แจกฟรีอาชีพ!! สมาคมภัตตาคารไทย เติมกำลังใจให้คนไทย พร้อมทุนเปิดร้าน 5,000 บาท 
 

นับตั้งแต่การระบาดโควิด-19 มาจนถึงสงครามรัสเซีย-ยูเครน ส่งผลกระทบให้ค่าครองชีพในประเทศปรับตัวสูงขึ้น สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน หลายๆ คนตกงาน อยากมีอาชีพ อยากมีรายได้เพิ่ม เกี่ยวกับเรื่องนี้ทางสมาคมภัตตาคารไทยจึงได้ร่วมมือกับสถานีบริการน้ำมันและก๊าซ LPG “PT” ดำเนินโครงการ “ร้านข้าวแกงกำลังใจ อิ่มละ 25 บาท” 
 

เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากค่าครองชีพที่สูงขึ้น โดย “PT” ให้การสนับสนุนพื้นที่ตั้งร้านขายข้าวแกงกำลังใจในสถานีบริการเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวนกว่า 100 สถานี พร้อมนำ “ก๊าซหุงต้มพีที” และ “น้ำมันปาล์มมีสุข” ขายในราคาพิเศษ เพื่อลดต้นทุนการผลิตและให้บริการประชาชนได้ในราคาอิ่มละ 25 บาท โดยร้านสาขาแรกเปิดให้บริการแล้วที่สถานีบริการพีที สาขาพุทธบูชา เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2565
 

ภาพจาก https://bit.ly/3LRJxL2

 

นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย ได้เปิดเผยกับ www.ThaiFranchiseCenter.com เกี่ยวกับโครงการ “ร้านข้าวแกงกำลังใจ อิ่มละ 25 บาท" ว่า ทางสมาคมฯ ได้ร่วมกับ บริษัท แอตลาส เอ็นเนอยี จำกัด ดำเนินธุรกิจจำหน่ายก๊าซหุงต้มบรรจุถัง ภายใต้ตราสินค้า “ก๊าซหุงต้ม PT” และ บริษัท โอลิปัส ออยล์ จำกัด ดำเนินธุรกิจสถานีบริการ “PT” ดำเนินโครงการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 รวมถึงค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงขึ้น
 

โดยต้องการให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยดังกล่าว สามารถกินข้าวแกงกำลังใจอิ่มละ 25 บาท ที่ให้บริการในรูปแบบร้านข้าวแกงกำลังใจ, ร้านในศูนย์อาหาร, Kiosk, Food Truck และสถานีบริการ PT กว่า 100 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งในระยะแรกจำนวน 59 สถานี เริ่มจำหน่ายตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2565 เป็นต้นมา
 

ภาพจาก https://bit.ly/3LRJxL2

 

นายกสมาคมภัตตาคารไทย ยังกล่าวด้วยว่า ทางผู้จำหน่ายก๊าซหุงต้มบรรจุถังได้ให้การสนับสนุนผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมโครงการ “ร้านข้าวแกงกำลังใจ อิ่มละ 25 บาท" ด้วยส่วนลดราคาน้ำมันปาล์มมีสุข 5 บาทจากราคาขายปลีก พร้อมสนับสนุนก๊าซหุงต้มถังแรก 15 กิโลกรัมให้ผู้เข้าร่วมโครงการ และลดราคา 20 บาทในถังถัดไป โดยเบื้องต้นเปิดรับสมัครผู้ประกอบการค้าที่สนใจเข้าร่วมโครงการฯ ในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และชลบุรี เนื่องจากมีความสะดวกในด้านการจัดส่งสินค้าและวัตถุดิบไปยังร้าน ส่วนการขยายไปยังพื้นที่ต่างจังหวัดอื่นๆ อาจจะต้องมีการหารือกันอีกครั้ง
 

ภาพจาก https://bit.ly/3LRJxL2

 

สำหรับการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ “ข้าวแกงกำลังใจ อิ่มละ 25 บาท” ทางสมาคมฯ ได้มีการประสานจัดซื้อวัตถุดิบต่างๆ ให้กับร้านข้าวแกง เพื่อต้องการให้ร้านค้าได้รับต้นทุนต่ำและวัตถุดิบที่มีคุณภาพ จะช่วยให้ร้านค้าสามารถควบคุมต้นทุนได้ โดยทางสมาคมฯ จะมีครัวกลางจัดทำอาหารบริการจัดส่งให้กับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการในราคาต้นทุนต่ำ ตั้งเป้าขายให้ได้ 200 จานต่อร้าน โดย 100 จานแรกถือเป็นต้นทุนของร้านที่เข้าร่วมโครงการฯ  
 

ขณะที่วัตถุดิบที่นำมาทำเมนูอาหาร ก็ได้รวมตัวกันซื้อจากพันธมิตรผู้ผลิตโดยตรง เช่น เนื้อหมูจากสมาคมฯ ข้าวจากกลุ่มเกษตรกรฯ ผักจากตลาดต้นทาง จึงได้วัตถุดิบราคาย่อมเยามาปรุงอาหารจำหน่ายราคาถูก เพื่อให้ร้านค้ามีกำไรอยู่รอดได้ ลูกค้าได้ทานอาหารอร่อย วัตถุดิบมีคุณภาพ แถมยังราคาถูก ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย และลดค่าครองชีพไปได้มาก
 

เปิดรับสมัคร “กรุงเทพฯ – ชลบุรี” 
 

ภาพจาก https://bit.ly/3Rjqpq4

สำหรับผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการ “ร้านข้าวแกงกำลังใจ อิ่มละ 25 บาท” จะไม่มีค่าใช้จ่ายในการเริ่มต้นเปิดร้าน โดยขณะนี้ทางสมาคมภัตตาคารไทยได้ร่วมมือกับเพจอีจีนตลาดแตก เปิดรับสมัครผู้สนใจเปิดร้านข้าวแกงกำลังใจ อิ่มละ 25 บาท พร้อมทุนเปิดร้าน 5,000 บาท (ค่าอุปกรณ์เปิดร้าน) ให้กับผู้เข้าร่วมโครงการฯ ฟรีอีกด้วย เพื่อส่งต่อกำลังใจให้สู้วิกฤติไปกับโครงการ “ข้าวแกงกำลังใจ ข้าวแกง 25 บาท” ด้วยการมอบมื้ออิ่มอร่อยจากของดีราคาถูกให้ผู้บริโภคชาวไทย 
 

สำหรับผู้ที่สนใจเปิดร้าน “ข้าวแกงกำลังใจ อิ่มละ 25 บาท” เบื้องต้นต้องอาศัยอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครฯ นนทบุรี ปทุมธานี และชลบุรี เท่านั้น โดยมีสิ่งที่จะได้รับจากการเข้าร่วมโครงการฯ ดังนี้ 

สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการ คลิก https://lin.ee/ndopdVC

ธุรกิจร้านอาหารงัดสารพัดอาวุธแข่งขัน
 

 

ภาพจาก https://bit.ly/3E1Mfvy

นายกสมาคมภัตตาคารไทย ยังให้มุมมองสำหรับการปรับตัวของธุรกิจร้านอาหารด้วยว่า หลังการแพร่ระบาดโควิด-19 เริ่มลดลง ประกอบกับรัฐบาลเปิดรับนักท่องเที่ยว ได้ส่งผลให้สถานการณ์ของร้านอาหารปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น ค้าขายได้ง่ายขึ้น นอกจากผู้ประกอบการร้านอาหารจะเปิดขายหน้าร้านแล้วยังเพิ่มช่องทางการที่หลากหลายมากขึ้น
 

โดยประเมินว่าถ้าสถานการณ์ดีขึ้นเรื่อยๆ จะทำให้ธุรกิจร้านอาหารคึกคักมากขึ้น ประชาชนจะกล้าออกมาใช้ชีวิตทำกิจกรรมนอกบ้านมากขึ้น ผู้ประกอบการร้านอาหารจะทำธุรกิจแบบไม่มีข้อจำกัดอีกต่อไป ส่งผลให้ธุรกิจร้านอาหารแข่งขันกันอย่างเต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการขยายสาขา การพัฒนาโมเดลใหม่ เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภค
 

 

อ้างอิงข้อมูล

 

นักเขียน

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)