Business as Unusual เขียนโดยปิยะชาติ อิศรภักดี

 

เมื่อผมได้อ่านเล่มนี้จึงคิดดังๆให้คุณได้อ่านและเอาภาพที่คุณควรรู้มาลงควบคู่ไว้ให้คุณไปตามอ่านและตีความ ผมไม่ได้ย่อหนังสือนี้ให้คุณแต่หนังสือนี้ทำให้เกิดแรงบันดาลใจเขียนให้คุณคุณอ่านดังนี้ครับ
 

สภาพธุรกิจที่ไม่ปกติสาเหตุจาก Digital Disruption ทบเท่าทวีคูณด้วยการใช้เทคโนโลยี่ที่ทำให้การแข่งขันรุนแรงมากขึ้น ผู้ล้าหลังในธุรกิจมีคำตอบให้เลือกไม่มากเพราะถูกโจมตีด้วยความคิดใหม่ๆมากมาย ที่ท้าทาย ทำให้เกิดอาการคล้ายๆกับ Technology Shock โดยเฉพาะ

 

ผู้บริหารรุ่น Boomer (2489-2507) ที่ Gen Y(2523-2540)ผู้เกิดมาพร้อมใช้เทคโนโลยี่สร้างขึ้นเพื่อจับกลุ่มของตนและกลุ่ม Gen Z ที่เป็นผู้ยึดกุมพลังของเศรษฐกิจยุคดิจิตอลอยู่ถ้าผมจะปลอบใจคุณว่าโลกยังคงเหมือนเดิม
 

ความต้องการทางการตลาดยังเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือความเร็วในการตอบสนองผู้บริโภคที่เป็นเฉพาะตน (Fast&Service) อยากจะย่อสั้นๆแบบนี้ ชัดเจนนะครับว่า ความเร็วบวกกับการพยายามตอบสนองความต้องการของแต่ละปัจเจกมีมากขึ้นซึ่งตอบสนองได้ด้วยความเร็วของดิจิตอล
 

 

หากคุณเข้าใจแบบนี้ก็จะมีคำตอบต่อการบริหารมากขึ้น ส่วนที่เพิ่มขึ้นมาจากการตอบสนองก็คือการดูแลหรือพิจารณาว่าจะบริหารจัดการกับปัจจัยการตลาดอื่นๆอย่างไร แต่สิ่งที่จำเป็นคือการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน
 

Brand Value ยังคงเล่นบทบาทสำคัญแต่ผู้ท้าชิงจะโจมตีด้วยสิ่งแตกต่างกว่า ทางเลือกที่มากกว่าและความคิดที่ใหม่กว่า

 

คำตอบที่ดูเหมือนเป็นการเหมารวมคือ Chaos Management ที่แปลว่า การปรับตัว การคิดริเริ่มสิ่งใหม่ การสร้างสรรค์ ของทุกองคาพายพในองค์กรเพื่อรับมือกับอนาคตและสิ่งโจมตีที่คาดไม่ถึงจากภายนอก

ทีมเป็นตัวชี้วัดว่าคุณจะทำได้อย่างที่ว่าหรือไม่
 

องค์กรใหญ่ที่เคลื่อนไหวได้เร็วจะกินรวบปลาเล็กที่ Shock น้ำ แต่หากปลาเล็กเต็มไปด้วยความคิดใหม่ๆ(Start Up)ก็รอดแต่ต้องเร็วกว่าปลาใหญ่ที่เปรียวขึ้นและไม่ว่าปลาใหญ่หรือปลาเล็กก็ว่ายกันอยู่ในบึงเดียวกัน(บึงน่าจะแสดงถึงความแคบของโลกใบนี้ได้ดีกว่ามหาสมุทร)ต่างต้องอยู่รอด
 

คุณและผมต่างมีความสามารถในการปรับตัวและการปรับตัวนั้นจะชี้ผลของมันโดยเร็วกว่าที่เราคิดครับ
 

ภาพประกอบ จากหนังสือ Business as Unusual

 

วิทยากร

อ.วิสุทธิ์ ตันติตยาพงษ์