บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
268
2 นาที
12 กันยายน 2568
ไขความลับ ร้านแบบ "Kiosk" ลงทุนน้อย กำไรดี รวยเร็ว จริงไหม?
 

ปัญหาหนักใจของคนส่วนใหญ่ในตอนนี้คือ “รายได้ที่ไม่พอกับรายจ่าย” คนไทยมีรายได้เฉลี่ยต่อครัวเรือนประมาณ 18,802 บาท และถ้าดูให้ลึกถึงโครงสร้างของรายได้คนไทยจะพบว่า
  • 41.14% ของคนไทยมีรายได้ต่อเดือน ต่ำกว่า 15,000 บาท
  • 30.99% มีรายได้ 15,001-30,000 บาท
  • 16.80% มีรายได้ 30,001-60,000 บาท
  • 6.22% มีรายได้ มากกว่า 100,000 บาท
และค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อครัวเรือน ตัวเลขในปี 2567 อยู่ที่ 19,319 และในปี 2568 คาดว่าจะเพิ่มเป็น 20,982-21,069 บาทต่อเดือน จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมหลายคนถึงอยากมีธุรกิจเสริมเพื่อเพิ่มรายได้ แต่ก็มีปัญหาอีกว่าเงินทุนที่มีแค่เล็กน้อยหรือแทบจะไม่มีเลยจะไปลงทุนร้านใหญ่ๆ ก็คงยาก สิ่งที่เป็นไปได้มากที่สุดก็คือร้านขนาดเล็ก เอาสะดวกเอาเร็วที่สุดก็คือ “Kiosk” ที่เป็นเหมือนธุรกิจสำเร็จรูปแบบรับจบครบในที่เดียว หลายๆ แฟรนไชส์ก็มีแพ็กเกจนี้ให้เลือก 


ภาพจาก  ไจแอ้นลูกชิ้นปลาระเบิด 
 
ยกตัวอย่าง ไจแอ้นลูกชิ้นปลาระเบิด ที่มีทั้งชุดทดลองขาย , ชุดเคาน์เตอร์ตลาดนัดพกพา , ชุดเคาน์เตอร์มืออาชีพ เป็นต้น งบลงทุนก็แค่หลักพันประมาณ 3,000 – 12,000 บาท ก็ลงทุนแบบ Kiosk ได้ หรือ ชีสซี่ฟรายสแน็ค ก็มี Kiosk ชุดเริ่มต้น ราคา 28,000 บาท และอีกหลายๆแบรนด์ที่น่าสนใจก็เช่น ธงไชยผัดไทย , ฮิปสเตอร์ สเต็ก , สเต็กเด็กแนว , แซ่บเศรษฐี 
 
จุดเด่นของ Kiosk คือมีร้าน + อุปกรณ์ + วัตถุดิบ พร้อมสอนเทคนิคการขาย คนลงทุนขอแค่มีทำเลมีที่ตั้งร้าน บางคนก็ดีหน่อยมีหน้าบ้านอยู่ย่านชุมชนคนพลุกพล่าน ก็เปิดขายได้เลยไม่ต้องเสียค่าเช่า แต่สิ่งที่น่าสนใจมันมากกว่านั้น Kiosk ลงทุนน้อยก็จริงแต่คำถามคือ “จะขายดีจริงหรือเปล่า” ในเมื่อยุคนี้คู่แข่งก็เยอะร้านเด่นๆ หรูๆ ก็มีมาก เปิดร้านแบบ Kiosk อาจจะขายได้ก็จริงแต่รายได้จะคุ้มค่าหรือจะมีเหลือมากพอให้เราเอามาเป็นเงินหมุนเวียนใช้ในชีวิตประจำวันได้ไหม
 

ภาพจาก เจปัง
 
ลองมาดูแนวทางการวิเคราะห์ที่น่าสนใจเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินก่อนเลือกลงทุน
  • ประเภทสินค้าที่เหมาะกับการขายในรูปแบบร้าน Kiosk ควรเน้นกลุ่มสินค้าที่มีความต้องการสูง เช่น เครื่องดื่ม (ชา กาแฟ นม) อาหารว่าง (ลูกชิ้น ไส้กรอก) หรือขนม มักสร้างรายได้ดีกว่า เพราะเป็นสินค้า Grab-and-Go ที่ลูกค้าซื้อสะดวก
  • ทำเล: ควรเลือกพื้นที่ขายที่มีคนสัญจรหนาแน่น เช่น ในห้างสรรพสินค้า ตลาดนัด หรือใกล้สถานที่ทำงาน จะช่วยเพิ่มโอกาสในการขาย
สมมุติว่าลองเลือก Kiosk ขายกาแฟ การบริหารจัดการต้นทุนวัตถุดิบ + ค่าเช่าก็คือตัวแปรสำคัญของการเปิดร้านว่าจะมีกำไรแค่ไหน ในกรณีของร้านกาแฟ มีต้นทุนวัตถุดิบต่อแก้ว (เช่น เมล็ดกาแฟ นม แก้ว หลอด) ประมาณ 40% ของราคาขาย = 20 บาทต่อแก้ว
 

ภาพจาก มาจิเมะ ชานมไข่มุก
 
ค่าใช้จ่ายคงที่อื่นๆ ก็เช่น
  • ค่าเช่าคีออส: 10,000-20,000 บาทต่อเดือน (ขึ้นอยู่กับทำเล)
  •  ค่าพนักงาน: 10,000 บาทต่อเดือน (สมมติจ้าง 1 คน)
  •  ค่าน้ำ-ไฟและอื่นๆ: 3,000 บาทต่อเดือน
  •  ค่าซ่อมบำรุง/อุปกรณ์: 2,000 บาทต่อเดือน
คำนวณรายได้ต่อเดือนถ้าเราขายแก้วละ 50 บาท 
  • หากขายได้ 100 แก้ว/วัน x 30 = 150,000 บาท
  • หากขายได้ 80 แก้ว/วัน x 30 = 120,000 บาท
ต้นทุนผันแปรต่อเดือน:
  • 100 แก้ว/วัน x 20 บาท x 30 วัน = 60,000 บาท
  • 80 แก้ว/วัน x 20 บาท x 30 วัน = 48,000 บาท
ค่าใช้จ่ายคงที่ต่อเดือน ประมาณ 30,000 บาท (ค่าเช่า , ค่าพนักงาน , ค่าน้ำ ค่าไฟ และอื่นๆ)
 
กำไรสุทธิต่อเดือน กรณีขายได้ 100 แก้ว/วัน หักลบค่าใช้จ่ายเหลือประมาณ 60,000 บาท เป็นต้น
 

ภาพจาก เดอะ แบล็ค ดราก้อน
 
แต่ตัวเลขนี้ยังไม่ใช่ตัวเลขการคืนทุน ก็ขึ้นอยู่กับว่าลงทุนในเบื้องต้นไปเท่าไหร่ สมมุติลงทุนไปในครั้งแรก 100,000 บาท จุดคุ้มทุนประมาณ 1.7 เดือน แต่หากลงทุนน้อยกว่านี้ มีรายได้น้อยกว่านี้ตัวเลขก็ต้องมาคำนวณกันใหม่ขึ้นอยู่กับปัจจัยในการลงทุนของแต่ละคนที่อาจแตกต่างกัน
 
โดยสรุปแล้ว การลงทุนเปิดร้านแบบ Kiosk ยังมีโอกาสเติบโตและสร้างรายได้ดีคีเวิร์ดสำคัญที่อาจช่วยเพิ่มรายได้ให้กับ Kiosk คือ การเลือกทำเลที่ดี , การออกแบบคีออสให้สะดุดตา , การควบคุมต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ , การเพิ่มช่องทางการขาย รวมถึงการใช้ตลาดออนไลน์ร่วมด้วย

จากข้อมูลที่เราเคยสอบถามบางร้านเช่น ร้านกาแฟเล็กๆ ที่เปิดในตลาดเจ้าของธุรกิจบอกว่าหลังจากหักค่าเช่า + ค่าน้ำค่าไฟ + ค่าวัตถุดิบ + ต้นทุนทุกอย่าง ก็มีเงินเหลือมากกว่าทำงานประจำคือขั้นต่ำก็เหลือไม่ต่ำกว่า 10,000 – 15,000 แต่รายได้นี้ก็ไม่ได้สม่ำเสมอในทุกเดือนขึ้นอยู่กับจำนวนลูกค้า สภาพอากาศ และปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ ที่สำคัญต้องขยันเปิดร้านทุกวัน อย่าเปิดๆ ปิด การเปิดร้านเล็กๆ ลงทุนอาจไม่มาก แต่ต้องขยันให้มาก รายได้แม้อาจไม่ได้ทำให้รวยในทันที แต่ก็พอมีเงินให้ไปหมุนเวียนใช้ได้มากขึ้น

ตัวอย่างแฟรนไชส์ ร้านแบบ "Kiosk
  1. มาจิเมะ คลิก https://citly.me/5TVzI
  2. เจปัง คลิก https://citly.me/OeJbM
  3. เดอะ แบล็ค ดราก้อน คลิก https://citly.me/NIhvC

ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
 มาจิเมะ ชานมไข่มุก
ทางบริษัท มาจิเมะ จะมีกิจกรรมและโปรโมชั่นพิเศษอยู่เรื่อยๆ ลูกค้าสามารถติดตามผ่าน 3 ช่องทาง ดังนี้Facebook : มาจิเมะชานมไข่มุก – แฟ...
ค่าแฟรนไชส์ 24,599 บาท
 เจปัง
แบรนด์ “เจปัง” เป็น “ต้นตำรับ” ไอติมย่างเนยอย่างแท้จริง เพราะคิดค้น ทดลองกันในห้องประชุมและยังมี จุดแข็งที่เป็นผู้ผลิตสูตรไอติมที่...
ค่าแฟรนไชส์ 99,000 บาท
 เดอะ แบล็ค ดราก้อน
แฟรนไชส์มาแรง! เข้าถึงง่ายทุกวัย ราคาจับต้องได้ อัดแน่นด้วยคุณภาพคับแก้ว คุ้มค่ากับราคา คำนึงถึงลูกค้าเสมอ รักษามาตรฐานและคุณภาพให...
ค่าแฟรนไชส์ 99,900 บาท
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
สร้างรายได้จาก กระเบื้องยางSPC วัสดุปูพื้นยอดนิย..
529
ประกาศเซ้ง! แบรนด์แฟรนไชส์จีนหมดแรง แซงไทยไม่ไหว
453
ถอดรหัส Santa Fe Steak รีแบรนด์แล้วยังเหนื่อย?
448
สงครามเย็น จักรวาลชานมไข่มุก ใครจะอยู่ใครจะไป
413
รวมเทคนิค “ดิ้นสู้” วิกฤติร้านอาหารปี 2568 ทำยัง..
405
“Gap Model” ร้านค้าทำดีทุกอย่าง แต่ทำไมลูกค้าไม..
393
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด