เพราะเครื่องนุ่มห่ม เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย คือปัจจัยสำคัญของมนุษย์ ธุรกิจด้านเสื้อผ้าจึงเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ มาอย่างยาวนานหลายสิบปี ซึ่งธุรกิจการบริการด้านเสื้อผ้าอย่าง ธุรกิจซักแห้ง-ซักอบรีด ก็เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกัน

ในปัจจุบันคงปฏิเสธไม่ได้ว่าหลายบ้านใช้บริการธุรกิจซักแห้ง-ซักอบรีด เนื่องจากปัญหาด้านเวลา ทำให้เราต้องฝากให้ร้านซักแห้ง-ซักอบรีด ช่วยดูแลการทำความสะอาดเสื้อผ้าของเรา ธุรกิจซักแห้ง-ซักอบรีด จึงเกิดขึ้นมากมาย และหนึ่งในนั้นก็คือ ธุรกิจซักแห้ง-ซักอบรีด ลอนดรี้แคร์ (Laundry Care)

วันนี้ทาง ThaiFranchiseCenter.com ได้มีโอกาสพูดคุณกับคุณสมรัก รุจิมณีพงศ์ เจ้าของLaundry Care ถึงที่มาที่ไปของธุรกิจซักแห้ง-ซักอบรีด ว่ามีเคล็ดลับอะไรที่ทำให้Laundry Care ครองใจลูกค้ามานานถึง 18 ปี Laundry Care

ธุรกิจเริ่มมาตั้งแต่ปี 2539

Laundry Care เริ่มมาตั้งแต่ปลายปี 2539 จนถึงปัจจุบันประมาณ 18 ปี “เหตุที่ต้องมาทำธุรกิจนี้ เพราะเดิมเราทำงานออฟฟิศเป็นงานประจำ แล้วรู้สึกว่าอยากทำธุรกิจที่เป็นของเราเอง จึงเกิดความคิดว่าธุรกิจเล็ก ๆ อะไรที่เราสามารถทำได้นาน ทำได้ทน โดยที่เราไม่คิดจะเลิกกลางคัน บวกกับช่วงนั้นเข้าปี 2540 ช่วงภาวะฟองสบู่แตก (ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ) พอดี ก็คิดว่าทำธุรกิจอะไรที่ไม่กระทบกับเศรษฐกิจช่วงนั้น

ซึ่งก็เกิดความคิดว่างานเกี่ยวกับรับบริการซักอบรีดเสื้อผ้าน่าสนใจ เพราะเสื้อผ้าเป็นสิ่งที่คนทั่วไปต้องใส่ทุกวัน และบางคนต้องทำงานนอกบ้าน ไม่มีเวลาดูแลเรื่องเสื้อผ้าด้วยตัวเอง จึงตัดสินใจที่จะทำธุรกิจซักแห้ง-ซักอบรีด”


เริ่มต้นแต่น้อย ค่อยเป็นค่อยไป

ช่วงเริ่มต้นทำธุรกิจไม่มีความรู้เฉพาะด้าน ซักแห้ง-ซักอบรีด มาก่อนเลย “เริ่มต้นเราเปิดร้าน เพราะชื่นชอบการรีดผ้าเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ซึ่งเราก็มีความคิดว่าการทำธุรกิจซักแห้ง-ซักอบรีด ทำได้โดยที่ไม่ต้องเสียเงินลงทุนมากนัก เราจึงคิดว่าทำธุรกิจซักอบรีดน่าจะดี ส่วนการบริการด้านซักแห้งคือเมื่อเราทำซักอบรีดไปได้ช่วงเวลาหนึ่ง ธุรกิจเริ่มเติบโตและมีลูกค้าเพิ่มมากขึ้น จึงคิดที่จะทำซักแห้งด้วยเพื่อขยายธุรกิจให้โตขึ้น เพื่อต่อยอดจากงานซักอบรีดที่เราทำอยู่แล้ว การทำซักแห้งก็เริ่มจากการหาข้อมูล ลงเรียน และหาความรู้จากงาน ประสบการณ์ที่เราทำทุก ๆ วัน”

ธุรกิจร้านซักแห้ง-ซักอบรีด ที่มาของคำว่า “สร้างอาชีพ ลงทุนต่ำ กำไรงาม คืนทุนไว”

เพราะงานซักแห้ง-ซักอบรีด ไม่ได้เป็นธุรกิจการขายสินค้าที่ต้องมีต้นทุนงานเยอะ ๆ งานซักแห้ง-ซักอบรีดเป็นธุรกิจการบริการ เพราะฉะนั้นส่วนใหญ่จะใช้แรงงาน ใช้แรงกาย มากกว่า “ส่วนใหญ่ต้นทุนก็จะเป็นด้านค่าแรงมากกว่า เพราะวัตถุดิบทางด้านเคมีที่ใช้ในงานซักแห้ง-ซักอบรีดมีต้นทุนไม่สูงมาก ถ้าถามว่าเครื่องจักร เครื่องมือการทำงาน ต้องใช้แบบที่ราคาสูงหรือไม่ แนะนำว่าเครื่องมือเช่น เครื่องซักผ้า ที่รีดผ้าไม่ต้องใช้ที่ราคาสูงมาก เลือกใช้ตามกำลังและเงินทุนของเรา ข้อดีอีกอย่างของธุรกิจซักแห้ง-ซักอบรีดคือ เครื่องมือต่าง ๆ ที่ใช้ในการทำงานเป็นการลงทุนแค่ครั้งเดียว สามารถใช้ต่อไปได้เป็นเวลานาน” คุณสมรักยังบอกอีกว่า ถ้าธุรกิจเพิ่งเริ่มลงทุนใหม่ ๆ ให้ทำเป็นขั้นตอนจากเล็ก ๆ ไปก่อน เมื่อธุรกิจเริ่มดีขึ้น เติบโตขึ้น เราค่อยมาคิดถึงการลงทุนในแง่อุตสาหกรรม การลงทุนด้านเครื่องมือที่พร้อมมากขึ้น เพราะเมื่อธุรกิจของคุณเริ่มเติบโตแล้วคุณก็เริ่มมีทุนในการขยายและต่อยอดธุรกิจของคุณอย่างแน่นอน

เป้าหมายในการขยายสาขาของLaundry Care

ตอนนี้Laundry Care มีทั้งหมด 2 สาขา คือสาขาสาธุประดิษฐ์ และสาขาสมาร์ทคอนโดพระราม2 “ทางLaundry Care ตั้งเป้าหมายไว้ว่า ปลายปีนี้จนถึงปีหน้าเราจะขยายให้ได้ประมาณ 10 สาขา ทั้งในรูปแบบแฟรนไชส์ และรูปแบบที่เราขยายเอง ซึ่งตอนนี้พื้นที่ที่เราตั้งเป้าหมายไว้ยังอยู่ในเขตกรุงเทพ เนื่องจากพื้นที่ในกรุงเทพมีคอนโด หอพัก และหมู่บ้านเพิ่มมากขึ้น แต่ถ้ามีโอกาสทางLaundry Care ก็มีโครงการที่จะขยายสาขาไปตามจังหวัดใหญ่ ๆ ด้วยเช่นกัน และเรายังมองถึงการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนที่ในอนาคตเราอาจต่อยอดธุรกิจข้ามไปในประเทศเพื่อนบ้านอีกด้วย เราถือว่าLaundry Care เพิ่งจะเริ่มเข้าเป็นระบบแฟรนไชส์จึงมองไว้ในหลาย ๆ รูปแบบ”



เหตุผลที่ต้องเลือกLaundry Care ให้ดูแลเสื้อผ้าของคุณ

“เพราะ Laundry Care ใส่ใจตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนถึงขั้นตอนสุดท้าย”

“ความพิเศษของLaundry Care คือทางเราใส่ใจตั้งแต่ขั้นตอนการผลิตน้ำยาซักผ้า ซึ่งทางร้านของเราจะผลิตน้ำยาใช้เองซึ่งครอบคุมเคมีทั้งหมดที่เราต้องใช้ในธุรกิจซักแห้ง-ซักอบรีด น้ำยาที่เราผลิตเองคือน้ำยาปรับผ้านุ่ม, น้ำยาอัดกลีบ, น้ำยาขจัดคราบไคลไขมัน และน้ำยาซักผ้า ซึ่งน้ำยาเหล่านี้ที่เราผลิตเองจะไม่มีส่วนผสมที่ทำร้ายผ้าแน่นอน เช่น ไม่มีส่วนผสมของโซดาไฟที่มักผสมอยู่ในผงซักฟอกที่ขายกันตามท้องตลาดซึ่งทำให้ผ้าเสื่อมสภาพเร็ว หรือว่าไม่มีส่วนผสมของแป้งข้น ๆ ที่มักผสมอยู่ในน้ำยาปรับผ้านุ่ม

เพราะฉะนั้นลูกค้าสามารถไว้ใจได้เลยว่าเราดูแลผ้าของคุณเป็นอย่างดีตั้งแต่ขั้นตอนแรกจริง ๆ” เมื่อลูกค้าใช้บริการที่Laundry Care คุณจะหายห่วง และไม่พบกับปัญหาเรื่องผ้าเสื่อมสภาพ สีของผ้าเก่าเร็ว เพราะในแง่ของการใส่ใจดูแล Laundry Care มั่นใจว่างานบริการต้องดูแลทุกขั้นตอน เพราะฉะนั้นคุณภาพที่ออกมาจะได้ตรงกับความต้องการของลูกค้าแน่นอน

ซึ่งการันตีได้จากลูกค้าส่วนใหญ่ที่มาใช้บริการจะยังคงเป็นลูกค้าของเราต่อไปเรื่อย ๆ ทางร้านมีลูกค้าประจำที่ใช้บริการมาตั้งแต่ร้านเปิดจนถึงปัจจุบัน ลูกค้าบางคนอยู่กับ Laundry Care มานานกว่า10 ปี 

อนาคตกับบริการที่เต็มรูปแบบของ Laundry Care

เมื่อธุรกิจเริ่มที่จะเข้าที่เข้าทาง Laundry Care จึงมองงานที่หลากหลายเพื่อต่อยอดธุรกิจ “แต่เดิมเราทำธุรกิจซักแห้ง-ซักอบรีดอยู่แล้ว เราก็มีมองงานเสริมเกี่ยวกับการย้อมผ้า การซ่อมแซมผ้า งานดูแลกระเป๋าไว้ด้วย และตอนนี้เราเข้าเป็นธุรกิจแฟรนไชส์แล้วสิ่งที่เราเพิ่มเข้าไปเป็นอันดับแรกเลยก็คือ งานซ่อมกระเป๋า รวมไปถึงการรับสปากระเป๋า ซึ่งงานกระเป๋าเราก็เคยทำมาบ้างแล้ว

เนื่องจากมีลูกค้าที่มาใช้บริการเริ่มถามว่ามีซักแห้งกระเป๋าด้วยหรือไม่ ที่ผ่านมาก็มีมาใช้บริการเรื่อย ๆ แต่เรายังไม่เน้นในเรื่องกระเป๋ามากนัก แต่ในปีนี้เรามีความคิดที่จะทำเป็นแฟรนไชส์ เราจึงเกิดไอเดียว่าเราจะทำงานกระเป๋าเป็นงานหลักด้วย พอเป็นธุรกิจแฟรนไชส์เราก็อยากทำให้เป็นครอบคลุมครบวงจรไม่ว่าจะดูแลทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า และเครื่องหนัง เพื่อเป็นการต่อยอดธุรกิจของเราเอง” ซึ่งถ้าใครสนใจซื้อแฟรนไชส์ของทาง Laundry Care มีโปรโมชั่นพิเศษ! ตั้งแต่วันนี้ – มกราคม 2559 แถมคอร์สอบรมหลักสูตร “สปากระเป๋า” โดยไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม


Laundry Care ดูแลแฟรนไชส์เหมือนคนในครอบครัว

เรื่องคุณภาพเมื่อทำธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์ต้องมีการควบคุมอย่างใกล้ชิดทุกสาขา “ทางLaundry Care คิดอยู่เหมือนกันว่าการขายแบรนด์จะทำอย่างไรไม่ให้แบรนด์ของเราเสีย สิ่งแรกที่เราทำได้คือการควบคุมการใช้ผลิตภัณฑ์ แฟรนไชส์ซีของเราจะต้องใช้ผลิตภัณฑ์จากทางแบรนด์ เพื่องานที่ออกมาจะได้มีคุณภาพที่เหมือนกัน แล้วแฟรนไชส์แต่ละสาขาต้องผ่านการอบรม ฝึกงานตามเวลาที่เรากำหนด

เพื่อให้เราทราบว่าสามารถทำงานได้อย่างมีคุณภาพหรือไม่ และเรายังวางแผนเรื่องการติดตามผล ตรวจเยี่ยมร้านในแต่ละสาขาอาจจะเดือนละครั้ง หรือถ้าหากมีปัญหาเราก็จะเปลี่ยนเป็นเดือนละสองครั้ง เพื่อจะได้รู้ว่าข้อบกพร่องของสาขามีอะไรบ้าง ยังทำอะไรไม่ได้บ้าง เพื่อแบรนด์ของเราจะได้ไม่มีปัญหา”

ใจรักในการบริการ คือคุณสมบัติแรกของแฟรนไชส์ซีที่เราต้องการ

อย่างที่บอกในข้างต้นว่าธุรกิจซักแห้ง-ซักอบรีด คือธุรกิจการบริการ ดังนั้นใจรักในการบริการคือคุณสมบัติแรกที่แฟรนไชส์ซีต้องมี “งานซักแห้ง-ซักอบรีด ไม่ถือว่าเป็นงานที่ยาก แต่ก็ไม่ใช่งานง่ายแบบที่หลายคนเข้าใจว่าเป็นงานผู้หญิงทำอย่างไรก็ได้

ดังนั้นเมื่อเข้ามาทำธุรกิจซักแห้ง-ซักอบรีด อย่างแรกเลยต้องมีคือ ใจในการรักการบริการ เมื่อมีปัญหาต้องใจเย็น ต้องสามารถทุ่มเทให้กับงาน หรือว่าให้ธุรกิจของเราได้ มีความอดทน เพื่อให้งานของเรายั่งยืน และที่สำคัญต้องรักความสะอาด นอกจากนั้นแฟรนไชส์ซียังต้องมีทำเลตั้งร้านที่ดี ถ้าทำเลดีก็ถือว่าได้กำไรไปกว่าครึ่งแล้ว สุดท้ายคือต้องมีความรู้ และเงินทุนในระดับหนึ่ง” 


ข้อมูลการลงทุน

1. การใช้สิทธิแฟรนไชส์เครื่องหมายการค้า Laundrycare 100,000 บาท ระยะเวลา 3 ปี การดำเนินงานทางการตลาดและให้คำปรึกษาทางด้านธุรกิจตลอดอายุสัญญา พร้อมอุปกรณ์ดำเนินการและระบบการจัดการเบื้องต้น รวมถึงการฝึกอบรมและฝึกงานจริงเกี่ยวกับการซักแห้ง-ซักอบรีด และยังไม่มีการเก็บค่าธรรมเนียมรายเดือน ทำให้คุ้มทุนเร็วขึ้น
2. เครื่องจักรและอุปกรณ์ครบวงจร และอุปกรณ์การตกแต่งร้าน เงินลงทุน 250,000 บาท ประกอบด้วย เครื่องซักผ้า, เครื่องอบผ้า, เตารีดไอน้ำแบบหม้อต้ม, โต๊ะดูดไอน้ำระบบสูญญากาศ, โต๊ะพับผ้า, น้ำยาเคมีภัณฑ์สำหรับใช้ในธุรกิจซักแห้ง-ซักอบรีด, เคาน์เตอร์รับงาน, ตู้เสื้อผ้า, กล่องไฟป้าย, สติกเกอร์โลโก้ร้าน
3. เงินประกันค่าสินค้า 30,000.-บาท (จะได้รับคืนเมื่อสิ้นสุดสัญญา)

คลิกชมข้อมูลธุรกิจแฟรนไชส์ ลอนดรี้แคร์ (Laundry Care) ธุรกิจซักแห้ง-ซักอบรีด อย่าง Laundry Care เป็นทางเลือกที่ดี และมั่นคงแน่นอน

สำหรับคนที่ตัดสินใจจะลงทุนด้านซักแห้ง ซักอบรีด เพราะชื่อเสียงของLaundry Care อยู่มายาวนานถึง 18 ปี ด้วยความรักและความมั่นใจของลูกค้า หากใครรักและสนใจธุรกิจด้านการบริการ ลงทุนกับLaundry Care ไม่ผิดหวังแน่นอน