิจกรรมเข้ามาควบคู่กับเนื้อหาทำให้เด็กรู้สึกสนุกไปกับการเรียนภาษาไม่รู้สึกเหมือนเป็นเรื่องที่ต้องบังคับ และความรู้เหล่านี้ก็จะเริ่มซึมซับเข้าไปในตัวเด็กมากขึ้น เขาก็มีโอกาสพัฒนาตัวเองได้มากขึ้นด้วย”

ภาษาอังกฤษและภาษาจีนมีความสำคัญอย่างไร? 

 
ภาษาอังกฤษเรารู้กันดีว่าเป็นภาษาสากลที่ใช้กันแพร่หลายทั่วโลกดังนั้นใครก็ตามที่พูดภาษาอังกฤษได้ย่อมมีโอกาสทางอนาคตที่สดใสทั้งการเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้นหรือการทำงานที่พร้อมจะได้รับค่าตอบแทนมากขึ้น

แต่ทว่าความเป็นจริงของคนไทยไม่ว่าจะเกิดจากระบบการเรียนการสอนหรืออื่นใดก็ตามพบว่ามีคนไทยประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่สามารถใช้ภาษาอังกฤษซึ่งถ้าเทียบกับสิงคโปร์ที่มีคนใช้ภาษาอังกฤษได้กว่า 71 เปอร์เซ็นต์นั้นทำให้เรามองเห็นภาพความแตกต่างเรื่องการพัฒนาในด้านอื่นๆ อย่างชัดเจน
 
ส่วนภาษาจีนแม้ไม่ใช่ภาษาหลักในการสื่อสารทั่วโลกและเหตุผลที่ภาษาจีนถูกผลักดันให้เป็นภาษาสำคัญก็ไม่ใช่เพราะประชากรของจีนที่มีจำนวนมหาศาลและกระจายตัวอยู่ทุกที่แทบทุกประเทศทั่วโลก

แต่เหตุที่ภาษาจีนใครเรียนรู้ไว้ย่อมได้เปรียบเพราะการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศจีนที่โตขึ้นอย่างรวดเร็วโดยมีการคาดการณ์ว่าจีนจะแซงเป็นเจ้าเศรษฐกิจโลกแทนที่ประเทศยักษ์ใหญ่อย่างสหรัฐอเมริกาในปี 2020 ในแง่ของธุรกิจการเรียนรู้ภาษาของผู้ที่จะเข้ามามีบทบาทกับประชาคมโลกในอนาคตจึงเป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นอย่างยิ่ง 

ภาษาดีใช้งานได้จริง เมื่อเรียนจบคอร์สที่ “คิด เอเบิ้ล”

 
เป็นคำถามหลักของผู้ปกครองก่อนเริ่มเรียนว่าจบแล้วบุตรหลานจะเก่งภาษาขึ้นแค่ไหน ในเรื่องนี้ทุกสถาบันกล่าวได้เลยว่าไม่มีใครการันตีว่าจบแล้วจะพูดได้คล่องเหมือนเจ้าของภาษาทั้งหมดขึ้นอยู่กับความใส่ใจในการเรียนและผู้ปกครองที่ต้องเอาใจใส่เด็กด้วย

เพราะการที่เด็กมาเรียนเพียงแค่สัปดาห์ละไม่กี่ครั้งกับการที่เด็กอยู่กับผู้ปกครองมากกว่าการเสริมทักษะและทบทวนตามหลักสูตรของสถาบันจึงเป็นเรื่องจำเป็นมาก โดยสถาบัน คิด เอเบิ้ลเองมั่นใจในหลักสูตรการสอนที่ไม่ใช่แค่ติวเตอร์หรือเรียนแบบท่องจำแต่ที่เน้นการเรียนที่ต้องเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อให้เกิดการรับรู้ในด้านการใช้ภาษา
 
โดยสถาบันเปิดรับนักเรียนตั้งแต่อายุ 1-12 ปี โดยการเรียนจะแบ่งเป็นคอร์สตามช่วงอายุซึ่งในแต่ละคอร์สก็จะมีอยู่หลายเลเวลให้เหมาะสมกับพื้นฐานของผู้เรียนเป็นสำคัญ ซึ่งราคาคอร์สเรียนเฉลี่ยที่ 12,000 บาท ใช้เวลาเรียนสัปดาห์ละ 1 ครั้งหรือตามแต่ที่ผู้เรียนต้องการโดยแต่ละคอร์สจะนับเป็นชั่วโมงการสอนเช่นคอร์ส 20 ชม. หรือ 40 ชม. เป็นต้น

ทั้งนี้ครูจี้กล่าวว่า ที่สถาบัน “คิด เอเบิ้ล” นั้นได้เน้นการพัฒนาทักษะทุกด้านให้กับผู้เรียน นั้นคือวิธีการเรียนที่จะพัฒนาผู้เรียนให้มีประสิทธิภาพได้มากที่สุด นอกจากภาษาที่มีการพัฒนาเรื่องอื่นๆไม่ว่าจะเป็นจริยธรรม การเข้าสังคม การใช้ความคิด ก็เป็นสิ่งที่ผู้เรียนได้รับควบคู่ไปด้วย โดยปัจจุบันสถาบัน “คิด เอเบิ้ล” มีทั้งหมด 10 สาขาโดยแบ่งเป็น 8 สาขาโดยตรงส่วนอีก 2 แห่งคือเนื้อหาที่ถูกนำไปสอนในโรงเรียนด้วย

เอกลักษณ์สำคัญที่ทำให้คนพูดถึง “คิด เอเบิ้ล”
รูปแบบการสอน

 
“คิด เอเบิ้ล” ได้ใช้กิจกรรมเป็นสื่อการสอนสอดแทรกความรู้ให้กับผู้เรียนที่อายุตั้งแต่ 1-12 ปี โดยกิจกรรมที่หลากหลายนั้นเช่น ศิลปะ ดนตรี การเล่านิทาน การแสดง กีฬา  โดยในทุกกิจกรรมเด็กๆจะได้สื่อสารโต้ตอบกันระหว่างครูต่างชาติและเด็ก ด้วยความสนุกจากกิจกรรมทำให้เกิดกระบวนการเรียนรู้ที่เด็กสามารถซึมซับเอาความสามารถทางภาษาไปใช้ได้อย่างเป็นธรรมชาติ ต่างจากการเรียนแบบท่องจำที่ทำให้เด็กเกิดความเบื่อหน่ายและไม่ได้ประโยชน์จากการเรียนเท่าที่ควร
 
คอร์สเรียน

 
Play Group (1-3 ขวบ) เป็นการเตรียมความพร้อมให้ลูกน้อยก่อนเข้าสู่กสภาพแวดล้อมของภาษาโดยเน้นกิจกรรมเคลื่อนไหว โดยใช้หลัก "มิวสิกแอนด์มูฟเมนต์" หรือการเคลื่อนไหวตามเพลงประกอบ เป็นการพัฒนาทางด้านร่างกาย อารมณ์ และจิตใจ ในการเข้าสู่สภาพแวดล้อมการเรียนรู้สองภาษา
 
Kid Group (3-6 ขวบ) เรียนรู้ภาษาที่สองด้วยวิธีที่จะสร้างความสนุกสนานและการโต้ตอบระหว่างกัน ฝึกฝนทักษะภาษาใหม่ๆ ด้วยวิธีที่แตกต่าง เน้นวิธีสอนแบบสร้างความสนุกสนาน ให้เกิดการโต้ตอบระหว่างครูกับนักเรียน โดยนำหลักสูตร "มอนเตสซอรี" มาประยุกต์กับการเรียนภาษาซึ่งจะคำนึงถึงผู้เรียนเป็นหลัก 
 
 
Junior Group (6-12 ปี) พัฒนาทักษะภาษาทั้ง 4 ด้าน ด้วยวิธีเฉพาะของโรงเรียนที่ได้มาตรฐานตามหลักสากลจัดตารางเวลาสร้างพัฒนาการตามความเหมาะสมของผู้เรียน เน้นวิชาการมากขึ้น แต่เพื่อไม่ให้เด็กเกิดความเบื่อหน่ายก็ยังคงยึดหลักการเรียนแบบผ่านกิจกรรมเป็นหลักเช่นกัน
 
สถาบันสอนภาษาเส้นทางการลงทุนที่อนาคตยาวไกล

 
สถาบันพัฒนาทักษะทางภาษาคิดเอเบิ้ล มีรูปแบบการลงทุนหลายประเภท เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพธุรกิจ และการแข่งขันกันของแต่ละพื้นที่ เช่น
 
1.แฟรนไชส์ สถาบันพัฒนาทักษะทางภาษา “คิด เอเบิ้ล”
 
โดยใช้งบลงทุนเบื้องต้นประมาณ 1.5-2 ล้านบาท โดยผู้สนใจ ลงทุนจะได้ระบบ ระเบียบวิธีบริหารจัดการให้สามารถดำเนินธุรกิจภายใต้แบรนด์ของ “คิด เอเบิ้ล” ได้ทันที โดยมีระยะเวลา   คืนทุนประมาณ 2 ปี โดยมีผลกำไรของการทำธุรกิจอยู่ที่ประมาณ 1 ล้านบาท/ปี ขึ้นอยู่กับทำเลที่ตั้งและกลยุทธ์ทางการตลาดเป็นสำคัญด้วย 

2.ไลเซ่นส์ สถาบันพัฒนาทักษะทางภาษา (ให้ใช้ชื่อแบรนด์ของตนเองได้)
 
 
โดยใช้งบเบื้องต้นในการลงทุนประมาณ 1 ล้านบาทโดยการลงทุนในลักษณะนี้อาจเป็นสถาบันกวดวิชาที่มีพื้นฐานการสอนอยู่ก่อนแล้วสามารถนำหลักสูตรของ “คิด เอเบิ้ล” เข้าไปเพิ่มเติมความน่าสนใจในธุรกิจได้มากขึ้น โดยมีระยะเวลาในการคืนทุนอยู่ประมาณ 1-2 ปี โดยมีรายได้เฉลี่ยต่อปีประมาณ 500,000 บาท
 
3.ไลเซ่นส์ โรงเรียน แบบเหมาจ่าย และแบบรายเทอม
 
เป็นการลงทุนในหลักสูตรพิเศษเฉพาะโรงเรียน มีทั้งหลักสูตรสำหรับภาควิชาภาษาไทย และหลักสูตรวิชา IEP โดยทั้งสองหลักสูตรสามารถเลือกรูปแบบการชำระเงินได้ เป็นแบบเหมาจ่าย และแบบรายเทอมด้วย
 
“คิด เอเบิ้ล” ตั้งเป้าเป็นสถาบันสอนภาษาทั่วประเทศภายใน 5 ปี

 
ครูจี้กล่าวว่าในช่วง 3 ปีที่ผ่านมากับการทำระบบแฟรนไชส์ของ”คิด เอเบิ้ล” นั้นถือว่าเติบโตได้อย่างน่าพอใจ ทุกสาขามีคนสนใจเข้าเรียนกันจำนวนมากและผู้ปกครองเองก็มั่นใจในแบรนด์ของ “คิด เอเบิ้ล” เพิ่มมากขึ้น ส่วนในอนาคตนั้นก็ต้องมีการปรับตัวให้สอดคล้องกับสถานการณ์ความเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่นั่นคืออาจต้องมีการผสมผสานเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการสอนมากขึ้น

โดยตั้งเป้าว่าภายในปี 2561 “คิด เอเบิ้ล” จะเพิ่มจำนวนอีก 10 สาขา และภายใน 3 ปีต้องมี 30 สาขา ส่วนแผนระยะยาวคือ 5 ปีนั้น “คิด เอเบิ้ล” มองว่า “คิด เอเบิ้ล” ต้องเป็นสถาบันสอนภาษาของคนไทยที่มีการเปิดสอนในทั่วทุกจังหวัดเพื่อยกระดับการสื่อสารทางภาษาของเด็กไทยให้ก้าวหน้าได้มากขึ้นสมกับการพัฒนาของโลกยุคใหม่ที่ก้าวหน้าต่อเนื่องด้วยเช่นกัน
 
 
ในส่วนของผู้ที่คิดอยากมีธุรกิจของตัวเองนั้นและยังไม่ตัดสินใจว่าจะเลือกรูปแบบการลงทุนใดที่ให้ผลตอบแทนดีในระยะยาวแนะนำธุรกิจสถาบันสอนภาษาที่แนวโน้มเป็นที่ต้องการในตลาดสูงมากแต่สิ่งสำคัญคือผู้ที่จะลงทุนนั้นต้องมีใจรักในด้านการสอนและพร้อมจะเป็นผู้ให้

และอยากเห็นคนไทยมีพัฒนาการที่ดีในเรื่องการใช้ภาษา “คิด เอเบิ้ล” เป็นต้นแบบของสถาบันที่มุ่งเน้นในเรื่องนี้ชัดเจนและแนวทางนี้ก็จะยืนหยัดต่อไปและพร้อมจะพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นเพื่อให้ทั้งสถาบันและผู้ลงทุนทุกคนได้เติบโตและก้าวหน้าไปพร้อมๆกันด้วย

สนใจลงทุนแฟรนไชส์ ติดต่อ คุณจินตนา  ดาเนียล
โทร : 081-860-8385, 089-2011107
ที่อยู่  :  ตึกฟอร์จูน รัชดา ชั้นใต้ดิน โซนการศึกษา เขตดินแดง กทม.
E-Mail : Jintana.d@kidablethailand.com , managing.director.gotopec@gmail.com
LINE : kidablethailand
 
บทความแฟรนไชส์ยอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
6 แฟรนไชส์บริการ! สร้างรายได้ 24 ชม.
843
ลงทุนตามเทรนด์ฮิต! 7 แฟรนไชส์ไอเดียเงินล้าน ปี ..
588
ตั้งแถวใหม่ 10 แฟรนไชส์ น่าลงทุน ครึ่งปีหลัง 68
504
แฟรนไชส์ชาจีน Good Me 古茗 ดังจนถูกก๊อป 600 สาขา
481
“ปิ้งย่าง” ธุรกิจหมื่นล้าน! มีแฟรนไชส์ไหน น่าลง..
472
Shake Shack จากรถเข็นขายฮอทดอกในนิวยอร์ก สู่แฟรน..
447
บทความแฟรนไชส์มาใหม่
บทความอื่นในหมวด