บทความทั้งหมด    บทความแฟรนไชส์    การเริ่มต้นธุรกิจแฟรนไชส์    ความรู้ทั่วไประบบแฟรนไชส์
1.8K
3 นาที
12 ตุลาคม 2563
สรุปความคิดเห็นต่อร่างประกาศฯ แนวทางพิจารณาการปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์ (ฉบับที่ 2)
 

หลังจากเมื่อวันที่ 22 กันยายน 2563 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า เรื่อง แนวทางพิจารณาการปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์ (ฉบับที่ 2) โดยเป็นการปรับปรุงประกาศคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า เรื่อง แนวทางพิจารณาการปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์ ลงวันที่ 30 ตุลาคม 2562 ให้มีความเหมาะสมมากยิ่งขึ้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 17 (3) แห่งพระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2560 คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
 
“ข้อ 4 การดำเนินการเกี่ยวกับการขยายสาขาโดยแฟรนไชส์ซอร์เป็นผู้บริหารและดำเนินการด้วยตนเองหรือให้สิทธิแก่แฟรนไชส์ซีรายใดหรือบุคคลอื่นในการประกอบธุรกิจแฟรนไชส์ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม และไม่ทำให้เกิดความเสียหายแก่แฟรนไชส์ซีตามมาตรา 57 แห่งพระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2560 ให้แฟรนไชส์ซอร์แจ้งให้แฟรนไชส์ซีรายที่อยู่ในพื้นที่ที่ใกล้เคียงที่สุดได้ทราบและให้สิทธิในการเปิดสาขาใหม่แก่แฟรนไชส์ซีรายนั้นก่อน เว้นแต่แฟรนไชส์ซีรายเดิมมีผลประกอบการที่ไม่ผ่านเกณฑ์ที่แฟรนไชส์ซอร์กำาหนดอย่างชัดเจนและแจ้งให้ทราบล่วงหน้าแล้ว


ภาพจาก bit.ly/2SNO9Hk

ทั้งนี้ แฟรนไชส์ซอร์จะต้องให้ระยะเวลาในการพิจารณาแก่แฟรนไชส์ซีไม่น้อยกว่า 30 วัน ในการแจ้งกลับในการพิจารณาพื้นที่ที่ใกล้เคียงที่สุดตามวรรคหนึ่งให้พิจารณาจากปริมาณความต้องการสินค้า หรือบริการพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ที่เกี่ยวข้อง และปัจจัยสภาพการแข่งขันในตลาดประกอบกัน”
 
วันนี้ www.ThaiFranchiseCenter.com จะนำเสนอข้อความคิดเห็นของบุคคลต่างๆ ในแวดวงธุรกิจแฟรนไชส์ไทย ต่อร่างประกาศคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า เรื่อง แนวทางพิจารณาการปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์ (ฉบับที่ 2) โดยรับฟังความคิดเห็นทางระบบเครือข่ายสารสนเทศของสำนักงาน (www.otcc.or.th) ตั้งแต่วันที่ 29 พฤษภาคม 2563 ถึงวันที่ 27 มิถุนายน 2563 โดยบทสรุปความคิดเห็นของแต่ละคนต่อร่างดังกล่าว มีดังนี้


 
นายศิริศักดิ์ จึงถาวรรณ คณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา
 
 เห็นด้วยกับข้อความที่แก้ไขใหม่ แต่อยากให้มีเงื่อนไขคุ้มครองแฟรนไชส์ซี ในกรณีที่แฟรนไชส์ซี ไม่ต้องการขยายสาขาเพิ่ม หากยังมีความสามารถในการให้บริการแก่ผู้บริโภคได้
 
นางสาวศุฑารา เชาวน์สุขุม ข้าราชการบำนาญ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
 
เห็นด้วย แต่อย่างไรก็ตามจะมีข้อกำหนดอย่างไร หรือให้ตกลงในเงื่อนไขสัญญาถึงระยะทางความต้องการของตลาดในแต่ละพื้นที่ เพื่อให้เป็นที่ยอมรับกันก่อน 
นายกมลชัย เวทีบูรณะ
 
“การให้พิจารณาจากเงื่อนไขในสัญญาแฟรนไชส์… ประกอบกัน” มีความไม่ชัดเจน กล่าวคือ ข้อความนี้ ทำให้เกิดการตีความได้หลายแนวทาง เช่น
  1. สัญญาแฟรนไชส์จะต้องกำหนดให้ มีข้อความเรื่องการขยายสาขาในสัญญาเสมอ
  2. หากเงื่อนไขในสัญญากำหนดเรื่องการขยายสาขาไว้อย่างไรก็ให้ปฏิบัติตามนั้น เช่น สัญญาอาจกำหนดให้สิทธิในการพิจารณาการขยายสาขาเป็นสิทธิขาดของแฟรนไชส์ซอร์แต่เพียงผู้เดียว (จึงไม่จำเป็นจะต้องให้โอกาสแฟรนไชร์ซีก่อน) หรือแม้กระทั่งกำหนดว่า หากแฟรนไชส์ซอร์แจ้งให้แฟรนไชส์ซีต้องเปิดสาขาเพิ่ม และแฟรนไชส์ซีปฏิเสธ ให้ถือว่าแฟรนไชส์ซีผิดสัญญา เป็นต้น
  3. ให้พิจารณาเงื่อนไขในสัญญาทั้งฉบับประกอบการพิจารณาการขยายสาขา (ไม่ใช่เงื่อนไขเรื่องการขยายสาขาโดยตรง)

 
นางสาวเจนทิพย์ ฤกษ์ศานติวงษ์ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน)
 
การให้พิจารณาจากเงื่อนไขในสัญญาแฟรนไชส์ นั้น จะต้องกำหนดเงื่อนไขไว้อย่างไร หรือเพียงใดจึงจะกระทำได้
  1. กรณีแฟรนไชส์ซีรายเดิมขอใช้สิทธิเปิดสาขาใหม่แฟรนไชส์ซอร์จะใช้ดุลพินิจให้สิทธิกับรายใหม่ได้หรือไม่ หากมีเหตุผลทางธุรกิจ
  2. การปฏิเสธผู้ประสงค์เข้าเป็นแฟรนไชส์ซีรายใหม่ อาจจะไม่เป็นธรรมในทางการค้า กีดกันทางการค้า 
นายสมัครชัย มีเดช ส่วนส่งเสริมธุรกิจแฟรนไชส์ กองส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
 
  1. การกำหนดให้แฟรนไชส์ซอร์ จะต้องแจ้งให้แฟรนไชส์ซีรายที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงที่สุดได้ทราบและให้สิทธิในการเปิดสาขาใหม่แก่แฟรนไชส์ซีรายนั้นก่อนเป็นแนวทางที่คุ้มครองสิทธิให้แก่แฟรนไชส์ซี เพื่อให้โอกาสตัดสินใจว่าต้องการเปิดสาขาใหม่บริเวณใกล้เคียงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม แนวทางดังกล่าวอาจทำให้แฟรนไชส์ซอร์ขาดความคล่องตัวในการขยายธุรกิจ รวมทั้งการให้ระยะเวลาในการพิจารณาแก่แฟรนไชส์ซีอย่างเหมาะสมในการแจ้งกลับ โดยไม่กำหนดระยะเวลาที่แน่นอน ทำให้การพิจารณาต้องใช้ดุลยพินิจเป็นรายกรณี
  2. การกำหนดให้แฟรนไชส์ซอร์ จะต้องพิจารณาปริมาณความต้องการสินค้าหรือบริการในพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ที่เกี่ยวข้อง และปัจจัยสภาพการแข่งขันในตลาดประกอบกัน หากต้องการขยายสาขาหรือให้สิทธิแก่แฟรนไชส์ซีรายใดในการประกอบธุรกิจแฟรนไชส์ ควรกำหนดรายละเอียดให้มีความชัดเจนว่าแฟรนไชส์ซอร์ต้องพิจารณาปัจจัยดังกล่าวอย่างไร 
นายพรเทพ วุ้ยยื้อ บริษัท ดอยช้าง แฟรนไชส์ แมเนจเม้นต์ จำกัด
  1. การแจ้งแฟรนไชส์ซีที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงที่สุด ควรมีคำจำกัดความที่ชัดเจน เนื่องจากแต่ละชนิดแฟรนไชส์จะมีลักษณะธุรกิจหรือบริการที่แตกต่างกันคำว่าใกล้ควรกำหนดอย่างชัดเจน ในเชิงระยะทางหรือขนาดความต้องการของผู้บริโภค
  2. หากต้องแจ้งและต้องตอบกลับเป็นลายลักษณ์อักษร เมื่อมีข้อโต้แย้งก็จะทำให้แฟรนไซส์ซอร์สูญเสียโอกาสได้ เนื่องจากแฟรนไซส์ซีส่วนใหญ่จะโต้แย้ง แม้ว่าขนาดของพื้นที่หรือความต้องการอาจไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินการของตัวเอง ยกตัวอย่างเช่น กรณีการเปิดในห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ แฟรนไชส์ซีจะโต้แย้งเพื่อต้องการดำเนินการเพียงเจ้าเดียวแม้ว่าความเหมาะสมและขนาดทางธุรกิจ และการเพิ่มบริการให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงได้อาจสมควรต้องมีมากกว่า 1 สาขาขึ้นไป ในกรณีนี้จะทำให้แฟรนไชส์ซอร์มีอำนาจในการแข่งขันสู้ผู้ประกอบธุรกิจรายใหญ่ๆ ที่ดำเนินการเองไม่ได้
ข้อเสนอแนะ ควรใช้เกณฑ์พิจารณาจากความเหมาะสมในขนาดของพื้นที่และธุรกิจ โดยทางแฟรนไซส์ซอร์ ต้องแจ้งให้แฟรนไชส์ซีที่ใกล้ที่สุดรับทราบ แต่ไม่ต้องรับการยินยอมอนุมัติยกเว้นในกรณีที่มีการโต้แย้งเท่านั้น 


นายปราณัตต์ เลาหไพโรจน์ บริษัท แชนด์เล่อร์ เอ็มเอชเอ็ม จำกัด
 
บริษัทเข้าใจดีว่าทางสำนักงานมีความจำเป็นที่ต้องปกป้อง Franchisee รายย่อยจากการถูกเอารัดเอาเปรียบโดย Franchisor รายใหญ่ เนื่องจากในอดีตอาจเคยมีกรณีที่ผู้ประกอบธุรกิจ Franchisor ต้องการบีบ Franchisee ด้วยการเปิดสาขาของตัวเอง หรือให้คนอื่นเปิดสาขาข้างเคียง และทำการกีดกันหรือกลั่นแกล้งจน Franchisee รายเดิมอยู่ไม่ได้ต้องปิดกิจการลงหรือขายกิจการให้แก่ผู้บริหารสาขาอื่น บริษัทเห็นด้วยว่าการกระทำเช่นนี้ผิดหลักการคุณธรรมทางธุรกิจ 


ภาพจาก facebook.com/dbdpromotion1
 
ดังนั้น บริษัท ขอเรียนเสนอให้มีการกำหนดข้อยกเว้นไว้ ว่าในกรณีที่ Franchisee มีผลประกอบการที่ไม่อยู่ในเกณฑ์ที่น่าจะสามารถดูแลสาขาใหม่ได้ ทาง Franchisor จะต้องกำหนดแผนการปรับปรุงการบริหารงานบางอย่างที่มีกำหนดเวลาชัดเจน (คล้ายๆ เป็นremedial period) ซึ่งถ้า Franchisee สามารถแก้ไขการบริหารงานให้อยู่ในหลักเกณฑ์ได้ ก็จะได้รับมอบสิทธิในการเปิดสาขาใหม่ แต่ถ้าไม่สามารถทำได้ในระยะเวลาที่เหมาะสม ทางฝั่ง Franchisor ก็จะสามารถมอบสิทธินั้นให้แก่ผู้ที่เหมาะสมต่อไป 
 
โดยบริษัทคิดว่าการทำแบบนี้น่าจะเป็นการประนีประนอมที่ดี โดยทางฝั่ง Franchisee ก็จะได้รับการปกป้องมิให้ถูกเอารัดเอาเปรียบ และจะได้โอกาสในการปรับปรุงเพื่อให้สามารถเปิดสาขาใหม่ได้ และในขณะเดียวกันทางฝั่ง Franchisor ก็จะสามารถขยายธุรกิจได้ด้วยวิธีที่เหมาะสมและชอบด้วยกฎหมาย ถึงแม้ Franchisee จะไม่มีความสามารถเพียงพอ
 
และบริษัทคาดว่า Franchisor รายใดที่มีจุดประสงค์มิชอบก็คงจะไม่กล้าทำอะไรที่เกินเลย ไม่ว่าจะเป็นการสร้างข้ออ้างว่า Franchisee เดิมบริหารจัดการได้ไม่ดีจึงต้องเข้าสู่แผนการปรับปรุงบริหารงาน เพราะระบบKPI ของ Franchise ทุกแห่งเป็นข้อมูลเปิดเผย ที่สามารถเปรียบเทียบกับสาขาอื่นๆ ได้โดยง่ายในกรณีที่มีการโต้แย้ง หรือไม่ว่าจะเป็นการจงใจกำหนดแผนการปรับปรุงการบริหารให้ยากเกินความเหมาะสม เพราะข้อมูลเหล่านี้เป็นข้อมูลที่ค่อนข้างเปิดเผย ที่สามารถเปรียบเทียบกับตัวเลขการบริหารงานที่ปกติของสาขาอื่นที่ผ่าน KPI ได้โดยง่าย
 
ทั้งหมดเป็นบทสรุปความคิดเห็นบางส่วนของบุคคลในแวดวงแฟรนไชส์ต่อร่างประกาศฯ แนวทางพิจารณาการปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์ (ฉบับที่ 2) ซึ่งมีผลบังคับแล้วแล้วตั้งแต่วันที่ 12 สิงหาคม 2563 เป็นต้นมา 
 
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
 
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
 
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ www.thaifranchisecenter.com/document
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter
 
อ้างอิงข้อมูล 
 
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
บทความแฟรนไชส์ยอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
6 แฟรนไชส์บริการ! สร้างรายได้ 24 ชม.
846
ลงทุนตามเทรนด์ฮิต! 7 แฟรนไชส์ไอเดียเงินล้าน ปี ..
588
ตั้งแถวใหม่ 10 แฟรนไชส์ น่าลงทุน ครึ่งปีหลัง 68
506
แฟรนไชส์ชาจีน Good Me 古茗 ดังจนถูกก๊อป 600 สาขา
481
“ปิ้งย่าง” ธุรกิจหมื่นล้าน! มีแฟรนไชส์ไหน น่าลง..
472
Shake Shack จากรถเข็นขายฮอทดอกในนิวยอร์ก สู่แฟรน..
447
บทความแฟรนไชส์มาใหม่
บทความอื่นในหมวด