บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
424
2 นาที
18 สิงหาคม 2568
สมรภูมิชาเขียว สู่เพียวมัทฉะ กระแสใหม่ที่คนไทยเห่อ
 

ถ้าพูดถึงเครื่องดื่มที่มาแรงที่สุดในช่วงปี 2568 คงไม่มีใครไม่พูดถึง "มัทฉะ" โดยเฉพาะ "เพียวมัทฉะ" (Pure Matcha) ที่มาแรงแซงหน้าทุกเมนูในโซเชียล ทั้ง TikTok, Instagram, Facebook หรือแม้แต่ในบล็อกท่องเที่ยวของญี่ปุ่น
 
กลายเป็นเครื่องดื่มที่ถูกพูดถึงมากที่สุดบนโซเชียลมีเดีย ด้วยยอดเอ็นเกจเมนต์ทะลุ 5.2 ล้านครั้งภายใน 1 เดือนครึ่ง ส่งผลให้หลายร้านประสบปัญหาสินค้าขาดตลาด จากความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
 
ใครจะคิดว่า จากแค่ผงชาเขียว จะกลายเป็นสินค้าขาดตลาดได้จริง
 
เทรนด์นี้มาได้ยังไง
 
 
มัทฉะเริ่มเป็นที่นิยมในไทยตั้งแต่ปลายปี 2566 แต่กระแสเริ่มพีคสุดๆ เมื่อต้นปี 2568 โดยมีปัจจัยหลักมาจาก
  1. คนรุ่นใหม่ใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ดื่มมัทฉะให้พลังงาน และมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง
  2. ภาพลักษณ์ Clean & Minimal มัทฉะเชื่อมโยงกับความเรียบง่าย คลีน สะอาด ดูดีแบบมีสไตล์
  3. โซเชียลมีเดียช่วยสร้างกระแส คอนเทนต์แนว “Japan Haul” หรือ “Morning Routine” ที่มีมัทฉะเป็นพระเอก ดึงดูดให้คนหันมาสนใจผงมัทฉะเกรดดีมากขึ้น
  4. ค่าเงินเยนอ่อน ทำให้คนไทยหอบเงินไปซื้อมัทฉะจากญี่ปุ่นกลับมาเป็นกระป๋องๆ ทำให้บางร้านต้องจำกัดจำนวน
มัทฉะ “ขาดตลาด” จริงหรือ
 

ในประเทศไทยเอง ที่ผ่านมาจะเห็นว่าหลายๆ ร้านมัทฉะพรีเมียม เช่น MTCH, Peace Oriental หรือ Ksana ถึงกับประกาศ “จำกัดจำนวนการซื้อ” เพราะผงมัทฉะนำเข้าเริ่มขาดแคลน

ทางด้านประเทศญี่ปุ่นก็ไม่ต่างกัน แบรนด์ใหญ่ระดับโลกอย่าง Marukyu Koyamaen และ Ippodo ต้องจำกัดการสั่งซื้อ หรือ หยุดขายชั่วคราว เพราะผลิตไม่ทัน
 
สาเหตุหลักที่ทำให้ “มัทฉะ” ขาดตลาด
  • ผลผลิตใบชา Tencha จำกัด
  • Tencha คือใบชาที่ใช้ทำมัทฉะโดยเฉพาะ มีฤดูเก็บเกี่ยวสั้น และต้องใช้เวลาในการบ่มก่อนนำมาบด
  • ปี 2568 สภาพอากาศร้อนจัดในญี่ปุ่น ทำให้ผลผลิตลดลงทันที 20–25% หลายโรงงานผลิตผงมัทฉะได้ไม่ถึงครึ่งที่ตลาดต้องการ
  • ความต้องการทั่วโลกพุ่ง ไม่ใช่แค่ไทย แต่ตลาดมัทฉะทั่วโลกเติบโตแรง คาดว่าแตะ 173,000 ล้านบาทภายในปี 2028 ธุรกิจทั้งในอเมริกา ยุโรป และเอเชียแห่กันสั่งซื้อมัทฉะ จนทำให้ “ดีมานด์แซงซัพพลาย” แบบชัดเจน
  • รีเซล + กักตุน ในหลายประเทศ รวมถึงไทย เริ่มมีการซื้อมัทฉะไปขายต่อในราคาที่สูงกว่าปกติ 2–4 เท่า ทำให้ผู้บริโภคทั่วไปยิ่งหาซื้อได้ยากเข้าไปอีก
เมนูมัทฉะยอดนิยม 
  • Matcha Latte 41% กลุ่มเป้าหมายมือใหม่ ดื่มง่าย รสชาติกลมกล่อม
  • Pure Matcha 35% กลุ่มเป้าหมายสายเฮลท์ตี้ ต้องการรสชาติแบบดั้งเดิม
  • Matcha Coconut 10% กลุ่มเป้าหมายคนชอบรสแปลกใหม่ หอมกลิ่นมะพร้าว
  • Matcha Honey / Lemon รวม 8% กลุ่มเป้าหมายสำหรับคนชอบรสหวานสดชื่น
 
รสชาติที่โดนใจ
  • ครีมมี่ (38%) หวานนุ่ม ละมุน ดื่มง่าย
  • นัตตี้ (35%) หอมมัน เหมือนถั่วอบ
  • สาหร่าย (10%) รสเค็มนิดๆ กลิ่นน้ำทะเล
  • ช็อกโกแลต (9%) ขมละมุนแบบดาร์กช็อก
  • ฟลอรัล (5%) หอมบางเบา ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย
โอกาสทางธุรกิจเกี่ยวกับมัทฉะ
  • คาเฟ่ทั่วไป เพิ่มเมนูมัทฉะสูตรต่างๆ ดึงดูดกลุ่มลูกค้าใหม่
  • ร้านเครื่องดื่มเปิดไลน์ "มัทฉะแท้" เจาะกลุ่มลูกค้าระดับ Premium
  • สร้างแบรนด์ออนไลน์ (D2C) ด้วยผงมัทฉะคุณภาพสูง ส่งให้ลูกค้าถึงบ้าน
  • ต่อยอดสู่สินค้าใหม่ เช่น มัทฉะขนม มัทฉะสกินแคร์ หรือชุดของขวัญ

มาถึงตรงนี้ ถ้าถามว่ามัทฉะเป็นกระแสชั่วคราว หรือจะอยู่ยาวเหมือนกาแฟ? นี่คือคำถามที่ทุกธุรกิจต้องคิดให้ขาด
 
ถ้าแบรนด์ไหนสามารถสร้างประสบการณ์การดื่มที่มากกว่า “รสชาติ” เช่น มีเรื่องเล่า มีคุณภาพ มีความยั่งยืน ก็มีโอกาสที่มัทฉะจะไม่ใช่แค่เครื่องดื่ม แต่เป็นแบรนด์ที่มีความเป็นไลฟ์สไตล์ สามารถติดตลาดในระยะยาวได้ 

ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
AI คลื่นลูกที่ 5 ไม่ได้มาแทนที่ แต่มาเป็นเพื่อนค..
846
เทรนด์การตลาดส่งท้ายปี 2025 เมื่อผู้บริโภค “คิดเ..
680
5 ปัจจัยสำคัญในชีวิตประจำวัน ปรับสมดุลชีวิตเพื่..
555
สสปท. มอบโล่ Zero Accident ย้ำความปลอดภัยคือราก..
483
จักรวาลร้านสเต็ก ข้างทาง ใครเจ้าตลาด
467
ทำเลทองของ “คาเฟ่ร้านกาแฟ” เปิดที่ไหน กำไรดีที่..
443
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด