ในยุคที่รายได้ไม่พอรายจ่าย ทำงานประจำได้เงินแค่เดือนละครั้ง จะหาอาชีพไหนลงทุนก็ติดว่าไม่มีเงิน ไม่มีเวลา ไม่มีประสบการณ์ สุดท้ายก็ได้แต่คิดและไม่ทำให้เป็นจริงได้สักที หนึ่งในไอเดียน่าสนใจที่คิดว่าเป็นไปได้ คือการขาย “ปังปิ้ง” ที่มีคนทำได้จริงที่สำคัญคือขายดีมากและพัฒนาธุรกิจจากร้านเล็กๆสู่การเป็นแฟรนไชส์ที่ตอนนี้มีกว่า 100 สาขา

 

แฟรนไชส์ “โคตรปัง” เลือกลาออกจากงานเพื่อสร้างธุรกิจ
 

คุณวชิรญาณ์ แก้วเพ็ชร์ (พลอย) ผู้ก่อตั้งแบรนด์ “โคตรปัง” เล่าถึงจุดเริ่มต้นของธุรกิจนี้ว่า “ตัวเองก็เคยทำงานประจำเป็นสาวโรงงาน” แต่รายได้ไม่พอรายจ่าย คิดเสมอว่าจะทำยังไงที่จะมีรายได้เพิ่ม สุดท้ายตัดสินใจ “ขายปังปิ้ง” เหตุผลที่เลือกปังปิ้ง เพราะตัวเองชอบทานและมองว่าเป็นสินค้าขายง่าย ใครๆ ก็ทานได้ ที่สำคัญคือไม่ต้องลงทุนสูง น่าจะเหมาะกับการเริ่มต้นแบบคนที่ไม่มีเงินทุน

 

ในเรื่องของสูตรก็ศึกษาจาก Youtube หรือศึกษาจากสินค้าที่มีในตลาดว่าเขาทำแบบไหน เขาทำอย่างไร หลังจากลองผิดลองถูกได้ระยะหนึ่งตัดสินใจเปิดร้านทันที ใช้งบลงทุนหลักพันบาทในการซื้ออุปกรณ์และวัตถุดิบ ใช้ทำเลหน้าร้านสะดวกซื้อเป็นจุดขายเริ่มต้น ทีแรกก็ขายไม่ดีเท่าไหร่

 

ซึ่งคุณพลอยก็เข้าใจดีว่าเพราะเราเป็นแบรนด์ใหม่ คนยังไม่รู้จัก แต่ก็ไม่ท้อ คิดหาวิธีว่าจะทำยังไงเพิ่มคนรู้จักให้มากขึ้น ในตอนนั้นกระแส TikTok มาแรงจึงได้ทำคลิปโปรโมท ปรากฏว่าได้ผลดีเกินคาดลูกค้าเพิ่มขึ้นมาก เมื่อมีลูกค้าเพิ่มมากขึ้นและมองว่าเป็นธุรกิจที่รายได้ดีกว่าทำงานประจำจึงตัดสินใจลาออกเพื่อมาทำธุรกิจ “โคตรปัง” เต็มตัว

 

ร้านโคตรปังเริ่มต้นประมาณปี 2565 มาถึงตอนนี้ก็กว่า 3 ปี และไม่ใช่แค่ร้านเล็กๆ อีกต่อไปเพราะคุณพลอยได้พัฒนาธุรกิจเข้าสู่ระบบแฟรนไชส์ เพื่อสร้างอาชีพให้กับคนที่อยากมีรายได้ โมเดลการลงทุนก็เริ่มต้นแค่ 1,899 บาท (ชุดทดลองขาย) โดยจะได้อุปกรณ์เปิดร้าน + ขนมปัง + วัตถุดิบ
 

 
หรือถ้าใครต้องการได้ป้ายร้าน อาจเลือกโมเดลลงทุนที่สูงขึ้นราคาตั้งแต่ 7,900 – 19,000 บาท ก็จะได้รูปแบบร้านที่ใหญ่ขึ้น มีโอกาสขายได้มากขึ้น ปัจจุบันโคตรปังมีสาขาแฟรนไชส์อยู่กว่า 100 สาขา ทั้งในลพบุรีและจังหวัดใกล้เคียง ซึ่งทุกสาขาก็สามารถสร้างยอดขายที่ดี ผู้สนใจลงทุนมีโอกาสคืนทุนไว และไม่มีค่ารายเดือน รายปี ไม่มีหักเปอร์เซ็นต์จากยอดขาย

 

รายได้ 30,000 – 40,000 / เดือน โอกาสคืนทุนไว
 

คุณพลอยเล่าว่าร้านโคตรปัง หลังจากที่เริ่มมีลูกค้าประจำ ยอดขายในวันธรรมดาประมาณ 2,000 บาท ถ้าเป็นเสาร์-อาทิตย์ที่คนเยอะอาจขายได้ถึง 4,000 บาท รวมรายได้ในแต่ละเดือนประมาณ 30,000 – 40,000 บาท หักต้นทุนต่างๆก็เหลือกำไรที่ดีกว่าทำงานประจำ

แม้รายได้นี้จะไม่ได้ตายตัวแน่นอนก็ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยโดยเฉพาะทำเลในแต่ละที่สำคัญมาก  อย่างสาขาแฟรนไชส์ที่ Green Place ถ.จันทน์ ในกรุงเทพฯ คืออีกตัวอย่างสาขาที่ประสบความสำเร็จ ยอดขายสาขานี้ดีมาก เพราะอยู่ในทำเลเมืองที่คนพลุกพล่าน มีนักเรียน มีพนักงานจากออฟฟิศ และมีคนสัญจรในพื้นที่เยอะ รายได้จากการขายคุ้มค่าการลงทุนมาก
 

 

หลายคนอาจมองข้ามคิดว่าปังปิ้งไม่สร้างรายได้ที่ดี แต่ในความเป็นจริงนี่คืออีกหนึ่งการลงทุนที่สร้างรายได้ดีมาก เพราะอุปกรณ์ไม่เยอะ หลักๆก็เตาปิ้ง , โต๊ะ เก้าอี้ , กล่องใส่ขนมปัง , ถุง , มีดทาเนย , รวมๆ แล้วต้นทุนประมาณ 10,000 บาท 
 

ในส่วนของวัตถุดิบถ้าวิเคราะห์คร่าวๆ พบว่ามีขนมปังปอนด์ , เนย , มาการีน , น้ำตาล , นมข้น , ช็อกโกแลต , แยม , โอวัลติน ฯลฯ คิดต้นทุนต่อแผ่นประมาณ 3-8 บาท (ขึ้นกับท็อปปิ้ง) ยิ่งถ้าธุรกิจนี้อยู่ในทำเลที่ดี หรือค่าเช่าไม่แพงด้วยจะทำให้มีรายได้มากขึ้น ประมาณการรายได้จากธุรกิจในเบื้องต้น (ราคาขาย & กำไร)

 

ยังไม่หักแรงงาน (ถ้าทำเอง = ไม่ต้องจ่ายเพิ่ม, ถ้าจ้างพนักงาน 1 คน อาจเพิ่มต้นทุน 9,000–12,000 บาท/เดือน)
 

ภาพจาก https://citly.me/RW4OH

 

ตัวเลขนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าทำไม “ปังปิ้ง” ถึงน่าลงทุน ซึ่ง “แฟรนไชส์โคตรปัง” ของคุณพลอย ก็เป็นแฟรนไชส์ที่ให้คนสนใจเริ่มต้นได้ทันทีไม่ต้องลองผิดลองถูก ไม่ต้องสร้างแบรนด์เอง ต่อยอดสร้างรายได้ทันที มีวัตถุดิบ มีอุปกรณ์ให้พร้อมเปิดร้าน สำหรับคนที่อยากมีรายได้เพิ่ม อย่างแรกที่ต้องทำคือ “กล้าเปลี่ยนความคิด” พร้อมที่จะก้าวออกจาก Comfort zone ซึ่ง “โคตรปัง” ทำให้เห็นแล้วว่าทุกสิ่งเป็นไปได้ ขอแค่กล้าที่จะลงมือทำจริงๆ อิสรภาพทางการเงินเป็นเรื่องที่สร้างได้ ขอแค่ตั้งใจจริงและลงมือทำอย่างจริงจังเท่านั้นเอง