บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเงิน บัญชี ภาษี การลงทุน    การลงทุน
5.5K
2 นาที
4 พฤศจิกายน 2559
4 วิธีการหาเงิน เลือกแบบไหนให้เหมาะกับตัวเอง


ปัจจุบันช่องทางการหาเงินจะมี 4 ด้าน หรือ 4 ทางเลือกด้วยกัน แต่ละแบบก็จะทำให้รวยหรือหาเงินได้มากน้อยต่างกัน

คนส่วนใหญ่ที่ไม่รวย เพราะเลือกช่องทางการหาเงินที่ไม่ทำให้รวย เช่น การเป็นลูกจ้าง เป็นพนักงานประจำ และอื่นๆ 
 
วันนี้ www.ThaiFranchiseCenter.com ขอนำเสนอ 4 แนวทางในการหาเงิน ซึ่งคุณสามารถนำไปเป็นแนวทางในการเลือกวิธีการหาเงินให้รวย แต่ละแนวทางจะมีข้อดี-ข้อเสีย อยู่ในตัวของมันเอง แล้วแต่ว่าคุณจะพิจารณาเลือกใช้แบบไหน 
 
1.การเป็นมนุษย์เงินเดือนหรือลูกจ้าง

 
 
คนส่วนใหญ่จะเป็นลูกจ้างหรือมนุษย์เงินเดือน เพราะเป็นงานที่หาเงินได้ง่ายกว่าการหาเงินแบบอื่น ขอเพียงมีความรู้ มีวุฒิการศึกษา ก็สามารถสมัครงานในตำแหน่งที่จบมาได้ การเป็นมนุษย์เงินเดือนนั้นยากจะรวยเหมือนการหาเงินแบบอื่นๆ

ข้อดีของการเป็นมนุษย์เงินเดือน
  • มีเงินเดือนที่มั่นคง มีเงินเข้าทุกเดือน
  • มีโบนัส
  • ทำงานสบาย รับผิดชอบเฉพาะบางเรื่องเท่านั้น 
  • ไม่เสี่ยง
ข้อเสียของการเป็นมนุษย์เงินเดือน
  • ต้องพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลาเพื่อให้ได้รับตำแหน่งงานที่ดี หรือเลื่อนขั้น หรือได้รับการจ้างงานต่อ
  • เงินเดือนสูงอาจจะถูกจ้างออก
2.การทำธุรกิจส่วนตัว


 
มนุษย์เงินเดือนบางคนอาจจะผันตัวเองมาเป็นเจ้าของธุรกิจ จากเดิมอาจจะเป็นพนักงานซ่อมคอมพิวเตอร์ เมื่อมีความชำนาญมีเงินทุนมากพอแล้ว ก็อาจจะมาเปิดร้านของตนเอง เป็นเจ้าของร้านเอง อาจจะมีลูกจ้าง โอกาสรวยก็ขึ้นอยู่กับลักษณะของธุรกิจ

กรณีของการเปิดร้านซ่อมคอมพิวเตอร์นั้น อาจจะไม่รวย เพราะความสามารถในการซ่อมต่อเครื่องอาจจะจำกัดตามกำลังและเวลา แต่งานบางอย่าง อย่างการขายอาหารขายสินค้า จะมีโอกาสทำเงินได้มากกว่า โดยเฉพาะการขายสินค้าส่งขายไปทั่วประเทศ  
 
ข้อดีของการเป็นเจ้าของธุรกิจของตัวเอง
  • มีอิสระในการทำงาน
  • มีร้านของตนเอง สามารถหยุดพักได้ตามต้องการ
ข้อเสียของการเป็นเจ้าของธุรกิจของตัวเอง
  • ต้องเอาใจใส่กับลูกค้า
  • หยุดทำ ปิดร้านบ่อยไม่ดี ลูกค้าหนีหมด
  • ต้องเปิดบริการทุกวัน ถึงจะมีรายได้ ต้องทำจึงจะได้เงิน 
  • สุขภาพสำคัญ หากป่วย ทำงานไม่ได้ก็จบกัน
  • สภาพเศรษฐกิจอาจจะทำให้ร้านมีปัญหาได้
3.การเป็นเจ้าของกิจการแฟรนไชส์ 

 
 
กรณีนี้รายรับก็จะเริ่มมากขึ้น จากการเปิดร้านขายอาหาร ก็อาจจะทำเป็นแฟรนไชน์ เพื่อให้คนอื่นมาร่วมลงทุนได้ ยิ่งมีสาขามากก็ยิ่งทำเงินได้มาก
 
ข้อดีของการเป็นเจ้าของกิจการ 
  • มีโอกาสทำเงินได้มาก หากมีหลายสาขา 
  • ไม่ต้องลงมือทำเอง เน้นการบริหาร จ้างคน
สำหรับใครที่สนใจลงทุนธุรกิจแฟรนไชส์ มีหลากหลายประเภทให้เลือก น่าลงทุน เข้าดูรายละเอียดข้อมูลธุรกิจแฟรนไชส์เพิ่มเติมได้ที่ https://goo.gl/aQF8y5

ข้อเสียของการเป็นเจ้าของกิจการ 
  • ความเสี่ยงสูง หากมีหลายสาขาลงทุนสูง หากไปไม่รอด ก็จะขาดทุนมาก
  • ต้องมีระบบการทำงานที่ดี กิจการถึงจะไปได้ดี
4.การเป็นนักลงทุน

 
การเป็นนักลงทุนอาจจะเป็นการเล่นหุ้น ซื้อตราสารหนี้ เป็นช่องทางทำเงินสำหรับคนมีทุนมาก มีเงินมาก ก็นำเงินไปเล่นหุ้น หลายคนร่ำรวยอย่างมากจากการเล่นหุ้น จากที่ลงทุนหลักแสน อาจจะมีเงินมากถึงหลักล้านในอนาคต หากราคาหุ้นปรับตัวสูงมากขึ้น

ข้อดีของการเป็นนักลงทุน
  • ใช้เงินทำงาน ไม่เหนื่อย ไม่ต้องมีพนักงาน ข้าวของเครื่องใช้ เน้นเอาเงินไปลงทุน
  • มีโอกาสทำกำไรได้มาก หากทุนมากและเลือกการลงทุนได้ดี เช่น ซื้อทอง จากบาทละ 20000 ในอีก 2 ปี ทองปรับราคาขึ้นไปบาทละ 25000 ก็จะทำกำไรได้มาก
ข้อเสียของการเป็นนักลงทุน
  • การเล่นหุ้นไม่ได้ทำให้ทุกคนรวย
  • ต้องมีเงินทุนมาก ถึงจะมีรายรับมาก โดยเฉพาะการเล่นหุ้น
  • ต้องศึกษาหาความรู้ค่อนข้างมาก เพื่อป้องกันความเสี่ยง
เห็นหรือยังว่า ช่องทางการหาเงินมีแบบไหนบ้าง เมื่อรู้จักช่องทางทำเงินทั้ง 4 ด้านแล้ว คุณสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับตัวเองได้ รู้จักผสมผสานกัน เช่น เป็นมนุษย์เงินเดือน อาจจะนำเงินบางส่วนไปซื้อหุ้นเก็บไว้ หรือลองทำธุรกิจเล็กๆ ของตัวเอง เมื่อไปได้ดีแล้ว ก็อาจจะลาออกมาทำเต็มตัว ก็จะทำให้มีรายรับมากขึ้น
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
610
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
510
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
476
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
431
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
414
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
412
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด