ถ้าพูดถึงตลาดร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด หรือ Quick Service Restaurant (QSR) ในไทยที่มีมูลค่ารวมกว่า 45,000 ล้านบาท ประกอบไปด้วย 3 เซกเมนต์หลัก คือ ไก่ทอด พิซซ่า และเบอร์เกอร์ เชื่อว่าหลายคนคงรู้จักกันเป็นอย่างดี โดยเฉพาะแบรนด์ฟาสต์ฟู้ดชื่อดังจากอเมริกา McDonald's, KFC, Burger King, Pizza Hut, Taco Bell, Subway, Domino's Pizza, Shake Shack รวมถึงแบรนด์ไทยที่คุ้นเคยอย่าง เชสเตอร์, ไก่ย่างห้าดาว ยังไม่นับแบรนด์ไก่ทอดชื่อดังเกาหลีอีกหลายเจ้า 

 

แต่รู้หรือไม่ว่า ปี 2025 ตลาดฟาสต์ฟู้ดในไทยจะแข่งขันกันดุเดือดมากกว่าหลายปีที่ผ่านมา ไม่เพียงแต่แบรนด์ต่างชาติทั้งจากอเมริกา เกาหลี รวมถึงไทย เตรียมขยายสาขาอย่างมโหฬาร ยังมีแบรนด์ฟาสต์ฟู้ดจากจีนดาหน้าบุกไทยอย่างต่อเนื่อง ไล่ไปตั้งแต่แบรนด์ไก่ทอด Zhengxin Chicken Steak (เจิ้งซิน ชิคเก้น สเต็ก) มีสาขามากกว่า 20,000 แห่งทั่วโลก 
 

ภาพจาก www.facebook.com/wallacethailand

 

ปัจจุบันเปิดสาขาแล้ว 3 แห่งในไทย ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 7, ONE ConneX แถวอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ล่าสุดเปิดสาขา 3 ที่ขอนแก่น ขายทั้งไก่ทอด น้ำอัดลม และไอศกรีม ราคาเริ่มต้นชิ้นละ 15 บาท เป็นแบรนด์ที่สร้างกระแสได้อย่างมากในตลาดไก่ทอดเมืองไทย หลายคนมองว่าขายถูกกว่าไก่ทอดรถเข็นข้างทางอีก

 

ล่าสุดมีแบรนด์ฟาสต์ฟู้ดจากจีนเข้ามาบุกตลาดในไทยอีกหนึ่งแบรนด์ นั่นคือ Wallace (วอลเลส) ร้านแฟรนไชส์ไก่ทอดและเบอร์เกอร์ที่มีสาขามากกว่า 20,000 แห่งในจีน แซงหน้าฟาสต์ฟู้ดอเมริกาอย่าง McDonald's, KFC, Burger King ปัจจุบันขยายสาขาอย่างรวดเร็วในไทยไปแล้ว 2 แห่งที่มหาวิทยาลัยหัวเฉียว และท่าน้ำนนท์ 

 

แฟรนไชส์ไก่ทอดและเบอร์เกอร์ Wallace น่าสนใจแค่ไหน มีจุดเด่นอย่างไร จะสร้างกระแสในตลาดฟาสต์ฟู้ดเมืองไทยได้หรือไม่ ทำไมแบรนด์ฟาสต์ฟู้ดอื่นๆ ในตลาดเมืองไทยจะต้องเตรียมรับมือกับแบรนด์ไก่ทอดจากจีน

 

 

 

ภาพจาก https://bit.ly/43b8MT4

แฟรนไชส์ไก่ทอดและเบอร์เกอร์ Wallace เกิดขึ้นเมื่อปี 2000 เปิดสาขาแรกในมหาวิทยาลัยครูฝูเจี้ยน เมืองฝูโจว โดยสองพี่น้อง หัว หวยหยู (Hua Huaiyu) และ หัว หวยชิง (Hua Huaiqing) ด้วยเงินทุนเพียงแค่ 80,000 หยวน ในตอนแรกทั้งสองทำธุรกิจลอกเลียนแบบแฟรนไชส์ฟาสต์ฟู้ดตะวันตกอย่าง KFC และ McDonald's แต่ผลตอบรับกลับไม่ดี 

 

ต่อมาทั้งสองตัดสินใจปรับกลยุทธ์ราคาถูก เข้าถึงง่าย เปลี่ยนจากร้านใหญ่เป็นร้านเล็ก และเปิดตัวโปรโมชั่น 123 คือ โค้ก 1 หยวน ขาไก่ 2 หยวน แฮมเบอร์เกอร์ 3 หยวน 

 

การปรับกลยุทธ์ดังกล่าว ทำให้ Wallace ขยายกิจการได้อย่างรวดเร็ว ดำเนินธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์ จนกลายเป็นแฟรนไชส์ฟาสต์ฟู้ดตะวันตกราคาไม่แพง กลยุทธ์หลักของ Wallace ในตลาดจีน คือ การตั้งราคาสินค้าอยู่ที่ประมาณ 30-60% ของราคา KFC และ McDonald's 

 

ที่สำคัญ Wallace จะไม่ขยายสาขาในห้างสรรพสินค้า หรือศูนย์การค้า เหมือนแฟรนไชส์ KFC และ McDonald's เพราะต้องการลดต้นทุนค่าเช่าพื้นที่ โดยทำเลเปิดร้านหลีกๆ จะเป็นย่านที่อยู่อาศัย มหาวิทยาลัย ส่วนใหญ่เป็นร้านเล็กๆ เพื่อลดต้นทุนค่าใช้จ่ายให้กับผู้ซื้อแฟรนไชส์ ส่วนค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์เพียงเศษเสี้ยวของคู่แข่งในตลาด 

ภาพจาก https://bit.ly/43b8MT4

 

ตั้งแต่ปี 2005 แฟรนไชส์ไก่ทอด Wallace เริ่มทำการสร้างแบรนด์และขยายสาขาไปทั่วประเทศ ปี 2009 ก่อตั้งบริษัท Fujian Wallace Food Co., Ltd. ในเมืองฝูโจว มณฑลฝูเจี้ยน เดือนมกราคม 2014 มีสาขากว่า 4,800 แห่ง แซงหน้าคู่แข่ง KFC ที่มี 4,600 แห่งเป็นครั้งแรก  

 

เดือนเมษายน 2016 แฟรนไชส์ Wallace ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ปักกิ่ง ที่เรียกว่า National Equities Exchange and Quotations (NEEQ) หรือ New Third Boad หรือที่รู้จักกันในชื่อตลาดหุ้นแห่งที่ 3 เป็นตลาดทุนสำหรับ SMEs จีนที่ยังไม่สามารถเข้าไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์หลัก 
 

จนกระทั่งสิ้นปี 2018 มีจำนวนสาขามากกว่า 10,000 แห่ง ปี 2019 ขยายสาขาเพิ่มมากกว่า 12,000 แห่งทั่วประเทศ มากกว่าจำนวนสาขาทั้งหมดของคู่แข่งฟาสต์ฟู้ดตะวันตก KFC และ McDonald's ในจีน 

 

ปี 2023 Wallace ได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 100 แบรนด์ชั้นนำในฝูเจี้ยน

 

ปัจจุบัน Wallace เป็นแฟรนไชส์ไก่ทอดและเบอร์เกอร์มีสาขาในจีนทั้งหมด 20,000 แห่ง น่าจะเท่าๆ กับ “ไก่ทอด เจิ้งซิน ZHENGXIN” กลายเป็นแฟรนไชส์ฟาสต์ฟู้ดอันดับต้นๆ ที่ผสมผสานคุณภาพความทันสมัยและวัฒนธรรมเข้าด้วยกัน 
 

ภาพจาก www.facebook.com/wallacethailand

 

ภายใต้สโลแกน “ไก่ทั้งตัวมาคู่กับแฮมเบอร์เกอร์ อิ่มคุ้มที่ Wallace” ที่ติดหูชี้ให้เห็นถึงเป้าหมายหลักของแบรนด์ และมีการขยายสาขาในต่างประเทศ เช่น เวียดนาม มาเลเซีย และไทย

 

สำหรับในไทย แฟรนไชส์ไก่ทอดและเบอร์เกอร์ Wallace เปิดตัวเมื่อช่วงวันที่  11 ม.ค. 2025 สาขาแรกที่มหาวิทยาลัยหัวเขียว สาขา 2 ที่ท่าน้ำนนท์ วันที่ 10 ก.พ. 2025 โดยบริษัท ซีเอฟจี แอนด์ เจอีทีไอ (ไทยแลนด์) จำกัด เป็นผู้นำเข้ามาในฐานะมาสเตอร์แฟรนไชส์เพียงผู้เดียวในไทย ไม่มีการขายแฟรนไชส์ให้กับนักลงทุนทั่วไปเหมือน Mixue, Wedrink, Bing Chun

 

กลยุทธ์ของแฟรนไชส์ไก่ทอดและเบอร์เกอร์ Wallace ในไทยจะคล้ายๆ ในประเทศจีน คือ ขยายสาขาตามแหล่งที่พักอาศัย มหาวิทยาลัย ไม่เปิดตามห้างสรรพสินค้า เพราะต้องการประหยัดต้นทุนดำเนินธุรกิจ ที่สำคัญขายสินค้าราคาถูกกว่าแบรนด์ฟาสต์ฟู้ดคู่แข่งทางฟากตะวันตกอย่าง แมคโดนัลด์ เคเอฟซี และเบอร์เกอร์ คิง 

 

โดยรวมราคาจะเท่าๆ กับ “ไก่ทอดเจิ้งซิน” แบรนด์คู่แข่งจากจีนที่มีสาขาในไทยแล้ว 3 แห่ง  
 

ภาพจาก www.facebook.com/wallacethailand

จะเห็นได้ว่าเมนูต่างๆ ของแฟรนไชส์ Wallace อย่างบักเก็ตไก่ทอดจะถูกกว่า KFC ที่ขายหลักร้อยเกือบสองร้อย ส่วนเมนูเบอร์เกอร์ 1 ชิ้น ก็ถูกกว่า McDonald's และ Burger King ที่ขายเกินร้อยเกือบสองร้อยเช่นกัน 

ภาพจาก www.facebook.com/wallacethailand

 

ที่สำคัญก็คือ Wallace นอกจากจะเสิร์ฟไก่เป็นชิ้นๆ แล้วยังเสิร์ฟไก่เป็นตัวๆ อีกด้วย ต่างจาก KFC และ McDonald's ที่เสิร์ฟแต่ไก่เป็นชิ้นๆ ลูกค้าสามารถเลือกไก่เป็นตัวทอดหรือย่างก็ได้ ราคาตัวละ 139 บาท ถูกกว่าๆไก่ย่างห้าดาว 

 

Wallace ยังมีเมนูที่ร้าน KFC, McDonald's และ ไก่ทอดเจิ้งซิน ไม่มีก็คือ ชุดข้าวไก่ย่าง-ไก่ทอดวอลเลส 79 บาท ได้ทั้งส่วนน่อง+สะโพก ที่สำคัญราคาถูกกว่าเมนูข้าวไกย่าง “เชสเตอร์”
 

ภาพจาก www.facebook.com/wallacethailand

 

ไม่พอแค่นี้ Wallace ยังมีเมนูไอศกรีมซอฟเสิร์ฟราคา 15 บาท/โคน เป็นทางเลือกให้ลูกค้า แบบไม่ให้ตกเทรนด์อีกต่างหาก อาจกล่าวได้ว่าก่อนจะเข้ามาบุกตลาดฟาสต์ฟู้ดในไทย แฟรนไชส์ไก่ทอดและเบอร์เกอร์ Wallace ทำการบ้านและศึกษาคู่แข่งมาอย่างดี รู้เขา รู้เรา กล้าท้าชนทุกแบรนด์ฟาสต์ฟู้ดในไทย ด้วยกลยุทธ์ “ราคาถูก” เข้าถึงง่าย ใกล้ชุมชน 
 

ภาพจาก www.facebook.com/wallacethailand

 

นั่นจึงเป็นที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อยว่า ต่อจากนี้ไปตลาดฟาสต์ฟู้ดในประเทศไทย ที่มีมูลค่าตลาดรวมรวมๆ 40,000-50,000 ล้านบาท จะมีการแข่งขันกันดุเดือดจากการเข้ามาของแบรนด์ฟาสต์ฟู้ดจากจีน ที่สามารถสร้างกระแสได้ตลอดเวลา 

 

แหล่งข้อมูล 

นักเขียน

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)