บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
1.9K
2 นาที
17 สิงหาคม 2564
รวมข้อดี-ข้อเสีย “ผ่อนสินค้า 0%” ใครได้ประโยชน์?
 

ในสถานการณ์ที่คนส่วนใหญ่ “ไร้เงินสด” ทำให้กลยุทธ์ “ผ่อนสินค้า 0%” ได้รับความสนใจมาก สังเกตว่าหากร้านไหน สินค้าใดจัดโปรตัวนี้ขึ้นมา คนส่วนใหญ่ตัดสินใจง่าย มองผิวเผินเรื่องนี้ต่างก็พึงพอใจด้วยกันทุกฝ่าย ซึ่งก็เป็นเรื่องน่าสนใจว่าตกลงแล้ว “เรื่องนี้ใครได้ประโยชน์สูงสุดกันแน่”


ภาพจาก freepik.com

ตามข้อมูลการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเมื่อปี 2563 พบว่าปริมาณการใช้จ่ายรวม 173,255.68 ล้านบาท มีการเบิกเงินสดล่วงหน้าเพิ่มขึ้น 9.18% ขณะที่ยอดค้างชำระเกิน 3 เดือน เพิ่มขึ้น 13.95% และยอด
สินเชื่อคงค้างเพิ่มขึ้น 9.06% และเพื่อให้ทุกคนมองเห็นภาพชัดเจน www.ThaiFranchiseCenter.com จะลองไล่เรียงให้เข้าใจว่ากลยุทธ์นี้แท้ที่จริงใครได้ประโยชน์มากที่สุด
 
กลไกของกลยุทธ์ “ผ่อนสินค้า0%”
 

ภาพจาก freepik.com

สมมุติว่าเราอยากซื้อสมาร์ตโฟน ราคา 30,000 บาท โดยสามารถผ่อนจ่ายผ่านบัตรเครดิตด้วยดอกเบี้ย 0% นาน 10 เดือนในกรณีนี้ผู้ที่เกี่ยวข้องจะมีทั้งหมด 3 ฝ่ายคือ
  1. ลูกค้า
  2. ร้านค้า
  3. สถาบันการเงินเจ้าของบัตรเครดิต
สำหรับลูกค้า แน่นอนว่าจะได้สมาร์ตโฟนกลับไปใช้เลยเมื่อตัดสินใจซื้อ โดยที่มีหน้าที่ผ่อนชำระค่าบัตรเครดิตเดือนละ 3,000 บาทให้ครบตามระยะเวลาที่กำหนดคือ 10 เดือน สำหรับร้านค้า จะได้รับเงินค่าขายสินค้าจากสถาบันการเงินทันทีเช่นกัน ส่วนสถาบันการเงินหรือผู้ออกบัตรเครดิต มีหน้าที่เรียกเก็บเงินจากลูกค้าตามระยะเวลาที่ผ่อนคือ 10 เดือน  มองผิวเผินเรื่องนี้สถาบันการเงินน่าจะเสียเปรียบมากที่สุดแต่หากเรามาวิเคราะห์แยกย่อยลงไปจะพบว่า
 
ประโยชน์ที่เกิดกับ “สถาบันการเงิน”
 

ภาพจาก freepik.com
  1. การที่สถาบันการเงินยอมให้เราซื้อสินค้าด้วยการผ่อน 0% ทำให้ผู้ถือบัตรเครดิตใบนั้นๆ เกิดความผูกพันกับบัตร และเกิดการใช้งานอย่างต่อเนื่อง เพราะในระหว่างนั้น บัตรดังกล่าว มีการผ่อนสินค้าหลายเดือนติดต่อกัน
  2. ผู้ใช้งานบัตรเครดิตจำนวนมาก มีบัตรเครดิตมากกว่า 1 ใบ ฉะนั้น สถาบันการเงินต่างๆ จึงเกิดการแข่งขันแย่งชิงลูกค้า หากสถาบันการเงินใดมีแรงจูงใจที่ทำให้คนใช้บัตรของตัวเอง เช่น ผ่อน 0% ได้, ใช้บัตรเครดิตเป็นส่วนลดได้ ย่อมทำให้ผู้ใช้งานเลือกใช้บัตรเครดิตของสถาบันการเงินที่มีทางเลือกมากกว่า
  3. การที่สถาบันการเงินยอมให้เราซื้อสินค้าด้วยการผ่อน 0% จะทำให้โอกาสที่ผู้ถือบัตรตัดสินใจปิดการใช้งานบัตรเครดิตนั้นๆ น้อยลง เนื่องจากผู้ถือบัตรมีภาระผูกพันกับบัตรเครดิตใบนั้นๆ อยู่
  4. สถาบันการเงินได้รับค่าธรรมเนียมจากร้านค้าที่นำเครื่องรูดบัตรไปให้บริการกับลูกค้า 2% จากราคาสินค้า ซึ่งเราอาจจะสังเกตเห็นได้ว่า ร้านค้าบางร้านไม่อยากแบกรับค่าธรรมเนียมดังกล่าว จึงมีค่าชาร์จบัตรเครดิตจากลูกค้า 2-3%
  5. หากลูกค้าผ่อนชำระค่าสินค้าไม่ตรงตามระยะเวลาที่กำหนด จะมีค่าธรรมเนียมในการทวงถาม เช่น จดหมายทวงถามหนี้บัตรเครดิต, SMS ทวงถาม, เจ้าหน้าที่โทรมาทวงถาม โดยบางสถาบันการเงินอาจยกหน้าที่ดังกล่าวให้กับเอกชนแห่งอื่นเป็นผู้ทำหน้าที่แทน
  6. หากผู้ถือบัตรเครดิตผ่อนชำระค่าสินค้าเกินระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งสถาบันการเงินจะคิดอัตราดอกเบี้ย 18% ต่อปีทันที เช่น ราคาสินค้า 50,000 บาท สถาบันการเงินคิดดอกเบี้ยจากยอดเต็ม คือ 50,000 บาท ไม่ได้คิดจากยอดคงเหลือที่มีการผ่อนไปแล้ว  บวกดอกเบี้ย 18% ต่อปี เท่ากับ 59,000 บาท 
ประโยชน์ที่เกิดกับ “ร้านค้า”
 

ภาพจาก freepik.com
  1. การที่สถาบันการเงินยอมให้ผู้ถือบัตรเครดิตซื้อสินค้าด้วยการผ่อน 0% ย่อมทำให้ลูกค้าเกิดการตัดสินใจซื้อสินค้าภายในร้านมากขึ้น และเร็วขึ้น 
  2. ร้านค้ามียอดขายสินค้าเพิ่มมากขึ้น
  3. ร้านค้าไม่ต้องแบกรับความเสี่ยงที่ลูกค้าจะไม่จ่ายเงินให้กับทางร้าน แต่ให้สถาบันการเงินเข้ามาแบกรับในเรื่องของการผ่อนชำระให้
  4. ร้านค้าไม่ต้องเช็กเครดิตของลูกค้าที่จะมาซื้อสินค้าภายในร้าน เพราะลูกค้าที่ถือบัตรเครดิตย่อมได้รับการ ตรวจสอบเครดิตมาแล้วจากทางสถาบันการเงิน
นอกจากนี้กับดักของคำว่า 0% ยังมีอีกมากมายเช่นดอกเบี้ย 0% เฉพาะ 3 เดือนแรก ซึ่งถ้าเราซื้อสินค้าเงินผ่อน หรือกู้เงินซื้อบ้านที่มีโปรโมชั่นแบบนี้ จะทำให้ผ่อนด้วยจำนวนเงินที่จ่ายเท่ากันต่อเดือนในช่วงแรกและไม่เสียดอกเบี้ย ฉะนั้นกับดักของดอกเบี้ย 0% แบบมีเงื่อนไขนี้ ก็คือ โปรโมชั่นไม่เสียดอกเบี้ยถึง 3 เดือน 6 เดือน
 

ภาพจาก freepik.com

ซึ่งส่วนใหญ่จะร่วมรายการกับสินค้าที่มีมูลค่ามาก เพราะมีดอกเบี้ยเยอะ การล่อซื้อด้วยโปรโมชั่นสุดพิเศษนี้ จึงทำมาสำหรับคนที่ต้องการลดหย่อนดอกเบี้ยจริง ๆ เพียงเพราะไม่ต้องการจ่ายดอกในระยะสั้น และทำให้เราตัดสินใจซื้อสินค้าชิ้นนั้นได้ง่ายขึ้น

เพราะเรายอมที่จะไม่เสียดอกเบี้ยช่วงแรก แต่สุดท้ายเมื่อเราเลือกเงื่อนไขนี้ ก็เท่ากับว่าเราจะต้องเสียดอกเบี้ยช่วงหลังไปตลอด จนกว่าจะผ่อนสินค้าหมดซึ่งถ้าเรามีวินัยในการผ่อนชำระ เรื่องนี้ก็จะเป็นประโยชน์สำหรับเรา แต่ถ้าใช้จ่ายแบบไม่คิดหน้าคิดหลังให้ดี คำว่า 0% จะทำให้ลูกค้าเป็นฝ่ายเสียเปรียบได้มากที่สุดเช่นกัน
 
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
 
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 

 
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ www.thaifranchisecenter.com/document/
 
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter
 
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
610
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
508
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
476
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
426
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
412
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
406
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด