ต้องบอกก่อนว่าเรื่องนี้เราไม่ได้มีเจตนาจะให้ทุกคนเชื่อ หรือไม่ได้มีเจตนาให้ทุกคนงมงาย ความเชื่อเป็นเรื่องของตัวบุคคล และสิ่งเหล่านี้ไม่ได้สอนไว้ในหลักการของศาสนา แต่ความจริงอีกเช่นกันว่า “กระแสไอ้ไข่ฟีเว่อร์” นั้นเกิดขึ้นในช่วงที่คนไม่รู้จะหันไปพึ่งพาอะไรที่จะทำให้ตัวเองมีโชคลาภ เงินทอง

 

กระแสของไอ้ไข่ไม่ต่างจากยุคที่คนสนใจบูชาจาตุคามรามเทพ แต่ที่เหนือกว่าเพราะเป็นยุค “โซเชี่ยล” กระแสจึงยิ่งแรงเป็นเท่าทวีคูณ www.ThaiFranchiseCenter.com นำเสนอบทความนี้เพื่อเป็นเกร็ดความรู้ เป็นสาระน่าสนใจ เพราะต้องยอมรับอีกจุดหนึ่งเช่นกันว่า “กระแสไอ้ไข่ฟีเว่อร์” ที่ว่านี้กระตุ้นเศรษฐกิจของนครศรีธรรมราชให้คึกคักได้ดีอย่างยิ่ง

 

 

ภาพจาก bit.ly/33aj3PS

“ไอ้ไข่” ถือเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่ทวด ถ้าว่ากันตามอายุจริงๆ คนรุ่นหลังน่าจะเรียกว่า “ปู่ไข่หรือตาไข่” แต่ที่ยังเรียกว่า “ไอ้ไข่” เพราะแท้จริงแล้วคำว่า “ไอ้ไข่”  ไม่ใช่ชื่อของรูปปั้นเด็ก แต่เป็นคำที่ชาวบ้านหรือคนท้องถิ่นทางภาคใต้มักจะเรียกเด็กเล็กๆ โดยทั่วไปว่า “ไอ้ไข่” โดยในเคสนี้ชาวบ้านมักจะพบ "เด็กวัด" คนนี้ออกมาปรากฏตัวให้เห็นอยู่เสมอ ทั้งๆ ที่วัดนี้ไม่มีเด็กวัยดังกล่าวอยู่อาศัยที่นี่เลย ชาวบ้านจึงซึ่งเชื่อกันว่าเป็นวิญญาณที่สถิตย์อยู่ ณ วัดเจดีย์แห่งนี้ และเรียกวิญญาณดวงนี้ว่า “ไอ้ไข่” ตั้งแต่นั้นมา

 

 

วัดเจดีย์เมื่อก่อนเป็นวัดที่รกร้างมาประมาณ 1,000 ปี แล้ว ได้บูรณะใหม่เมื่อปี พ.ศ. 2500 และในช่วงปีนั้นเอง ผู้ใดที่เข้ามานอนพักข้างแรมภายในบริเวณวัดเจดีย์ ถ้าไม่เอ่ยชื่อหรือบอกกล่าวไอ้ไข่ จะนอนพักผ่อนไม่ได้เลย เพราะมักจะมีการก่อกวน เช่น เมื่อทำท่าจะหลับจะมีเด็กเอามือมาตีศรีษะบ้าง ดึงขา ดึงแขนบ้าง ก่อกวนตามประสาแบบเด็กๆ ทั้งคืน 

 

ยกตัวอย่างในปี 2526 ที่มีทหารพรานประมาณหนึ่งกองร้อยมาตั้งฐานปฏิบัติการชั่วคราวที่วัดเจดีย์ เมื่อทหารกำลังหลับรู้สึกว่ามีเด็กมาดึงขาบ้าง ดึงแขนบ้าง เอาปืนตีศรีษะบ้าง ผลักปืนให้ล้มบ้าง จนไม่ได้นอนทั้งคืน เมื่อรุ่งเช้าทหารพรานชุดดังกล่าวจึงได้ไปสอบถามชาวบ้านพร้อมกับเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง ชาวบ้านจึงได้บอกวิธีแก้ไข คือ ก่อนกินข้าวต้องเอ่ยถึง “ไอ้ไข่” ด้วยทุกครั้ง หลังจากทหารพรานทำตามคำแนะนำ ก็สามารถนอนหลับพักผ่อนได้อย่างสบาย ปราศจากการรบกวนใดๆ

 

 

ภาพจาก bit.ly/33cWbzy

วัดเจดีย์หรือวัดไอ้ไข่ ตั้งอยู่ที่หมู่ 7 ตำบลฉลอง อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช เคยเป็นวัดร้างที่เชื่อกันว่าสร้างมาเป็นเวลานับ 1,000 ปี มีเพียงเจดีย์โบราณเก่ารกร้างอยู่ตรงบริเวณที่กำลังสร้างโบสถ์ในปัจจุบัน จนเมื่อประมาณ พ.ศ. 2500 มีการบูรณะวัดเจดีย์ขึ้นมาใหม่ มีพระเข้ามาจำพรรษาอยู่ในวัด และเป็นที่ปฏิบัติศาสนกิจของชาวบ้านใกล้เคียง และเป็นที่ประดิษฐานของ “พ่อท่าน” พระพุทธรูปเก่าแก่ที่มีตั้งแต่เมื่อครั้งเป็นวัดร้าง และอยู่มาถึงปัจจุบัน

 

 

ตำนานเกี่ยวกับเรื่องไอ้ไข่นั้น มีคนเขียนและเล่ากันมาก แต่ที่น่าเชื่อถือมากสุดคงเป็นข้อมูลจากหมอบัญชา พงษ์พานิช คหบดีชาวนครศรีธรรมราช และผู้อำนวยการบริหารมูลนิธิหอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ โดยพูดถึงไอ้ไข่ในยุคแรกๆ ว่าเริ่มดังมาจากการที่พระครูพุทธเจติยาภิมณฑ์ เจ้าอาวาสในสมัยนั้นคิดพัฒนาปรับปรุงวัด จึงนำเรื่องไอ้ไข่มาเป็นจุดเด่นและทำป้ายประชาสัมพันธ์ว่า “วัดเจดีย์(ไอ้ไข่)” โดยป้ายชุดแรกทำจากประจวบคีรีขันธ์ลงไปจนถึงปัตตานี ทำให้คนเมื่อขับรถผ่านไปผ่านมาสงสัย และแวะเข้าไปวัด นานวันเข้าคนก็ไปกันมากขึ้น มีบางคนถูกหวย ก็ปากต่อปากจนทำให้ชื่อเสียงของไอ้ไข่เริ่มโด่งดังเมื่อสัก 5-6 ปีที่ผ่านมา

 

 

ภาพจาก bit.ly/2S5xyya

สิ่งที่เราเห็นว่าเป็นรูปปั้นของไอ้ไข่แท้ที่จริงคือ ไม้ตะเคียนสลัก โดยมีตำนานเล่าว่าอาจารย์เที่ยงหรือผู้ใหญ่เที่ยงได้นิมิตเห็นเด็กแก้ผ้า เปลือยกายยืนคู่กับพระสวมจีวรสีคล้ำมายืนให้เห็น และเด็กคนนั้นเอ่ยปากบอกว่า "แกะรูปเราให้ที เราจะได้มีที่อาศัยอยู่เป็นหลักแหล่ง" เมื่อถามว่าเด็กคนนี้เป็นใครได้คำตอบว่า "เราไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์" จึงได้มีการนำไม้ตะเคียนสลักขึ้นเป็นรูปเด็กผู้ชาย สวมใส่ชุดทหารลายพราง ที่เชื่อว่าเป็นความชอบของไอ้ไข่

 

 

ในปี พ.ศ. 2526 หลวงพ่อเทิ่ม ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดเจดีย์ในขณะนั้น ได้จัดสร้างเหรียญบูชาไอ้ไข่เป็นรุ่นแรกแต่ไม่ได้โด่งดังมากมาย ต่างจากปัจจุบันที่เป็นกระแสโด่งดังมากโดยเฉพาะเหรียญรุ่น “ยอดทรัพย์ 64” ที่ตั้งเป้าจะสร้างเสร็จในเดือนมกราคม 2564 ถือเป็นรุ่นล่าสุด ที่ได้มีการเปิดจองและกลายเป็นความวุ่นวายเมื่อมีคนสนใจจำนวนมาก เดือดร้อนไปถึงตำรวจ อส.ฝ่ายปกครอง และทหาร สห.และเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ ต้องเข้าจัดสรรระเบียบให้เกิดความเรียบร้อยเพื่อควบคุมให้อยู่ในมาตรฐานการป้องกันการแพร่ระบาด COVID 19 และทางวัดก็ได้ประกาศยุติการรับจองเหรียญไว้เป็นการชั่วคราว

 

 

ภาพจาก bit.ly/3kUzfuM
 

อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา, พุทธัง ภะคะวันตัง อภิวาเทมิ (กราบ)

สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม, ธัมมังนะมัสสามิ (กราบ)

สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, สังฆัง นะมามิ (กราบ)

 

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (ท่อง 3 จบ)

อิติ อิติ กุมารไข่เจดีย์ จะ มหาเถโร ลาภะ ลาภา ภะวันตุเม

 

 

มีการตีความไปกันมากมายถึงสิ่งที่ไอ้ไข่ชอบ อาจจะเป็นไปตามหลักฐานที่อ้างถึงหรือตามความน่าจะเป็นหรือตามนิมิตความฝันของใครต่อใคร แต่สิ่งที่เราเห็นทุกวันนี้คือดูจาก “ของแก้บน” ที่น่าจะเป็นสิ่งที่ไอ้ไข่ชอบประกอบไปด้วย ขนมเปี๊ยะ , น้ำแดง , ชุดทหาร ตำรวจ ,ไก่ชนปูนปั้น , หนังสติ๊ก , ประทัด และของเล่นสำหรับเด็กผู้ชาย เป็นต้น ซึ่งในแต่ละวันมีผู้แวะเวียนเข้ามาแก้บนไอ้ไข่ไม่ขาดสาย มีการจุดประทัดกันตลอดทั้งวัน แสดงให้เห็นถึงความนิยมและมนต์ขลังของไอ้ไข่ได้เป็นอย่างดี

 

 

ภาพจาก bit.ly/3i7Buck

การอัญเชิญไอ้ไข่เข้าบ้านนั้นไม่จำเป็นต้องจุดธูปขออนุญาตเจ้าที่เจ้าทาง เพราะไอ้ไข่ไม่ใช่กุมารทอง แต่เชื่อกันว่าเป็นเทพหรือเทวดาในรูปเด็กชาย จะพกไว้ติดตัวก็ได้ หรือหากเป็นขนาดตั้งบูชาหรือต้องการบูชาไว้ที่บ้าน ก็สามารถจัดเตรียมหิ้งบูชาได้ดังนี้ หากรวมอยู่หิ้งเดียวกับพระ ให้วางต่ำกว่า พระพุทธ พระสงฆ์ องค์กษัตริย์ องค์เทพ หากแยกหิ้งต่างหาก ก็สามารถทำได้ โดยตั้งหิ้งให้ต่ำกว่า พระพุทธ พระสงฆ์ องค์กษัตริย์ องค์เทพ เช่นกัน โดยทิศที่เหมาะสมคือ ทิศตะวันออก และทิศเหนือ

 

 

ไม่น่าเชื่อว่าเรื่องนี้จะผสมผสานกันได้ระหว่างความเชื่อกับเศรษฐกิจแต่มันเป็นไปแล้ว เริ่มจากความขลังและให้เลขเด็ดแม่นๆ มาหลายงวดแล้ว ทำให้หลายวัดทั่วประเทศจัดทำวัตถุมงคลรูปไอ้ไข่จำลอง เพื่อให้คนไปกราบไหว้ และเช่าบูชากันคึกคัก เช่น วัดห้วยมงคล วัดสนามชัย วัดหนองแฟบ วัดหนองงูเหลือม วัดคลองดินดำ วัดสว่างอารมณ์ วัดบวกครกเหนือ เป็นต้น

 

แม้กระทั่งอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยังเคยโพสต์ถึงกรณีไอ้ไข่ว่ากระตุ้นเศรษฐกิจในนครศรีธรรมราชได้ และยกให้ไอ้ไข่เป็นโมเดลกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัด โดยมีหลักฐานอ้างอิงเช่นการขายตั๋วเครื่องบินได้หมดเกือบทุกเที่ยว , คนมาแวะทานข้าว ทานอาหาร ซื้อของฝาก สร้างรายได้ให้คนในพื้นที่ หรือการที่มีประชาชนหลั่งไหลเข้ามาในจังหวัดเดือนละเกือบ 40,000 คน โรงแรมที่พักต่างๆ ก็ถูกจับจอง เป็นต้น

 

ตอกย้ำความขลังของไอ้ไข่ให้ชัดเจนกันอีกสักนิดเมื่อลองย้อนสถิติการออกรางวัลฉลากกินแบ่งรัฐบาล โดยมีหลายงวดที่ “หวยไอ้ไข่” ให้เลขแม่นยำ ยกตัวอย่างเช่น เลข 98 งวด วันที่ 1/9 /2563 , เลข 49,94 งวดวันที่ 16/7/63 , เลข 58 งวดวันที่ 1/7/63 , เลข76,67 งวดวันที่ 16/6/63 เป็นต้น นอกจากนี้สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างคือ สงกรานต์ของทุกปีจะต้องมีการ “อาบน้ำไอ้ไข่” โดยคณะกรรมการวัดจะนำรูปมาประดิษฐานยังปะรำพิธี เมื่อคนสรงน้ำพระแล้ว จะให้อาบน้ำ ไอ้ไข่ เพื่อขอพรให้เป็นขวัญกำลังใจให้กับตัวเอง ถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของสังคมไทยที่เราอยู่คู่กับเรื่องแบบนี้มานานแสนนาน ไม่มีคำว่าถูกหรือผิด เพียงแต่ต้องเชื่ออย่างมีสติชีวิตเราก็จะดำเนินไปด้วยดี

 

 

ขอบคุณข้อมูล

https://bit.ly/3cHCfaM , https://bit.ly/3jcBclR , https://bit.ly/34aOGs3 , https://bit.ly/3kX00yy ,
https://bit.ly/36e3I2H , https://bit.ly/3mUGgO5 , https://bit.ly/2EKCHZy , https://bit.ly/33biFkg

 

นักเขียน

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)