บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
332
5 นาที
26 กันยายน 2568
Gong Cha(貢茶) กงชา ทวงความยิ่งใหญ่ 23 ประเทศ 2.1 พันสาขาทั่วโลก
 

หากพูดถึงแบรนด์ชาไข่มุกระดับโลก หนึ่งในชื่อที่หลายคนนึกถึงต้องมี Gong Cha (กงชา) อยู่ในลิสต์รายชื่ออย่างแน่นอน เป็นแบรนด์ชานมไข่มุกที่มีจุดเริ่มต้นจากร้านเล็กๆ ในไต้หวัน แต่วันนี้ Gong Cha ขยายสาขาไปแล้วกว่า 2,100 แห่งใน 23 ประเทศทั่วโลก และล่าสุดมีข่าวแว่วๆ มาว่า กำลังจะกลับมาเปิดตลาดในประเทศไทยอีกครั้งอย่างเป็นทางการ
 
Fortune Business Insights รายงานข้อมูลภาพรวมอุตสาหกรรมชาไข่มุกทั่วโลก 
  • ปี 2024 ตลาดมีมูลค่าราว 2.63 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
  • ปี 2025 คาดว่าจะเติบโตเป็น 2.83 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
  • ปี 2032 คาดว่าตลาดจะเติบโตถึง 4.78 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
อัตราการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) จากปี 2025 ถึง 2032 คาดว่าอุตสาหกรรมชาไข่มุกทั่วโลกจะเติบโตเฉลี่ยปีละ 7.81% ซึ่งถือเป็นอัตราการเติบโตที่ค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มโดยรวม
 
โดยมีภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเป็นศูนย์กลางหลักของตลาด ครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุดที่ 43.35% ในปี 2024 เติบโตจากฐานกลุ่มผู้บริโภคที่แข็งแกร่ง ความหลากหลายของแบรนด์ และพฤติกรรมการดื่มชาที่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันในหลายประเทศ
 
ส่วนผู้เล่นชั้นนำในอุตสาหกรรมชานมไข่มุกระดับโลก เช่น 
 
1. Chatime
ภาพจาก FB : Chatime Thailand

แบรนด์จากไต้หวันที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดระดับโลก ปัจจุบันมีมากกว่า 1,000 สาขาในกว่า 50 ประเทศ มีความโดดเด่นเรื่องการพัฒนาสูตรใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง และมีการปรับให้เข้ากับรสนิยมท้องถิ่น
 
2. Gong Cha
 
 

ภาพจาก www.facebook.com/gongchate

แบรนด์พรีเมียมจากไต้หวัน ก่อตั้งเมื่อปี 2006 มีมากกว่า 2,100 สาขาทั่วโลกใน 23 ประเทศ เป็นที่นิยมในตลาดเกาหลีใต้ สิงคโปร์ และอเมริกา ด้วยภาพลักษณ์ชาที่ดูหรูหราในราคาจับต้องได้
 
3. CoCo Fresh Tea & Juice
 

หนึ่งในแบรนด์ชานมไข่มุกที่มีชื่อเสียงมากที่สุดจากไต้หวัน ก่อตั้งในปี 1997 และขยายสาขาไปมากกว่า 4,500 แห่งทั่วโลก มีเมนูที่หลากหลายตั้งแต่ชาผลไม้ไปจนถึงชานมไข่มุกสูตรพิเศษ
 
4. Lollicup Tea Zone

แบรนด์สัญชาติอเมริกันที่เติบโตจากธุรกิจนำเข้าวัตถุดิบชานมไข่มุก มีจุดเด่นด้านเครื่องดื่มชานม ไข่มุก และชาแนวพรีเมียม รูปแบบร้านออกแบบให้เข้าถึงง่าย จับกลุ่มนักเรียน นักศึกษา คนวัยทำงาน
 
ได้เห็นกันแล้วว่า ตลาดชานมไข่มุกทั่วโลกมีมูลค่ามากแค่ไหน แต่ในบทความนี้ขอเล่าถึงแบรนด์ชานมไข่มุกจากไต้หวัน Gong Cha ที่กำลังจะกลับมาทวงความยิ่งใหญ่อีกครั้ง กับจำนวนสาขา 2,100 แห่งทั่วโลกใน 23 ประเทศ รวมถึงประเทศไทยที่คาดว่าจะกลับมาเปิดตลาดอีกครั้งอย่างเป็นทางการในเร็วๆ นี้
 
Gong Cha แฟรนไชส์ชานมไข่มุกจากไต้หวัน มีความน่าสนใจอย่างไร มาดูกัน 
 
จุดเริ่มต้นของ Gong Cha 
 

ภาพจาก https://gongchausa.com

Gong Cha คือแบรนด์ชานมไข่มุกระดับพรีเมียมที่มีต้นกำเนิดจากไต้หวัน มีจุดเริ่มต้นขึ้นในปี 1996 โดย Huang และ Wu เพื่อนสนิทที่มีความหลงใหลในชาเหมือนกัน พวกเขาเริ่มต้นไอเดียขายชาคุณภาพและใส่ใจในรสชาติ จนทำให้เกิดกระแสการบอกปากต่อปากในกลุ่มลูกค้าอย่างรวดเร็ว ลูกค้าจำนวนมากยินดีต่อแถวรอนานเพียงเพื่ออยากลองรสชาของพวกเขา
 
เพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง Wu จึงได้ทุ่มเททดลองสูตรชานมไข่มุกมากกว่า 23,000 ครั้ง จนได้สูตรที่สมบูรณ์แบบ มีรสชาติกลมกล่อม และสามารถควบคุมคุณภาพให้เหมือนกันได้ทุกสาขา นี่จึงเป็นก้าวที่สำคัญของ Gong Cha ในการพัฒนามาตรฐานคุณภาพเดียวกันทั่วโลก ซึ่งกลายเป็นหัวใจของแบรนด์จนถึงทุกวันนี้
 
เมื่อชาของพวกเขสได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ต่อมาภายหลัง Wu ได้จดสิทธิบัตรสูตรชาเป็นการเฉพาะ และก่อตั้งแบรนด์ Gong Cha ขึ้นมาอย่างเป็นทางการ โดยเปิดสาขาแรกในปี 2006 ที่เมืองเกาสง ประเทศไต้หวัน
 
คำว่า “Gong Cha” (貢茶) ในภาษาจีน มีความหมายว่า “ชาเครื่องบรรณาการ” หรือ “ชาที่จัดถวายแด่จักรพรรดิ” สื่อถึงการใส่ใจในคุณภาพเป็นอย่างดี เปรียบเสมือนการเสิร์ฟชาที่ดีที่สุดให้กับบุคคลที่มีเกียรติสูงสุด
 
การเติบโตอย่างรวดเร็วสู่ระดับโลก
 

ภาพจาก https://gongchausa.com

เพียงไม่กี่ปีหลังจาก Gong Cha เปิดสาขาแรก ก็เริ่มขยายธุรกิจไปสู่ตลาดต่างประเทศ โดยเปิดสาขานอกประเทศครั้งแรกใน ฮ่องกง ปี 2009 และประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม จากนั้นได้ขยายยังประเทศอื่นๆ ในเอเชีย เช่น ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์, เกาหลีใต้ โดยเฉพาะเกาหลีใต้ได้ผลตอบดีเกินคาดใช้เวลาเพียง 3 ปี มีมากกว่า 250 สาขาทั่วประเทศ
 
กระแสความนิยมไม่ได้จำกัดแค่เอเชีย Gong Cha ยังรุกตลาดฝั่งตะวันตกและยุโรป ทั้งในออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา แคนาดา อังกฤษ และอีกหลายประเทศ พร้อมปรับสูตรและสร้างประสบการณ์การดื่มชาให้เข้ากับวัฒนธรรมในแต่ละพื้นที่
 
ปัจจุบัน Gong Cha ถือเป็นแฟรนไชส์ชานมไข่มุกที่มีชื่อเสียงระดับโลก มีมากกว่า 2,100 สาขา ใน 23 ประเทศทั่วโลก อาทิ ออสเตรเลีย, เบลเยียม, บรูไน, แคนาดา, ฮ่องกง, กัมพูชา, อินโดนีเซีย, ญี่ปุ่น, มาเก๊า, จีน, มาเลเซีย, เม็กซิโก, พม่า, นิวซีแลนด์, ฟิลิปปินส์, โปรตุเกส, สิงคโปร์, เกาหลีใต้, ไต้หวัน, อังกฤษ, สหรัฐอเมริกา, เวียดนาม และฝรั่งเศส
 
Time Line การเติบโตของ Gong Cha 
ปี 1996 จุดเริ่มต้นแห่งความมุ่งมั่น
 

ภาพจาก www.facebook.com/gongchate

Gong Cha มีจุดเริ่มต้นในปี 1996 เกิดจากความตั้งใจพัฒนาผลิตภัณฑ์ชาให้มีคุณภาพ รสชาติกลมกล่อม เหมาะกับผู้บริโภคทุกเพศทุกวัย ให้ความสำคัญกับวัตถุดิบคุณภาพสูงและการบริการอย่างจริงใจ ถือเป็นหัวใจของการเติบโตในช่วงแรก
 
ปี 2006 เปิดร้าน Gong Cha สาขาแรก
 
ในปี 2006 ร้าน Gong Cha สาขาแรกเปิดที่เมืองเกาสง ประเทศไต้หวัน ด้วยความตั้งใจที่จะส่งมอบ “ชาคุณภาพเยี่ยม” ซึ่งมีความหมายว่า “ชาที่มอบให้กับจักรพรรดิ” สร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าว่า เครื่องดื่มแต่ละแก้วได้คัดสรรมาอย่างดีที่สุด
 
ปี 2009 ก้าวแรกสู่ตลาดต่างประเทศ
 
หลังจากได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในประเทศไต้หวัน แบรนด์ Gong Cha ได้ขยายตลาดไปต่างประเทศครั้งแรก โดยเปิดสาขาแรกที่ฮ่องกง ถือเป็นก้าวสำคัญในการเริ่มต้นขยายสาขาสู่ตลาดโลก
 
ปี 2012 ขยายตลาดในเกาหลีและออสเตรเลีย
 

ภาพจาก www.facebook.com/gongchate

Gong Cha ได้แนะนำเครื่องดื่มชาแนวใหม่สู่ตลาดเกาหลีใต้และออสเตรเลีย สร้างกระแสความนิยมอย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งปลุกกระแสวัฒนธรรม “ร้านชา” ให้กลายเป็นสถานที่พบปะของคนรุ่นใหม่ ที่มีทั้งสไตล์ ความทันสมัย และคุณภาพในแก้วเดียว
 
ปี 2013 - 2014 แบรนด์โปรดของผู้บริโภคในเอเชีย
 
ในช่วงปี 2013-2014 Gong Cha ได้รับการโหวตให้เป็นแบรนด์อาหารและเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศสิงคโปร์และเกาหลีใต้ ตอกย้ำถึงความสำเร็จในระดับภูมิภาค และความเชื่อมั่นจากผู้บริโภคในต่างประเทศ 

ปี 2017 แบรนด์ชาระดับโลกบนเรือสำราญ
 
Gong Cha ได้เปิดร้านบนเรือสำราญระดับโลก “Majestic Princess” กลายเป็นแบรนด์ชาแห่งแรกที่ให้บริการบนเรือสำราญ ถือเป็นการยกระดับแบรนด์ให้ก้าวสู่สากลทั้งในด้านภาพลักษณ์และประสบการณ์ลูกค้า

ปี 2019 เปิดสาขาแรกในสหราชอาณาจักร
 

ภาพจาก www.facebook.com/gongchate

Gong Cha ได้เข้าไปเปิดตลาดยุโรป โดยเปิดสาขาแรกในสหราชอาณาจักร และได้รับความนิยมในฐานะแบรนด์เครื่องดื่มที่ผสานระหว่างความทันสมัย และกลิ่นอายคลาสสิกของชาแบบดั้งเดิม

ปี 2021 ขยายสาขาครบ 1,500 แห่งทั่วโลก
 
Gong Cha ฉลองความสำเร็จครั้งสำคัญ ด้วยการเปิดสาขาที่ 1,500 ที่เมืองแทกู ประเทศเกาหลีใต้ การขยายกิจการไปกว่า 20 ประเทศทั่วโลกในปีเดียวกัน ถือเป็นการตอกย้ำถึงความแข็งแกร่งของแบรนด์และความนิยมของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ปี 2023 ขยายธุรกิจเติบโตไม่หยุดยั้ง
 
ภายในปี 2023 Gong Cha ได้ขยายกิจการไปแล้วกว่า 23 ประเทศทั่วโลก และมีจำนวนสาขามากกว่า 2,000 แห่ง ธุรกิจมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากความมุ่งมั่นในการส่งมอบเครื่องดื่มที่ดีที่สุด และสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำให้กับลูกค้าทุกคน 
 
กลยุทธ์ความสำเร็จของ Gong Cha
 
ภาพจาก www.facebook.com/gongchate

ความสำเร็จของ Gong Cha ไม่ได้มาแค่เพราะรสชาติชาเท่านั้น แต่เกิดจากการวางกลยุทธ์ที่ชัดเจน เช่น คุณภาพวัตถุดิบ ทางแบรนด์เลือกใช้ใบชาคุณภาพดี ผสมผสานกับสูตรเฉพาะ เช่น ชาเขียวฟองนม และชานมไข่มุกน้ำตาลทรายแดง ที่ฮิตไปทั่วโลก

ที่สำคัญ คือ ลูกค้าสามารถเลือกระดับน้ำตาล ปริมาณน้ำแข็ง และท็อปปิ้งเองได้ ทำให้ทุกแก้วเหมือนสั่งทำพิเศษที่หน้าร้าน
 
อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ Gong Cha ขยายกิจการได้รวยเร็ว คือ เน้นขยายผ่านระบบแฟรนไชส์ เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการท้องถิ่นลงทุน และบริหารจัดการร้านเอง ทำให้ธุรกิจเติบโตได้รวดเร็ว และลดความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจในแต่ละประเทศ 
 
และทางแบรนด์ยังใช้กลยุทธ์พลังของโซเชียลมีเดียดันเมนูใหม่ให้เป็นไวรัล จนหลายสาขาในต่างประเทศมีคิวยาวในวันเปิดตัว
 
อยากเปิดแฟรนไชส์ Gong Cha ต้องใช้งบเท่าไหร่


ภาพจาก www.facebook.com/gongchate

ปัจจุบัน Gong Cha มีสำนักงานใหญ่กระจายอยู่ใน 4 ประเทศหลัก ได้แก่ ไต้หวัน เกาหลีใต้ สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา และมีการเปิดให้ลงทุนในระบบแฟรนไชส์ โดยมี 2 รูปแบบหลักของการลงทุน ได้แก่ Area Master Franchisee สำหรับผู้ที่ต้องการสิทธิ์บริหารและขยายสาขาทั้งประเทศและภูมิภาค
 
Single Store Franchisee สำหรับผู้ที่ต้องการเปิดร้านเดียวในพื้นที่ที่กำหนด
 
งบลงทุนเบื้องต้น สำหรับ Single / One Store Franchise
  • ค่าแฟรนไชส์ 41,500 ดอลลาร์สหรัฐ
  • งบลงทุนรวม 177,430 – 335,400 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 6.5 – 12.5 ล้านบาท)
  • ระยะเวลาสัญญา 10 ปี
  • Royalty Fee 6% จากยอดขาย
  • Marketing Fee 2% จากยอดขาย
ตัวเลขข้างต้นอาจแตกต่างกันตามขนาดร้าน ทำเล และค่าใช้จ่ายในแต่ละประเทศทั่วโลก 
 
กงชาเตรียมคัมแบ็กไทยอีกครั้ง รอบนี้ไม่มาเล่นๆ
 

ภาพจาก www.facebook.com/gongchate

Gong Cha แฟรนไชส์ชมนมไข่มุกไต้หวันเคยเข้ามาทำตลาดในไทยมาแล้วครั้งหนึ่ง แม้จะยังไม่ประสบความสำเร็จในครั้งนั้น แต่ในวันนี้ Gong Cha กำลังเตรียมคัมแบ็กกลับสู่ตลาดไทยอีกครั้ง และการกลับมาคราวนี้ ดูเหมือนจะไม่ได้มาเล่นๆ

Gong Cha เปิดสาขาในไทยครั้งแรกเมื่อเดือนกันยายน ปี 2012 ที่เซ็นทรัล พระราม 3 ตามด้วยสาขา 2 ที่เซ็นทรัลเฟสติวัล พัทยา บีช ต่อจากสาขาแรกในเวลาเพียงไม่กี่เดือน
 
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลานั้น ตลาดชานมไข่มุกในไทยยังไม่ได้บูมเหมือนในปัจจุบัน ความต้องการของผู้บริโภคยังไม่สูงพอที่จะรองรับแบรนด์พรีเมียมจากต่างประเทศ จึงทำให้ Gong Cha ต้องปิดตัวไปอย่างเงียบๆ หลังเปิดดำเนินการได้ราวๆ 2 ปี 
 
แต่วันนี้ Gong Cha พร้อมกลับมาอีกครั้ง ภายใต้การบริหารโดยกลุ่มบริษัท TOG (Thai Outdoor Group) ซึ่งตั้งบริษัทลูกขึ้นมาใหม่ในชื่อ “บริษัท เพอร์เฟค สเตป จำกัด” เพื่อดูแลกิจการในไทยเป็นการเฉพาะ
 
ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่า บริษัท เพอร์เฟค สเตป จำกัด
 
จดทะเบียนจัดตั้ง 17 ม.ค. 2025 ทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท มีรายชื่อกรรมการ คือ นายชัยยุทธ ศรีวิกรม์, นางปฤณธร ศรีวิกรม์ 
 
สาขาแรกมีแนวโน้มจะเปิดที่ CentralWorld และ The Mall บางกะปิ (อ้างอิงจากการประกาศรับสมัครพนักงาน)
 
คู่แข่งในไทยที่กงชาต้องเจอ
 
 

ปัจจุบันตลาดชาไข่มุกในประเทศไทยมีการแข่งกันอย่างดุเดือด มีทั้งแบรนด์ไทย จีน ไต้หวัน เช่น Mixue, Wedrink, Bing Chun แบรนด์ชานมจากจีน ที่กำลังขยายสาขาไปทั่วประเทศไทย
 
Koi Thé เบอร์หนึ่งในใจใครหลายคน เรื่องรสชาติและคุณภาพ Fire Tiger ดังจากชาไข่มุกน้ำตาลทรายแดงและดีไซน์แนวแฟนตาซี
 
Brown Café, Bearhouse, ATM Tea Bar แบรนด์ไทยสายครีเอทีฟที่เน้นประสบการณ์ใหม่ๆ The Alley, Dakasi, Ochaya แบรนด์ที่มีฐานแฟนประจำแน่น
 
ชานมไข่มุกพรีเมียมสไตล์คาเฟ่ เช่น After You, KOI, และร้าน specialty tea และยังไม่รวมแบรนด์ชานมไข่มุกราคา 19 บาท อีกหลายแบรนด์ในตลาดชานมของไทย

ความท้าทายที่ Gong Cha ต้องเผชิญ
1. การแข่งขันด้านราคา


ภาพจาก www.facebook.com/gongchate
 
แบรนด์เล็กต้องขายในราคาต่ำเพื่อต่อสู้กับแบรนด์ใหญ่ๆ ทำให้ได้กำไรต่อแก้วลดลง ทำให้แบรนด์ต่างประเทศอย่าง Gong Cha ต้องรักษาความสมดุลระหว่างคุณภาพ กับ ราคาขายที่ผู้บริโภครับได้

2. ต้นทุนวัตถุดิบที่ผันผวน

ไม่ว่าจะเป็น ราคานม, ชา, ไข่มุก และน้ำตาล ขึ้นลงตามตลาดโลก ซึ่งหลายๆ แบรนด์ทั้งชา กาแฟ ต่างได้รับผลกระทบไปแล้วช่วงต้นปี 2025 ซึ่งการนำเข้าวัตถุดิบจากไต้หวันหรือประเทศอื่นทำให้ต้นทุนสูงขึ้น  

3. เทรนด์สุขภาพและพฤติกรรมผู้บริโภค

ผู้บริโภคเริ่มระวังการบริโภคน้ำตาลมากขึ้น หันมานิยมในเครื่องดื่มแคลอรีต่ำ, ไร้น้ำตาล, หรือมีประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น โพรไบโอติก, ไฟเบอร์เริ่มเพิ่มขึ้น ซึ่งแบรนด์ที่เน้นชาแท้ หรือมีเมนูทางเลือก เช่น นมอัลมอนด์ ไข่มุกเจลลี่ ผลไม้ จะได้เปรียบ
 
นี่คือ...ความท้าทายของการกลับมาอีกครั้งของแฟรนไชส์ชานมไข่มุก Gong Cha ในตลาดชานมไข่มุกเมืองไทย ที่ในปัจจุบันไม่ได้ง่ายเหมือนเมื่อสิบกว่าปีก่อน
 
มีทั้งแบรนด์ในไทยที่แข็งแกร่ง แบรนด์จีนที่รุกตลาดด้วยนวัตกรรมและคุณภาพของชา รวมถึงแบรนด์ไต้หวันเอง ที่สู้ด้วยชาต้นตำรับและความพรีเมียม ทุกเจ้าล้วนแต่มีจุดแข็งของตัวเอง 
 
การกลับมาครั้งนี้ของ Gong Cha จะสามารถ “ตีตื้น” หรือ “ตีแตก” ในตลาดชานมไข่มุกเมืองไทยได้หรือไม่ และจะสามารถยืนระยะได้ยาวนานมากแค่ไหน หรือเป็นแค่กระแสสั้นๆ ในช่วงแรก 
 
ที่สำคัญก็คือ ผู้บริโภคชาวไทย พร้อมจะให้โอกาสครั้งที่สองหรือไม่ ต้องรอติดตาม
 
อ้างอิงข้อมูล 
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
สร้างรายได้จาก กระเบื้องยางSPC วัสดุปูพื้นยอดนิย..
635
หมดยุคทอง อพาร์ตเมนต์-หอพัก จากเสือนอนกิน สู่แมว..
617
ถอดรหัส Santa Fe Steak รีแบรนด์แล้วยังเหนื่อย?
577
ประกาศเซ้ง! แบรนด์แฟรนไชส์จีนหมดแรง แซงไทยไม่ไหว
550
รวมเทคนิค “ดิ้นสู้” วิกฤติร้านอาหารปี 2568 ทำยัง..
513
สงครามเย็น จักรวาลชานมไข่มุก ใครจะอยู่ใครจะไป
501
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด