บทความทั้งหมด    บทความแฟรนไชส์    โอกาสทางธุรกิจ    แฟรนไชส์ต่างประเทศ
266
6 นาที
23 ธันวาคม 2568
แฟรนไชส์กาแฟจีน Lucky Cup Coffee ภายใต้ Mixue บุกไทย จุดไฟสงครามราคา


ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การขยายพอร์ตธุรกิจของแบรนด์อาหารและเครื่องดื่มจากจีนเริ่มสะท้อนภาพเชิงโครงสร้างที่ชัดเจนมากขึ้น นั่นคือการแตกแบรนด์ใหม่จากธุรกิจหลัก เพื่อยึดครองตลาดแมสผ่านกลยุทธ์ต้นทุนและราคา
 
กรณีของ Ai-CHA แบรนด์เครื่องดื่มชาและไอศกรีมจากอินโดนีเซีย ต่อยอดไปสู่ตลาดอาหารฟาสต์ฟู้ดอย่างไก่ทอด Zhengda Chicken Steak และเครื่องดื่มกาแฟ Ai-KA Coffee & Tea เสิร์ฟด้วยวัตถุดิบคุณภาพ ราคาถูกสบายกะเป๋า ถือเป็นกรณีศึกษาสำคัญของการใช้ฐานซัพพลายเชนเดิม เพื่อขยายอาณาจักรไปสู่หมวดธุรกิจที่มีมูลค่าสูงและฐานลูกค้าวงกว้าง
 
ล่าสุด MIXUE Group กลุ่มธุรกิจเครื่องดื่มจากจีนที่มีเครือข่ายร้านค้าหลายหมื่นสาขาทั่วโลก กำลังเดินเกมในทิศทางเดียวกัน ด้วยการแตกไลน์ Lucky Cup Coffee แบรนด์กาแฟที่ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 2017 ภายใต้บริษัท Henan Lucky Cup Catering Management Co., Ltd. ซึ่งอยู่ในการบริหารโดยตรงของ MIXUE Group ที่มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมมากกว่า 20 ปี
 
การนำ Lucky Cup Coffee เข้าสู่ตลาดประเทศไทย จึงไม่ใช่เพียงการเพิ่มหมวดสินค้าใหม่ในเครือ แต่เป็นการยกระดับการแข่งขันในตลาดกาแฟสู่มิติของ “สงครามราคาและต้นทุน” อย่างเต็มรูปแบบ โดยอาศัยจุดแข็งของ MIXUE ทั้งด้านการควบคุมคุณภาพวัตถุดิบ ระบบโลจิสติกส์ การบริหารเครือข่ายแฟรนไชส์ และการตั้งราคาต่ำ เพื่อขยายฐานผู้บริโภคในวงกว้าง
 
เมื่อเปรียบเทียบกับกรณีของ Ai-CHA จะเห็นว่าโมเดลธุรกิจของแบรนด์จีนเหล่านี้ กำลังส่งสัญญาณเดียวกัน นั่นคือการบุกตลาดต่างประเทศโดยใช้แบรนด์หลักนำทัพ พอแข่งขันได้เปรียบจึงส่งแบรนด์รองเข้ามาเสริมทัพเพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งตลาด แม้จะมีคู่แข่งขันมากมายในตลาด แต่อาศัยอาวุธสำคัญคือ “ราคาต่ำ” โดยยอมแลกมาร์จิ้นต่อหน่วย เพื่อครองส่วนแบ่งตลาดในระยะยาว กลายเป็นแรงกดดันต่อผู้ประกอบการกาแฟและเครื่องดื่มรายเดิมในประเทศไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
 
ตลาดกาแฟจีนแยกขั้ว แบรนด์ราคาประหยัดพุ่งแรง พรีเมียมเริ่มแผ่ว
 

ภาพจาก www.luckycup.com

ตลาดกาแฟของจีนกำลังเผชิญการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างครั้งสำคัญ เมื่อวันที่ 24 พ.ย. 2025 แบรนด์กาแฟราคาประหยัด Lucky Cup ประกาศว่าจำนวนสาขาทั่วโลกทะลุ 10,000 แห่ง กลายเป็นหนึ่งในแบรนด์กาแฟสัญชาติจีนอีกรายที่ทำสถิตินี้ได้
 
โดยเป็นรองเพียงแบรนด์กาแฟ Cotti Coffee ที่เปิดสาขาแรกในฝูโจวในเดือนตุลาคม 2022 และขยายตัวอย่างรวดเร็วจนมีสาขาครบ 5,000 แห่งทั่วประเทศจีนภายในระยะเวลา 12 เดือน
 
ปัจจุบัน Cotti Coffee มีสาขากว่า 14,000 สาขาทั่วโลก เป็นรองแบรนด์กาแฟจากจีน Luckin Coffee ที่ตอนนี้มีกว่า 27,000 สาขาทั่วโลก สิ่งที่น่าสนใจของทั้ง 3 แบรนด์ คือ เน้นขยายสาขามากๆ ขายกาแฟราคาถูกกว่าคู่แข่งในตลาด
 
ความสำเร็จดังกล่าวสะท้อนภาพใหญ่ของอุตสาหกรรมอย่างชัดเจน กาแฟราคาย่อมเยากำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ตลาดกาแฟพรีเมียมเริ่มส่งสัญญาณชะลอตัว
 
จากข้อมูลติดตามเครือร้านกาแฟ 27 แบรนด์ในสจีน เดือนกันยายนมีการเปิดร้านใหม่ถึง 3,725 แห่ง เพิ่มขึ้น 103% จากปีก่อน
 
กาแฟราคาประหยัดบูมแรง
 

ภาพจาก www.luckycup.com

Lucky Cup ก่อตั้งในปี 2017 ภายใต้เครือ Mixue Group โดยชูจุดขาย “คุณภาพดี ราคาเข้าถึงได้” เครื่องดื่มส่วนใหญ่ขายราคาอยู่ที่ 6–8 หยวน (ประมาณ 30–40 บาท) ครอบคลุมทั้งเมนูคลาสสิก เมนูฮิต และเมนูใหม่ๆ

ภายในเวลาเพียง 10 เดือนของปี 2025 จำนวนสาขาของ Lucky Cup เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า ครอบคลุมกว่า 300 เมืองทั่วจีน ตั้งแต่เมืองชั้นนำไปจนถึงเมืองระดับรอง ทำให้กลายเป็นหนึ่งในแบรนด์กาแฟที่เติบโตเร็วที่สุดของปี 2025
 
ในเมืองฉงชิ่งเพียงแห่งเดียว Lucky Cup มีร้านที่เซ็นสัญญาแล้วถึง 90 สาขา เพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่าจากต้นปี ความรวดเร็วในการขยายตัวมาจากทั้งสินค้า ระบบปฏิบัติการที่มีประสิทธิภาพ และระบบซัพพลายเชนที่แข็งแกร่งภายใต้ Mixue Group
 
แฟรนไชส์กาแฟ Lucky Cup เป็นเพียงไม่กี่แบรนด์กาแฟจากจีนที่ควบคุมห่วงโซ่อุปทานได้ครบวงจร ตั้งแต่จัดหาวัตถุดิบ คั่วเมล็ดกาแฟเอง ไปจนถึงระบบโลจิสติกส์ โดยใช้ฐานการผลิต 5 แห่ง และคลังสินค้า 29 แห่ง ทำให้สามารถกระจายวัตถุดิบได้ภายใน 12 ชั่วโมง ช่วยลดต้นทุนและรักษาคุณภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ
 
เดือนกันยายน 2024 ระบบคลังสินค้าและโลจิสติกส์ของ Mixue Bingcheng สามารถจัดส่งสินค้าได้ภายใน 12 ชั่วโมง ครอบคลุม 90% ของอำเภอทั่วประเทศ ขณะที่ระบบขนส่งควบคุมอุณหภูมิครอบคลุมกว่า 97% ของร้านในประเทศ
 
ระบบห่วงโซ่อุปทานที่แข็งแกร่งของ Lucky Cup มาจากบริษัท D.CO International Food Co., Ltd. ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 2012 เป็นบริษัทย่อยที่ถือหุ้นทั้งหมดโดย MIXUE Co., Ltd.
 
บริษัทตั้งอยู่ที่เมืองเหวินเซียน มณฑลเหอหนาน เป็นองค์กรที่มีศักยภาพทางเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการวิจัยและพัฒนา การผลิต การจำหน่าย และระบบโลจิสติกส์ สำหรับผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มและอาหารแปรรูป
 
D.CO International ผลิตสินค้าในกลุ่มเครื่องดื่มผง เครื่องดื่มเข้มข้น นมปรุงแต่ง โจ๊กบรรจุกระป๋อง แยม และกาแฟ โดยมีสายการผลิตอัจฉริยะมากกว่า 60 สายการผลิต ครอบคลุมพื้นที่รวมกว่า 710,000 ตารางเมตร และมีกำลังการผลิตต่อปีสูงถึง 1.52 ล้านตัน สะท้อนถึงศักยภาพด้านคุณภาพ มาตรฐาน และประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ

กาแฟพรีเมียมเริ่มอิ่มตัว
 

ภาพจาก www.luckycup.com

ในทางตรงกันข้าม แบรนด์กาแฟระดับพรีเมียมในประเทศจีนกำลังเผชิญกับแรงกดดันอย่างรุนแรง ยกตัวอย่างกรณีของผลประกอบการปีงบประมาณ 2025 ของแบรนด์กาแฟยักษ์ใหญ่ของโลก Starbucks ระบุว่า รายได้ในจีนเติบโต 5% อยู่ที่ 3.105 พันล้านดอลลาร์ แต่ยอดขายต่อสาขาเดิมกลับลดลง 1% แม้จำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้น 4% แต่ค่าใช้จ่ายต่อบิลเฉลี่ยลดลงถึง 5%
 
เพื่อรับมือกับสถานการณ์ Starbucks จึงปรับลดราคาครั้งใหญ่ในจีนเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 20 ปี ตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน โดยลดราคาเครื่องดื่มบางกลุ่ม เช่น แฟรบปูชิโน ชาเขย่า และชาใส่นม เฉลี่ยแก้วละ 5 หยวน บางเมนูเหลือเพียง 23 หยวน
 
แบรนด์พรีเมียมอื่นๆ อย่าง Peet’s Coffee และ Manner ก็เริ่มปรับราคา หรือปิดสาขาที่ทำกำไรไม่ได้เช่นกัน ผู้บริโภคบางรายมองว่า ร้านกาแฟในจีนมีอยู่ทุกมุม ปัจจุบันมีขายแก้วละ 9.9 หยวน แล้วทำไมต้องจ่ายเกิน 30 หยวนด้วย
 
อะไรทำให้ตลาดแยกขั้ว?
 

ภาพจาก www.luckycup.com

ผู้เชี่ยวชาญในจีนมองว่า สาเหตุหลักมาจากพฤติกรรมการดื่มกาแฟของชาวจีนที่เปลี่ยนไป
 
รายงานจาก China Insights Consultancy ระบุว่า กาแฟไม่ได้จำกัดอยู่แค่กลุ่มพนักงานออฟฟิศในเมืองใหญ่ แต่กำลังขยายไปสู่คนรุ่นใหม่และผู้อยู่อาศัยในเมืองระดับรอง กาแฟจึงเปลี่ยนบทบาทจาก “สินค้าหรูเชิงสังคม” เป็น “เครื่องดื่มประจำวัน”
 
เมื่อความถี่ในการดื่มสูงขึ้น ผู้บริโภคจึงให้ความสำคัญกับ “ความคุ้มค่า” มากกว่าเดิม ทำให้ร้านกาแฟราคาสูงๆ เริ่มตอบโจทย์ผู้บริโภคได้น้อยลง และเปิดทางให้แบรนด์ราคาประหยัดที่คุณภาพดีครองตลาดหลัก
 
กลยุทธ์สินค้าเองก็มีผล แบรนด์ราคาย่อมเยาปรับตัวเร็วและตอบโจทย์รสนิยมของผู้บริโภคท้องถิ่นได้ดีกว่า ตัวอย่างเช่น “ลาเต้มะพร้าว” ของ Lucky Cup ที่ขายไปแล้วกว่า 100 ล้านแก้ว สร้างรายได้มากกว่า 1,000 ล้านหยวน
 
ด้วยโมเดลที่ผสานระหว่างเมนูฮิตระยะยาวกับเมนูตามฤดูกาล Lucky Cup จึงรักษาความสดใหม่ของแบรนด์ได้อย่างต่อเนื่อง
 
แนวโน้มตลาดกาแฟในจีน
 
นักวิเคราะห์มองว่า การแข่งขันในตลาดกาแฟของจีนจะทวีความรุนแรงขึ้น และจะค่อยๆ เปลี่ยนจากการแข่งเปิดสาขาหน้าร้าน ไปสู่การแข่งขันด้าน “ซัพพลายเชนหลังบ้าน” ท่ามกลางต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ความเหมือนกันของสินค้า และสงครามราคา จึงทำให้ความมั่นคงและประสิทธิภาพของซัพพลายเชน จะกลายเป็นปัจจัยชี้ขาดความอยู่รอดของแบรนด์กาแฟในจีนต่อไป
 
Lucky Cup เปิดสาขาต่างประเทศแห่งแรก ประเดิมมาเลเซีย
 

ภาพจาก www.luckycup.com

Lucky Cup แบรนด์กาแฟสัญชาติจีนในเครือ MIXUE เปิดสาขาต่างประเทศแห่งแรกอย่างเป็นทางการที่เมืองปูชง รัฐสลังงอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยได้รับกระแสตอบรับอย่างคึกคักตั้งแต่วันเปิดให้บริการเมื่อ 25 ส.ค. 2025
 
คลิปวิดีโอบนโซเชียลมีเดียเผยให้เห็นภาพลูกค้าต่อคิวยาวแน่นตลอดวัน ขณะที่พนักงานต้องเร่งให้บริการอย่างต่อเนื่อง จนมีลูกค้าแซวว่า “เครื่องชงกาแฟแทบมีควันออกมา” จากการทำงานหนัก โดยยอดขายในวันแรกเกือบแตะระดับ 2,000 แก้ว

ปรับโมเดลร้านรับพฤติกรรมผู้บริโภคท้องถิ่น
 
เพื่อให้สอดคล้องกับตลาดมาเลเซีย แฟรนไชส์กาแฟจีน Lucky Cup ได้ปรับรูปแบบร้านจากโมเดลขนาดเล็ก Grab-and-Go ที่ใช้ในจีน มาเป็นร้านที่มีพื้นที่กว้างมากขึ้น พร้อมที่นั่งรองรับลูกค้า สร้างบรรยากาศในลักษณะ Third Space สำหรับการพักผ่อนและพบปะสังสรรค์ของกลุ่มลูกค้า
 
เมนูมีให้เลือกประมาณ 30 รายการ ครอบคลุมทั้งเมนูยอดนิยมจากจีน อาทิ Coconut Latte, Matcha Lucky Ice, Affogato
 
ควบคู่กับเมนูที่พัฒนาขึ้นเฉพาะสำหรับตลาดท้องถิ่น เช่น มัทฉะเลมอน, มัทฉะสตรอว์เบอร์รีมะพร้าว, ชาเย็นสตรอว์เบอร์รี
 
ราคาจำหน่ายอยู่ที่ประมาณ 1.5–8 ริงกิตมาเลเซีย หรือราว 12–65 บาท ยังคงยึดแนวคิด “ราคาจับต้องได้” ซึ่งเป็นกลยุทธ์เดียวกับที่แฟรนไชส์ไอศกรีมและชา Mixue ใช้และประสบความสำเร็จในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
 
เตรียมเปิดเพิ่มอีก 4 สาขาในมาเลเซีย
 

ภาพจาก www.luckycup.com

ข้อมูลอย่างเป็นทางการระบุว่า Lucky Cup มีแผนเปิดเพิ่มอีก 4 สาขาในมาเลเซีย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับปรุงและตกแต่งร้าน โดยตั้งอยู่ใกล้มหาวิทยาลัย UTAR, ย่าน Kota Damansara และถนน Jalan Tun Perak โดยทั้ง 5 สาขาในมาเลเซียเป็นการดำเนินธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์ทั้งหมด
 
หนุนด้วยซัพพลายเชนของ Mixue
 
การขยายตลาดต่างประเทศของแฟรนไชส์กาแฟ Lucky Cup ได้รับแรงสนับสนุนสำคัญจากซัพพลายเชนและชื่อเสียงของแบรนด์ Mixue ซึ่งปัจจุบันได้ลงทุนสร้างระบบคลังสินค้าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีคลังที่บริษัทบริหารเอง 7 แห่ง ใช้พื้นที่รวมกว่า 69,000 ตารางเมตร ครอบคลุม 560 เมืองใน 4 ประเทศ
 
ขณะเดียวกัน เครือข่ายของร้าน Mixue ในมาเลเซียที่กระจายตัวอย่างหนาแน่น ยังช่วยสร้างการรับรู้และความคุ้นเคยให้กับผู้บริโภค และเป็นฐานกลุ่มลูกค้าที่แข็งแกร่งให้กับ Lucky Cup ในการรุกตลาดทั่วประเทศมาเลเซีย

ตลาดแข่งขันดุเดือด ราคาคืออาวุธหลัก
 
อย่างไรก็ตาม ตลาดกาแฟในมาเลเซียมีการแข่งขันรุนแรง แฟรนไชส์กาแฟ Luckin Coffee ใช้กลยุทธ์ราคาต่ำ เสนอแก้วแรกเพียง 2.99 ริงกิต และเมนูส่วนใหญ่อยู่ที่ 5–6 ริงกิต ส่วน Cotti Coffee ตั้งราคาประมาณ 5.9–8.9 ริงกิต
 
แบรนด์ท้องถิ่นอย่าง ZUS Coffee, Kopi Saigon และ Kee Nguyen แข่งขันด้วยโปรโมชันหนัก เช่น ซื้อ 1 แถม 1 และราคาพิเศษต่ำมาก
 
ขยายตลาดในไทย ก้าวสำคัญของ LUCKY CUP
 
ภาพจาก https://citly.me/0XTIg

ประเทศไทยนับเป็นหนึ่งในตลาดยุทธศาสตร์สำคัญของ LUCKY CUP ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อยู่ภายใต้การบริหารของบริษัท ลัคกี้คัพ คอฟฟี่ (ประเทศไทย) จำกัด
 
การจัดตั้งบริษัทในประเทศไทยสะท้อนถึงความตั้งใจของแบรนด์ในการดำเนินธุรกิจระยะยาว พร้อมวางรากฐานสำหรับการขยายเครือข่ายร้านกาแฟในตลาดที่มีการแข่งขันสูง แต่ยังมีศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
 
ปัจจุบันแฟรนไชส์กาแฟ LUCKY CUP ได้เปิดให้บริการในประเทศไทยแล้ว 8 สาขา เริ่มจากสาขาแรกมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ เปิดให้บริการในช่วงเดือนกันยายน 2025, สาขาหมู่บ้านบัวทอง จังหวัดนนทบุรี, สาขาศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวสต์เกต และข้อมูลล่าสุด LUCKY CUP อยู่ระหว่างการขยายสาขาในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง
 
โดยปัจจุบันมีแผนดำเนินงานรวม 8 สาขา ซึ่งในจำนวนนี้ 4 สาขาอยู่ระหว่างการปรับปรุงและเตรียมเปิดให้บริการ ครอบคลุมทั้งทำเลศูนย์การค้า แหล่งชุมชน และพื้นที่ใกล้สถาบันการศึกษา เพื่อเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคในหลากหลายไลฟ์สไตล์
 
จากจีนสู่เวทีโลก เดินเกมรุกตลาดอาเซียน
 

ภาพจาก www.luckycup.com

แม้ตลาดภายในประเทศจีนยังคงขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง แต่การรุกตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถือเป็นก้าวสำคัญของ LUCKY CUP ในการยกระดับแบรนด์สู่เวทีระดับภูมิภาคและระดับโลก
 
บริษัทระบุว่าจะยังคงพัฒนาโมเดลร้านค้าในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านการปรับโมเดลร้านให้เข้ากับผู้บริโภคท้องถิ่น การให้บริการเพื่อสร้างประสบการณ์ผู้บริโภค และการปรับเมนูสินค้าให้สอดคล้องกับพฤติกรรมการบริโภคของแต่ละประเทศ พร้อมเดินหน้าขยายฐานลูกค้าในตลาดที่มีอัตราการเติบโตของการบริโภคกาแฟสูง
 
เป้าหมายระยะยาวของ LUCKY CUP คือการผลักดันแบรนด์จากภาพลักษณ์ของ “กาแฟจากจีน” สู่การเป็น แบรนด์กาแฟระดับภูมิภาค ที่สามารถแข่งขันได้ในตลาดอาเซียน และต่อยอดสู่ตลาดนานาชาติในอนาคต
 
บททดสอบสำคัญในต่างแดน
 
ท่ามกลางสงครามราคาที่เข้มข้น คำถามสำคัญคือ Lucky Cup จะสามารถรักษาความได้เปรียบด้านราคา สร้างการจดจำแบรนด์ และยืนหยัดในตลาดมาเลเซียได้ในระยะยาวหรือไม่ ซึ่งยังต้องติดตามพัฒนาการต่อไป
 
LUCKY CUP เปิดรับพันธมิตรแฟรนไชส์ในประเทศไทย
 

ภาพจาก https://www.facebook.com/LUCKYCUP.THAILAND

ขณะนี้ LUCKY CUP เปิดรับผู้ร่วมธุรกิจแฟรนไชส์อย่างเป็นทางการในประเทศไทย

การสนับสนุนแบบครบวงจร
  • การคัดเลือกทำเลที่ตั้งร้าน เพื่อเพิ่มโอกาสด้านยอดขายและจำนวนลูกค้า
  • การออกแบบร้าน ภายใต้เอกลักษณ์สีแดง–ขาวของแบรนด์ สวยโดดเด่น เหมาะกับการทำตลาดออนไลน์
  • ระบบซัพพลายเชนที่มีเสถียรภาพ วัตถุดิบและเมล็ดกาแฟสดใหม่ ส่งตรงตามมาตรฐาน
  • การฝึกอบรมและการตลาด ครอบคลุมการบริหารร้าน การปฏิบัติงาน และกลยุทธ์ส่งเสริมการขาย
  • ได้รับการสนับสนุนจาก MIXUE Group ที่มีประสบการณ์ในธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มมายาวนาน
รายละเอียดและงบการลงทุนแฟรนไชส์ Lucky Cup
 
ค่าใช้จ่ายอ้างอิงตามมาตรฐานการดำเนินงานของ Lucky Cup ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ณ เดือนธันวาคม 2025
  1. ค่าออกแบบและปรับปรุงร้าน ประมาณ 2,500 – 5,000 บาท การประเมินทำเลที่ตั้งร้านอย่างรอบด้าน พร้อมการวิเคราะห์ความเป็นไปได้ในการลงทุน ซึ่งรวมถึงการคาดการณ์ยอดขาย การประเมินงบลงทุน และคำแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่เกี่ยวข้องกับทำเล
  2. ค่าวัตถุดิบเริ่มต้นและอุปกรณ์ขนาดเล็ก 340,000 บาท ครอบคลุมวัตถุดิบ บรรจุภัณฑ์ อุปกรณ์ขนาดเล็ก และวัสดุที่จำเป็นต่อการดำเนินงานภายในร้าน โดยบริษัทจะเป็นผู้จัดสรรและจัดส่งตามมาตรฐานเดียวกันทั่วทั้งระบบ
  3. ค่าเครื่องจักรและอุปกรณ์ 505,000 บาท เครื่องจักรและอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการดำเนินงานประจำวันของร้าน
  4. เงินประกันสัญญา 100,000 บาท เพื่อเป็นหลักประกันในการปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในสัญญาแฟรนไชส์ เมื่อสัญญาสิ้นสุดลงและไม่มีการต่ออายุ หากไม่มีการผิดสัญญาหรือยอดค้างชำระ บริษัทจะคืนเงินประกันเต็มจำนวนโดยไม่คิดดอกเบี้ย
  5. ค่าธรรมเนียมสิทธิ์เครื่องหมายการค้า (Trademark & Royalty Fees) 85,000 บาท บริษัทมอบสิทธิ์ให้ผู้ลงทุนใช้เครื่องหมายการค้า โลโก้ และองค์ความรู้ด้านการดำเนินงานของแบรนด์ “Lucky Coffee” เป็นระยะเวลา 3 ปี
ครอบคลุมค่าใช้จ่ายสำหรับการฝึกอบรมบุคลากรม, การให้คำปรึกษาด้านการดำเนินธุรกิจตลอดอายุสัญญา, การบริหารจัดการแฟรนไชส์, การจัดการระบบโลจิสติกส์, การตรวจสอบมาตรฐานร้าน, การสนับสนุนและอัปเดตระบบ และการตรวจเยี่ยมร้านตามรอบและการให้บริการเกี่ยวกัยการดำเนินธุรกิจในระยะไกลโดยผู้เชี่ยวชาญ
 
เงินลงทุนรวมประมาณ 1,032,500 – 1,035,000 บาท


ภาพจาก www.luckycup.com
คุณสมบัติและเงื่อนไขของผู้ร่วมธุรกิจแฟรนไชส์
1.คุณสมบัติของผู้สมัคร
  • ผู้สมัครต้องมีอายุระหว่าง 20–50 ปี
  • ต้องสามารถปฏิบัติงานและบริหารจัดการร้านแฟรนไชส์ได้ด้วยตนเองอย่างเต็มเวลา
  • มีแนวคิดและค่านิยมสอดคล้องกับวัฒนธรรมองค์กร นโยบาย และปรัชญาการดำเนินธุรกิจของบริษัท และยินยอมปฏิบัติตามมาตรฐานการดำเนินงานของบริษัทอย่างเคร่งครัด
  • ต้องเข้าร่วมการฝึกอบรม การอบรมพนักงาน และระบบบริหารจัดการต่าง ๆ ที่บริษัทกำหนด
  • มีงบประมาณสำหรับการลงทุนเปิดร้านแฟรนไชส์ ไม่น้อยกว่า 2,305,022 บาท
  • ไม่มีประวัติอาชญากรรม หรือประวัติการกระทำผิดกฎหมายใด ๆ
2.คุณสมบัติของสถานที่ประกอบการ
  1. สถานที่ตั้งร้านต้องมีพื้นที่ใช้งานไม่น้อยกว่า 35 ตารางเมตร ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผลการตรวจสอบและอนุมัติจากบริษัท
  2. ระบบไฟฟ้าภายในร้านต้องเป็น ไฟฟ้า 3 เฟส โดยใช้สายทองแดงมาตรฐานขนาด 16 ตารางมิลลิเมตร
    • กำลังไฟฟ้า 3 เฟสต้องมากกว่า 20 กิโลวัตต์ (kW)
    • กำลังไฟฟ้ารวมของร้านต้องไม่น้อยกว่า 30 กิโลวัตต์ (kW)
  3. ต้องมีระบบน้ำประปาและระบบระบายน้ำที่ได้มาตรฐาน
    • ท่อน้ำเข้าขนาดไม่น้อยกว่า 25 มิลลิเมตร
    • ท่อระบายน้ำขนาดไม่น้อยกว่า 75 มิลลิเมตร
  4. ต้องมีระบบอินเทอร์เน็ต หรือสายสัญญาณเครือข่ายที่สามารถใช้งานได้
  5. สถานที่ตั้งร้านต้องผ่านการตรวจสอบ ประเมิน และได้รับการอนุมัติจากบริษัทก่อน
สนใจแฟรนไชส์ LUCKY CUP Add line
 
แหล่งข้อมูล
 
  ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
บทความแฟรนไชส์ยอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
5 แฟรนไชส์มาใหม่! น่าลงทุนประจำเดือนพฤศจิกายน 25..
1,108
โอกาสมาแล้ว! 13 แบรนด์แฟรนไชส์ระดับโลกพร้อมเปิดต..
858
เจาะลึก Applebee´s แฟรนไชส์ร้านอาหารที่มาแรงทั่..
394
6 โปรโมชั่น! ส่วนลดค่าแฟรนไชส์ พร้อมใช้ได้ทันที
388
รวมแฟรนไชส์ชานมไข่มุกไทย มีระบบพร้อมเปิดร้าน
380
Abiko Curry แฟรนไชส์ฮิตจากโซล สู่เวทีโลกด้วยสูตร..
343
บทความแฟรนไชส์มาใหม่
บทความอื่นในหมวด