บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
271
2 นาที
18 สิงหาคม 2568
สมรภูมิชาเขียว สู่เพียวมัทฉะ กระแสใหม่ที่คนไทยเห่อ
 

ถ้าพูดถึงเครื่องดื่มที่มาแรงที่สุดในช่วงปี 2568 คงไม่มีใครไม่พูดถึง "มัทฉะ" โดยเฉพาะ "เพียวมัทฉะ" (Pure Matcha) ที่มาแรงแซงหน้าทุกเมนูในโซเชียล ทั้ง TikTok, Instagram, Facebook หรือแม้แต่ในบล็อกท่องเที่ยวของญี่ปุ่น
 
กลายเป็นเครื่องดื่มที่ถูกพูดถึงมากที่สุดบนโซเชียลมีเดีย ด้วยยอดเอ็นเกจเมนต์ทะลุ 5.2 ล้านครั้งภายใน 1 เดือนครึ่ง ส่งผลให้หลายร้านประสบปัญหาสินค้าขาดตลาด จากความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
 
ใครจะคิดว่า จากแค่ผงชาเขียว จะกลายเป็นสินค้าขาดตลาดได้จริง
 
เทรนด์นี้มาได้ยังไง
 
 
มัทฉะเริ่มเป็นที่นิยมในไทยตั้งแต่ปลายปี 2566 แต่กระแสเริ่มพีคสุดๆ เมื่อต้นปี 2568 โดยมีปัจจัยหลักมาจาก
  1. คนรุ่นใหม่ใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ดื่มมัทฉะให้พลังงาน และมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง
  2. ภาพลักษณ์ Clean & Minimal มัทฉะเชื่อมโยงกับความเรียบง่าย คลีน สะอาด ดูดีแบบมีสไตล์
  3. โซเชียลมีเดียช่วยสร้างกระแส คอนเทนต์แนว “Japan Haul” หรือ “Morning Routine” ที่มีมัทฉะเป็นพระเอก ดึงดูดให้คนหันมาสนใจผงมัทฉะเกรดดีมากขึ้น
  4. ค่าเงินเยนอ่อน ทำให้คนไทยหอบเงินไปซื้อมัทฉะจากญี่ปุ่นกลับมาเป็นกระป๋องๆ ทำให้บางร้านต้องจำกัดจำนวน
มัทฉะ “ขาดตลาด” จริงหรือ
 

ในประเทศไทยเอง ที่ผ่านมาจะเห็นว่าหลายๆ ร้านมัทฉะพรีเมียม เช่น MTCH, Peace Oriental หรือ Ksana ถึงกับประกาศ “จำกัดจำนวนการซื้อ” เพราะผงมัทฉะนำเข้าเริ่มขาดแคลน

ทางด้านประเทศญี่ปุ่นก็ไม่ต่างกัน แบรนด์ใหญ่ระดับโลกอย่าง Marukyu Koyamaen และ Ippodo ต้องจำกัดการสั่งซื้อ หรือ หยุดขายชั่วคราว เพราะผลิตไม่ทัน
 
สาเหตุหลักที่ทำให้ “มัทฉะ” ขาดตลาด
  • ผลผลิตใบชา Tencha จำกัด
  • Tencha คือใบชาที่ใช้ทำมัทฉะโดยเฉพาะ มีฤดูเก็บเกี่ยวสั้น และต้องใช้เวลาในการบ่มก่อนนำมาบด
  • ปี 2568 สภาพอากาศร้อนจัดในญี่ปุ่น ทำให้ผลผลิตลดลงทันที 20–25% หลายโรงงานผลิตผงมัทฉะได้ไม่ถึงครึ่งที่ตลาดต้องการ
  • ความต้องการทั่วโลกพุ่ง ไม่ใช่แค่ไทย แต่ตลาดมัทฉะทั่วโลกเติบโตแรง คาดว่าแตะ 173,000 ล้านบาทภายในปี 2028 ธุรกิจทั้งในอเมริกา ยุโรป และเอเชียแห่กันสั่งซื้อมัทฉะ จนทำให้ “ดีมานด์แซงซัพพลาย” แบบชัดเจน
  • รีเซล + กักตุน ในหลายประเทศ รวมถึงไทย เริ่มมีการซื้อมัทฉะไปขายต่อในราคาที่สูงกว่าปกติ 2–4 เท่า ทำให้ผู้บริโภคทั่วไปยิ่งหาซื้อได้ยากเข้าไปอีก
เมนูมัทฉะยอดนิยม 
  • Matcha Latte 41% กลุ่มเป้าหมายมือใหม่ ดื่มง่าย รสชาติกลมกล่อม
  • Pure Matcha 35% กลุ่มเป้าหมายสายเฮลท์ตี้ ต้องการรสชาติแบบดั้งเดิม
  • Matcha Coconut 10% กลุ่มเป้าหมายคนชอบรสแปลกใหม่ หอมกลิ่นมะพร้าว
  • Matcha Honey / Lemon รวม 8% กลุ่มเป้าหมายสำหรับคนชอบรสหวานสดชื่น
 
รสชาติที่โดนใจ
  • ครีมมี่ (38%) หวานนุ่ม ละมุน ดื่มง่าย
  • นัตตี้ (35%) หอมมัน เหมือนถั่วอบ
  • สาหร่าย (10%) รสเค็มนิดๆ กลิ่นน้ำทะเล
  • ช็อกโกแลต (9%) ขมละมุนแบบดาร์กช็อก
  • ฟลอรัล (5%) หอมบางเบา ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย
โอกาสทางธุรกิจเกี่ยวกับมัทฉะ
  • คาเฟ่ทั่วไป เพิ่มเมนูมัทฉะสูตรต่างๆ ดึงดูดกลุ่มลูกค้าใหม่
  • ร้านเครื่องดื่มเปิดไลน์ "มัทฉะแท้" เจาะกลุ่มลูกค้าระดับ Premium
  • สร้างแบรนด์ออนไลน์ (D2C) ด้วยผงมัทฉะคุณภาพสูง ส่งให้ลูกค้าถึงบ้าน
  • ต่อยอดสู่สินค้าใหม่ เช่น มัทฉะขนม มัทฉะสกินแคร์ หรือชุดของขวัญ

มาถึงตรงนี้ ถ้าถามว่ามัทฉะเป็นกระแสชั่วคราว หรือจะอยู่ยาวเหมือนกาแฟ? นี่คือคำถามที่ทุกธุรกิจต้องคิดให้ขาด
 
ถ้าแบรนด์ไหนสามารถสร้างประสบการณ์การดื่มที่มากกว่า “รสชาติ” เช่น มีเรื่องเล่า มีคุณภาพ มีความยั่งยืน ก็มีโอกาสที่มัทฉะจะไม่ใช่แค่เครื่องดื่ม แต่เป็นแบรนด์ที่มีความเป็นไลฟ์สไตล์ สามารถติดตลาดในระยะยาวได้ 

ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
624
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
532
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
490
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
460
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
438
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
432
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด