นายประวิทย์ จิตนราพงศ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แบล็คแคนยอน (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจร้านอาหารในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมายังคงอยู่ในภาวะทรงตัว จากปัจจัยลบรอบด้าน ทำให้ผู้บริโภคขาดความเชื่อมั่นและลดการจับจ่ายใช้สอย ซึ่งทำให้หลายธุรกิจมีรายได้ลดลง หนึ่งในนั้นคือธุรกิจค้าปลีก

 

ขณะที่ธุรกิจร้านอาหารแม้การบริโภคไม่ลดลงเหมือนกับธุรกิจค้าปลีก แต่จากจำนวนร้านอาหารใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้การแข่งขันในธุรกิจร้านอาหารมีความรุนแรงมากขึ้น โดยร้านอาหารใหม่ที่เปิดให้บริการมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด คือ ร้านอาหารญี่ปุ่นประเภทปิ้งย่าง และชาบู จากการแข่งขันที่รุนแรงประกอบกับเศรษฐกิจไม่ดี จึงทำให้มีผู้ประกอบการบางรายต้องปิดกิจการไป

 

“ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา มีแบรนด์ใหม่ๆ เกิดขึ้นจำนวนมาก ทั้งร้านอาหารญี่ปุ่น และปิ้งย่างเกาหลี แต่พอเจอกับสภาพเศรษฐกิจที่ไม่ดี ทำให้บางแบรนด์ต้องชะลอการขยายสาขา และบางรายก็ต้องปิดสาขาที่ไม่ทำเงินไป

ขณะที่บางรายต้องปิดกิจการไปเลย เพราะแบกรับภาระขาดทุนไม่ไหว ส่วนร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดฝั่งยุโรป ยังมีการขยายสาขาแต่ก็ไม่รวดเร็วเหมือนในอดีต ขณะเดียวกันก็มีการปรับรูปแบบร้านให้เล็กลงและเลือกทำเลมากขึ้น เพื่อความคล่องตัว” นายประวิทย์ กล่าว
 

 

สำหรับแผนการขยายสาขาในปีนี้ บริษัทได้เตรียมงบประมาณ 150 ล้านบาท แบ่งเป็นกว่า 60 ล้านบาท สำหรับการลงทุนซื้อที่ดิน เพื่อก่อสร้างเป็นคลังสินค้า โรงคั่วกาแฟที่ จ.ปทุมธานี ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างคาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดใช้งานได้ประมาณไตรมาส 3 นี้ เบื้องต้นคาดว่าโรงงานแห่งดังกล่าวจะสามารถรองรับการขยายธุรกิจได้ประมาณ 5 ปีนับจากวันเริ่มเปิดใช้งาน

 

ทั้งนี้ ในส่วนของงบที่เหลืออีกประมาณ 90 ล้านบาท จะใช้ไปกับการขยายสาขาเพิ่มขึ้นอีก 20 แห่ง บริษัทมีแผนที่จะขยายร้านทั้งในรูปแบบขนาดเล็กและขนาดกลาง ขณะเดียวกันก็จะเดินหน้าขยายสาขาในตลาดต่างประเทศควบคู่กันไป

โดยเมื่อปลายปีที่ผ่านมาบริษัทได้เปิดสาขาใหม่ภายในสถานีบริการน้ำมัน ปตท. เสียมราฐ ประเทศกัมพูชา ส่วนปีนี้มีแผนจะเปิดเพิ่มอีก 4-5 แห่ง แบ่งเป็นเมียนมา 2 แห่ง และลาว 2 แห่ง เป็นต้น จากปัจจุบันมีสาขาในต่างประเทศรวม 52 แห่ง

 

นายประวิทย์ กล่าวว่า ปัญหาเศรษฐกิจในประเทศที่ซบเซาขณะนี้ทำให้ธุรกิจไม่มีการเติบโต ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าวต่างจากตลาดต่างประเทศ เพราะยังมีโอกาสให้เข้าไปขยายธุรกิจได้ในอีกหลายประเทศ
 

โดยหลังจากบริษัทได้เข้าไปขยายร้านแบล็คแคนยอนในหลายประเทศไม่ว่าจะเป็นกัมพูชา เมียนมา หรือลาว พบว่าลูกค้าให้ผลการตอบรับเป็นอย่างดี ดังนั้นบริษัทจึงจะเดินหน้าขยายธุรกิจในต่างประเทศต่อไป โดยรูปแบบของการทำธุรกิจในต่างประเทศจะเน้นไปในรูปแบบแฟรนไชส์เป็นหลัก

 

อย่างไรก็ดี แม้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจจะอยู่ในภาวะซบเซา แต่บริษัทก็ยังคงวางเป้าหมายรายได้สิ้นปีนี้ด้วยอัตราการเติบโตที่ประมาณ 12% เนื่องจากบริษัทมีรายได้จากการขยายธุรกิจในต่างประเทศเข้ามาช่วยเสริมตลาดในประเทศ

ส่วนภาพรวมรายได้ปี 2558 ที่ผ่านมามีรายได้เติบโตที่ประมาณ 9% ต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ว่าจะเติบโตที่ 10% เพราะได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบเศรษฐกิจชะลอตัว

อ้างอิงจาก  posttoday.com