บทความทั้งหมด    บทความแฟรนไชส์    การเริ่มต้นธุรกิจแฟรนไชส์    ความรู้ทั่วไประบบแฟรนไชส์
2.4K
4 นาที
17 สิงหาคม 2564
แปลงโฉม “ร้านของชำ” สู่ร้านแฟรนไชส์สะดวกซื้อขายดีใน Tmall จีน
 

เชื่อว่าคนส่วนใหญ่กำลังคิดว่า “อีคอมเมิร์ซ” เข้ามาทำลาย “ธุรกิจค้าปลีก” แต่จริงๆ แล้วอีคอมเมิร์ซเข้ามาเป็นพันธมิตร และมีส่วนช่วยพัฒนาธุรกิจค้าปลีกต่างๆ ให้มีมาตรฐาน เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น เพิ่มยอดขาย และอยู่รอด
 
ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น วันนี้ www.ThaiFranchiseCenter.com มีข้อมูลมานำเสนอให้ทราบครับ 
 
อีคอมเมิร์ซ ทุบค้าปลีกล้าสมัย
 
ภาพจาก bit.ly/37SHrY1 

จากกรณีข่าวที่ออกมาอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับการปิดตัวของร้านค้าและห้างสรรพสินค้าจนร้างเป็นสุสานผี ทำให้หลายคนมองว่าธุรกิจค้าปลีกถึงคราวล่มสลายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่อย่าพึ่งไปเชื่อทั้งหมด เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นคือการเขย่าโมเดลธุรกิจค้าปลีกที่ล้าสมัย บริษัทหรือธุรกิจต่างๆ ที่ควบคุมและปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ได้ ก็อยู่รอด และเจริญเติบโต  
 
ยกตัวอย่างกรณี Tmall เป็นเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกรองจาก Taobao เป็นแพลตฟอร์มค้าปลีกออนไลน์แบบ B2C สำหรับธุรกิจในประเทศจีนและต่างประเทศ เพื่อขายสินค้าแบรนด์เนมให้กับผู้บริโภค โดยทั้ง Tmall และ Taobao เป็นธุรกิจในเครือของ Alibaba Group 
 
Alibaba ดึงร้านชำ สู้ศึกค้าปลีกสมัยใหม่ 
 
โดย Alibaba Group ได้เข้ามาปฏิวัติผู้ค้าปลีกอิสระ เช่น ร้านโชว์ห่วย ร้านขายของชำ ร้านสะดวกซื้อ ด้วยระบบแฟรนไชส์ เพื่อปรับปรุงรูปแบบร้านค้าและจัดหาเทคโนโลยี ซัพพลายเออร์ และผลิตภัณฑ์ ให้มีมาตรฐานและทันสมัยมากขึ้น  
 
อาลีบาบายังเป็นผู้จัดจำหน่ายให้ร้านสะดวกซื้อสำหรับคุณแม่และร้านป๊อป ให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของระบบอาลีบาบาและนำแบรนด์เทคโนโลยีและไลฟ์สไตล์ของอาลีบาบาขยายไปทั่วเมืองใหญ่และเมืองเล็กของจีน จนกระทั่งมีร้านค้าอิสระกว่า 2,000 ร้านเข้าสู่แพลตฟอร์มของอาลีบาบา และสร้างคลังสินค้าอีคอมเมิร์ซทั่วชนบทในระยะเวลาไม่กี่ปี 
 
Weijun Grocery พันธมิตรร้านแรก Tmall 
 
ภาพจาก bit.ly/3xXRdCG

ในเมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง มีร้านขายของชำแห่งหนึ่งชื่อ Weijun Grocery ได้เข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับ Tmall โดยนอกจากหน้าร้านยังมีโลโก้ Tmall รวมถึงชื่อเดิมของร้าน Weijun Grocery โดยภายในร้านจะมีการปรับกรุง ตกแต่งใหม่ให้มีความทันสมัยมากขึ้น เพื่อให้เข้ากับความทันสมัยและการเป็นหุ้นส่วนของอาลีบาบา 
 
โดยเจ้าของร้านแห่งนี้มาจาก Wenzhou เมืองที่ไม่ไกลนัก และเปิดร้านสะดวกซื้อมาตั้งแต่ปี 2009 เนื่องจากร้านอยู่ใกล้กับวิทยาเขตของมหาวิทยาลัยเจ้อเจียง ขายเครื่องดื่ม และขนมให้นักเรียน แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ได้ร้านสะดวกซื้อ เช่น 7-Eleven และ FamilyMart ได้เปิดทุกที่ในหางโจว ดึงดูดคนจีนไปใช้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มีทั้งขายออนไลน์ จึงทำให้กำไรของร้านขายของชำลดลงอย่างรวดเร็ว บางแห่งก็ตาย รวมถึงร้าน Weijun Grocery ก็อยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบากเช่นกัน
 
แต่ในวิกฤตย่อมมีโอกาส เมื่อ Tmall ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับทางร้าน Weijun Grocery ถือเป็นร้านสะดวกซื้อสำหรับคุณแม่และร้านป๊อปแห่งแรกร่วมเป็นพันธมิตรกับ Tmall หลังจากนั้นพบว่ายอดขายและกำไรเพิ่มขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ 
 
ภาพจาก bit.ly/3g9m4pS
 
นอกจาก Tmall ช่วยปรับปรุงร้าน ติดโลโก้ Tmall และเพิ่มชั้นวางสินค้าจากร้านค้าออนไลน์ Tmall อีก 2-3 ชั้น พัฒนาแอปฯ มือถือ Ling Shou Tong มีระบบวิเคราะห์ข้อมูล เหมือนร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-11 ที่ได้ติดตั้งระบบดิจิตอลนี้ 
 
ระบบ Ling Shou Tong ในภาษาจีนคือ “Retail Integrated” โดยร้าน Weijun Grocery ต้องใช้ระบบนี้เพื่อบันทึกทุกการขาย (ระบบแคชเชียร์) และติดตามสินค้าคงคลัง ระบบนี้อ้างว่าใช้คลาวด์คอมพิวติ้งของอาลีบาบา เพื่อช่วยเจ้าของร้านค้าเพิ่มประสิทธิภาพการจัดซื้อผลิตภัณฑ์และเพิ่มยอดขาย โดย แอปฯ ช่วยให้เจ้าของร้านรู้ว่าอะไรเกิดขึ้นในร้าน แม้ว่าจะเดินออกไปนอกร้าน เพียงแค่ตรวจสอบแอปฯ ในโทรศัพท์สมาร์ทเท่านั้น แต่เจ้าของร้านหลายคน ต่างก็มีความกังวลอยู่ลึกๆ ว่าอาลีบาบาจะมีข้อมูลการทำธุรกรรมทั้งหมดของร้านขายของชำมากเกินไป 
 
หากย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 28 ส.ค. 2560 อาลีบาบาประกาศตั้งเป้านำร้านขายของชำกว่า 1 ล้านแห่งเข้าสู่ระบบค้าปลีกของ Tmall ภายในเดือนมีนาคม 2561 (ไม่มีข้อมูลที่เปิดเผยว่า พวกเขาบรรลุเป้าหมายหรือไม่) 
 
นอกจากร้านขายของชำและโชว์ห่วยจะใช้เทคโนโลยีของบริษัทอีคอมเมิร์ซแล้ว ยังมี Mega-store หันมาใช้แอปฯ ของอาลีบาบาไปยังเครื่องจำหน่ายรถยนต์อัตโนมัติ โดยอาลีบาบาเปิดตัวเครื่องจำหน่ายอัตโนมัติสำหรับรถยนต์กับ Ford Motor Company ให้ผู้ซื้อสามารถเลือกจาก 100 คันบนแอปฯ มือถือ TMall ของบริษัทและทดลองขับได้ทันที
 
Amazon พัฒนาสู่ร้านสะดวกซื้อ Amazon Go
 
ภาพจาก bit.ly/3jZ7u5w

นอกจากนี้ ยังมีการซื้อหุ่นยนต์ในประเทศโดยไม่ต้องชำระเงินของ Amazon และในสหรัฐอเมริกา Amazon ได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการค้าปลีกเช่นกัน เพิ่งเข้าซื้อกิจการของ Whole Foods รวมถึงเพิ่งเปิดตัวร้านสะดวกซื้อ Amazon Go พร้อมรูปแบบการช็อปปิ้งแบบใหม่โดยไม่ต้องชำระเงินภายในร้าน (ไม่มีแคชเชียร์) 
 
ประโยชน์ร้านค้าสมัครร่วมพันธมิตร Tmall 
 
ภาพจาก  https://about.tmall.com/

สำหรับร้านค้าปลีก รวมถึงร้านขายของชำ จะได้รับประโยชน์ในระยะสั้นและระยะยาวหลายประการจากร่วมเป็นพันธมิตรกับทาง Tmall ได้แก่ 1.การสนับสนุนทางการเงินสำหรับการตกแต่งร้านใหม่ 2.มีแบรนด์ Tmall และแบรนด์ร้านเดิม 3.ซื้อสินค้าบางส่วนในราคาต่ำจากซัพพลายเออร์ 4.บริหารจัดการร้านได้ง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น และ 5.ช่วยประหยัดค่าจ่ายได้นับล้านบาท ไม่ว่าจะเป็นการการโฆษณาประชาสัมพันธ์ ในการแข่งขันกับร้านสะดวกซื้อรายใหญ่ 
 
อย่างไรก็ตาม ตามรายงานของ Reuters Ling Shou Tong ร้านค้าปลีกในจีนที่เข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับทาง Tmall ต้องจ่าย 3,000 หยวน ($454.47) และค่าธรรมเนียมแพลตฟอร์มรายปี 3,000 หยวน เพื่อใช้งานแอปฯ Ling Shou Tong 
 
ภาพจาก https://www.tmall.com/
 
โดยร้านค้าปลีกเครือข่าย (แฟรนไชส์) สามารถมีอำนาจต่อรองในการซื้อสินค้ากับซัพพลายเออร์และผู้ซื้ออื่นๆ ที่สำคัญ อาลีบาบาจะรวบรวมข้อมูลพันธมิตรกับร้านสะดวกซื้อต่างๆ และร้านค้าปลีกอื่นๆ ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ผ่าน Tmall และ Taobao อาลีบาบามีข้อมูลการซื้อออนไลน์จำนวนมาก และผ่าน Ling Shou Tong อาลีบาบาจะมีข้อมูลออฟไลน์ของร้านค้าหลายล้านแห่ง และในประเทศจีน 85% ของยอดขายปลีกยังคงทำแบบออฟไลน์
 
ร้านค้าในเมืองไทยเข้าร่วมพันธมิตร Tmall ได้หรือไม่ 
 

ภาพจาก https://bit.ly/3spUbif
 
ตามรายงานข้อบนเว็บไซต์ https://chinafastway.com/3613/how-to-apply-tmall-global/ ระบุว่าผู้ประกอบการร้านค้าในต่างประเทศสามารถสมัครเป็นพันธมิตรกับทาง Tmall ได้ ดังต่อไปนี้  
 
Tmall Global รับร้านค้า 6 ประเภท ได้แก่ Supermaket, Industry, Brand flagship stores, ร้านค้าพิเศษ, ร้านแฟรนไชส์, ร้านแฟรนไชส์กาแล็กซี่ ทั้งนี้ร้านประเภท Supermaket และ Industry นั้นจำกัดเฉพาะผู้ที่ได้รับเชิญเท่านั้น
 
เงื่อนไขและคุณสมบัติการสมัคร
  • เป็นเจ้าของนิติบุคคลในต่างประเทศ
  • เป็นเจ้าของ หรือมีอำนาจใช้แบรนด์สินค้านั้นๆ
  • ต้องเป็นเครื่องหมายการค้าที่จดทะเบียนในต่างประเทศมานานกว่า 1 ปี และแบรนด์มีการขายปลีกในต่างประเทศ
  • หากบริษัทที่สมัครเป็นตัวเเทนแบรนด์ บริษัทจะต้องได้รับมอบอำนาจ ที่ออกโดยเจ้าของเครื่องหมายการค้า ณ ประเทศที่นำพักอาศัย
เอกสารที่ต้องเตรียม
  • เอกสารรับรองเครื่องหมายการค้าไทย
  • เอกสารรับรองเครื่องหมายการค้าจีน
  • หนังสือรับรองบริษัท พร้อมแปลให้เรียบร้อย
  • บอจ.5
  • บัญชีธนาคาร
  • หนังสือเดินทาง
  • หนังสือมอบอำนาจ
  • หนังสือรับรองการผลิตสินค้าจากโรงงาน
  • แผนการตลาด
  • เอกสารข้างต้นต้องแปลให้เรียบร้อย พร้อมรับรองเอกสารทุกฉบับ
ผู้ประกอบการท่านใดสนใจสมัคร คลิก https://openshop.tmall.hk 
 
ภาพจาก bit.ly/3mb5Ujp

#เลือกประเภทร้านค้าที่ต้องการ, กรอกข้อมูล, อัพโหลดเอกสาร และ submit จากนั้นก็รอร้านค้าอนุมัติปกติจะใช้เวลาไม่เกิน 40 วัน ระบบจะแจ้งว่าเราอยู่ในขั้นตอนไหน และเหลืออีกกี่ขั้นตอน
 
#เมื่อร้านได้รับการอนุมัติ จากนั้นต้องจ่ายค่ามัดจำ ซึ่งสินค้าแต่ละประเภทจะแตกต่างกัน เริ่มต้น 30,000 หยวน สูงสุด 800,000 หยวน
 
#นอกจากค่ามัดจำร้านค้าแล้ว ผู้ประกอบการต้องจ่ายค่าบริการใช้แพลตฟอร์มรายปีประมาณ 60,000 หยวน หรือ 300,000 บาท แต่ถ้ามียอดขายเกิดขึ้น ทาง Tmall จะหักค่า GP ไม่เกิน 5%
 
จากนั้นก็ทำการตกแต่งร้านค้า เพื่อเตรียมค้าขายได้ และ Tmall Global จะมีการถอนเงินอัตโนมัติ เมื่อยอดขายครบ 5,000 USD เข้าบัญชีที่ผูกไว้ในขั้นตอนการสมัคร และเราสามารถเลือกสกุลเงินอื่นๆ ได้เช่นกัน
 
เมืองไทยมี “ร้านถูกดี มีมาตรฐาน”
 

ภาพจาก bit.ly/3AMA9kX

ได้เห็นธุรกิจยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซอย่าง อาลีบาบา ในประเทศจีน แปลงโฉมร้านค้าปลีกรายย่อย เช่น ร้านขายของชำ ร้านโชว์ห่วย พัฒนาระบบการขายแข่งขันกับร้านสะดวกซื้อสมัยใหญ่ 7-Eleven และ FamilyMart ไปแล้ว
 

ภาพจาก bit.ly/3AMA9kX
 
กลับมาในเมืองไทยก็มีเช่นกัน หากจำกันได้ บริษัท ทีดี ตะวันแดง จำกัด ของ คาราบาวกรุ๊ป นำโดย “คุณเสถียร เศรษฐสิทธิ์” ได้เปิดตัวแบรนด์ “ร้านถูกดี มีมาตรฐาน” เพื่อเป็นการยกระดับโชว์ห่วยของไทย สู่ร้านสะดวกซื้อที่ทันสมัย ปรับหน้าร้าน พัฒนาระบบการจัดการหน้าร้านและหลังร้านที่ดี ถือว่าประสบความสำเร็จมาแล้วที่นครปฐม ก่อนจะขยายไปขอนแก่น และพิษณุโลก ตามมาด้วยแรงกระเพื่อม ในวงการโชว์ห่วยตามท้องถิ่นต่างๆ ทั่วประเทศ
 
ที่ผ่านมามีร้านค้าสนใจติดต่อขอเข้ามาเป็นพาร์ทเนอร์จำนวนมาก และมีการปรับโชว์ห่วยของชาวบ้านให้เป็นร้านถูกดีแล้วกว่า 200 สาขา โดยในปี 2564 ตั้งเป้าขยายเป็น 5,000 สาขา และไปให้ถึง 30,000 สาขาในอีก 5 ปีข้างหน้า

 

ภาพจาก bit.ly/3AMA9kX
 
โดยบริษัทฯ เข้าไปช่วยลงทุนเทคโนโลยีต่างๆ ทั้งการจัดการสต็อกสินค้า และระบบบัญชี คิดเป็นงบลงทุนกว่า 1 ล้านบาทต่อร้าน ขณะที่เจ้าของร้านจะลงทุนในการปรับปรุงโครงสร้างอื่นๆ ของร้าน เฉลี่ยอยู่ที่ 1.5 แสนบาท สำหรับรายได้ของธุรกิจ จะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือให้ร้านค้า 85% และบริษัท 15% เราต้องการให้ร้านค้าอยู่ได้ เมื่อร้านค้าอยู่ได้ บริษัทก็อยู่ได้
 
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
 
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
 
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ www.thaifranchisecenter.com/document
 
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter 
 
อ้างอิงข้อมูล 
บทความแฟรนไชส์ยอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
6 แฟรนไชส์บริการ! สร้างรายได้ 24 ชม.
846
ลงทุนตามเทรนด์ฮิต! 7 แฟรนไชส์ไอเดียเงินล้าน ปี ..
588
ตั้งแถวใหม่ 10 แฟรนไชส์ น่าลงทุน ครึ่งปีหลัง 68
506
แฟรนไชส์ชาจีน Good Me 古茗 ดังจนถูกก๊อป 600 สาขา
481
“ปิ้งย่าง” ธุรกิจหมื่นล้าน! มีแฟรนไชส์ไหน น่าลง..
472
Shake Shack จากรถเข็นขายฮอทดอกในนิวยอร์ก สู่แฟรน..
447
บทความแฟรนไชส์มาใหม่
บทความอื่นในหมวด