ถ้าบอกว่าสินค้าแบบรถเข็น สำหรับคนไทยคงไม่ถือว่าเป็นเรื่องแปลกใหม่ อะไรทุกวันนี้เราก็เห็นรถเข็นขายของอยู่มากมาย ทั้งขายขนม ขายโรตี ขายเครื่องดื่ม และอื่นๆ อีกมากมาย แต่ในต่างประเทศเขาก็มีรถเข็นขายอาหารแบบนี้เหมือนกันแม้จะไม่ได้มากมายเหมือนในประเทศไทยแต่สิ่งที่น่าสนใจคือ ไอเดียและแนวคิดในการพัฒนารถเข็นซึ่งดูแล้วน่าสนใจ และน่าจะมีประโยชน์ในการเอามาต่อยอดสำหรับการขายของด้วยรถเข็นในเมืองไทย

 

www.ThaiFranchiseCenter.com ลองรวบรวม 10 ไอเดียรถเข็นในแบบที่น่าสนใจที่เชื่อว่าจะเอามาพัฒนาการขายให้กับธุรกิจที่ทำอยู่ได้ บางแบบดูจะต้องลงทุนมากสักหน่อยแต่ประเมินแล้วก็น่าจะคุ้มค่าในระยะยาวทีเดียว

 

รถเข็นคันแรกนี่สุดเจ๋งตรงที่ดีไซน์ การจะเป็นรถเข็นขายก๋วยเตี๋ยวมันก็ดูจะธรรมดาเกินไป รถเข็นยุคใหม่จึงได้พัฒนารูปแบบ แปลงจากรถสามล้อธรรมดา ตกแต่งส่วนหลังรถด้วยไม้น้ำหนักเบา ออกแบบตามโครงสร้างของชาวจีนให้ดูน่าสนใจ สีสันหน้าตาเหมือนมีบ้านอยู่หลังรถ ที่สำคัญมีหน้าต่างประตูเหมือนบ้านเคลื่อนที่จริงๆ แต่มีขนาดเล็กเท่านั้น สินค้าก็คือก๋วยเตี๋ยวที่คนขายสามารถปั่นจักรยานคันนี้ไปขายในที่ต่างๆ ได้ และมีเก้าอี้สำหรับให้ลูกค้านั่ง (มีแต่เก้าอี้ไม่มีโต๊ะ)รับประทานได้อีกด้วย

 

ถ้าหากดูจากแนวคิดนี้ถือว่าคนขายอาหารรถเข็นในเมืองไทยสามารถเอามาดัดแปลงให้เป็นสไตล์ของตัวเองได้ไม่ยาก ด้วยความที่บ้านเราก็เป็นเมืองท่องเที่ยวอยู่แล้ว ถ้าลงทุนสักหน่อยดีไซน์รถเข็นให้สุดเจ๋งแบบนี้ยังไงก็ขายดีเผลอๆ จะดันเข้าสู่ระบบแฟรนไชส์ได้สบายๆ อีกด้วย

 

 

สำหรับอันนี้ก็ไม่เชิงว่าจะเป็นรถเข็นซะทีเดียว แต่มันคือการออกแบบรถขายสินค้าที่เรียกว่า TRIPORTEUR CARGO ซึ่งก็มีหลากหลายรูปแบบตามแต่ที่จะมีคนจ้างผลิต จุดเด่นที่น่าสนใจคือจักรยานในระบบไฟฟ้าใช้แบตเตอรี่ 2 ตัว ให้สามารถใช้งานได้นานติดต่อกันกว่า 5 ชั่วโมง รวมถึงมีน้ำหนักเบา สามารถขี่ได้ง่าย ด้วยดีไซน์ที่ดูโดดเด่นและสวยงาม ใครเห็นเป็นต้องอยากซื้อสินค้า แม้ต้นทุนการผลิตจะค่อนข้างเยอะแต่ก็ถือว่าคุ้มค่าและสามารถใช้สร้างรายได้ในระยะยาว เป็นอีกก้าวหนึ่งของการพัฒนาสินค้ารถเข็นให้มีความทันสมัยและไม่ยึดติดอยู่กับรูปแบบเดิมๆ อีกต่อไป

 

 

อาจจะไม่ใช่ไอเดียสุดล้ำ อาจจะไม่ใช่รถเข็นที่เห็นแล้วต้องร้องว้าว แต่นี่คือรถเข็นขายสินค้าที่สะท้อนความเป็นท้องถิ่นได้อย่างตรงจุดตรงใจมากที่สุด และเชื่อหรือไม่ว่ารถเข็นบ้านๆ แบบนี้แหละที่ถูกใจนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี อย่างที่เราเห็นในภาพเป็นรถเข็นขายมันหวานเผา ที่เอาถังมาดัดแปลงเป็นเตาย่าง  ใส่ในรถเข็นที่ตระเวนไปได้เรื่อยๆ ดูเหมือนจะเรียบง่าย แต่มันคือจุดขายที่ทำได้ยาก ลองคิดดูถ้าเอาแนวคิดนี้มาใช้กับสินค้าแบบไทยๆ ของเราบ้าง ไม่ต้องดีไซน์รถให้แหวกแนว แต่ดูแล้วมีเอกลักษณ์แบบบ้านๆ เชื่อเถอะว่าสินค้าขายดีโดยเฉพาะในแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ 

 

 

เป็นการออกแบบรถเข็นสำหรับร้านขนมหวาน โดยเน้นสีสันให้น่าสนใจ และเห็นเป็นต้องรู้สึกอยากซื้อขนม ซึ่งเป็นแนวคิดในการใช้สี ใช้การออกแบบตัวรถที่มีผลต่อความคิดในการตัดสินใจซื้อ นี่คือผลงานที่คลาสสิคถึงขนาดที่มีหลายร้านใน Times Square ของอเมริกาซื้อรูปแบบรถเข็นนี้ไปตั้งไว้ในร้าน อันเป็นการการันตีความเป็นสุดยอดแนวคิด ซึ่งในวงการแฟรนไชส์เมืองไทยหากมีแบรนด์ใดที่จะลองคิดนอกกรอบดีไซน์รถขายขนม ขายอาหาร โดยใช้โทนสีและการออกแบบให้ดึงดูดใจลูกค้า ก็น่าจะเพิ่มโอกาสในการขายได้มากขึ้น

 

ในเมืองไทยเราคุ้นเคยกับการที่เห็นสาวยาคูลท์ขี่มอเตอร์ไซด์เข้ามาส่งสินค้าในออฟฟิศ แต่ในเกาหลีใต้เขาพัฒนาให้ดีกว่าเดิมกลายเป็น Yogurtmobile ที่ลักษณะคล้ายกับสกู๊ตเตอร์ผสม Segway แบบยืนขับ โดยจะมีตู้แช่คล้ายกับตู้เย็น 8 คิววางอยู่ด้านหน้า ซึ่งสามารถบรรจุนมเปรี้ยวได้มากถึง 3,300 ขวดเลย สามารถทำความเร็วได้ที่ 8 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 

 

และที่สำคัญยังขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าด้วยซึ่งตอนนี้ทางยาคูลท์เกาหลีใต้ก็ได้ส่งรถ Yogurtmobile ออกมาบ้างแล้วกว่า 4,000 คัน และจะเพิ่มเป็น 10,000 คันในอนาคตด้วย สำหรับในเมืองไทยอาจจะไม่ใช่เรื่องของการส่งยาคูลท์เท่านั้นแต่แฟรนไชส์อื่นๆที่เห็นแบบนี้จะเอาไปพัฒนาต่อยอดให้เป็นการส่งสินค้าของตัวเองก็ก้าวล้ำนำสมัยได้แน่นอน

 

 

เป็นการออกแบบและดีไซน์ของบริษัทจากประเทศจีนในเหอหนาน ที่เน้นการผลิตสินค้ารถเข็นตามความต้องการของผู้ใช้งาน โดยเป็นแบบที่เรียกว่า Mini Food Cart ซึ่งได้มีการผลิตและส่งออกไปจำหน่ายในต่างประเทศหลายแห่งทั้งอเมริกา ยุโรป ออสเตรเลีย โดยใช้วัสดุที่มีน้ำหนักเบาในการผลิตตัว Mini Food Cart เพื่อให้ง่ายต่อการเคลื่อนที่ ที่สำคัญคือราคาไม่แพง และได้รับการรับรองจาก ISO มั่นใจในเรื่องคุณภาพได้เป็นอย่างดี แถมยังดีไซน์ภายในรถให้มีความพร้อมสำหรับการเริ่มต้นธุรกิจต่างๆ ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย หากนำมีธุรกิจไหนเอาแนวคิดนี้มาลองต่อยอดเป็นไอเดียขายแฟรนไชส์ในเมืองไทย ก็น่าจะสร้างสีสันและน่าสนใจไม่ใช่น้อย

 

 

สำหรับใครที่คิดว่าเปิดร้านเบเกอรี่ต้องอยู่กับที่ งานนี้อาจต้องเปลี่ยนความคิด นี่คือแนวคิดรถเข็นขายเบเกอรี่ของ Leo Tatemichi ซึ่งเป็นชาวญี่ปุ่นที่จับไอเดียแต่งรถเข็นขายเบเกอรี่โดยมีสูตรเค้กจากแม่ของเขาเอง ทำเอง ขายเอง และตั้งชื่อร้านว่า Pompon Cakes จุดเด่นที่น่าสนใจไม่ใช่แค่รถเข็นขายเค้กและเบเกอรี่ธรรมดา แต่เขาเพิ่มความน่าสนใจด้วยการแต่งกายที่ดูจะมีสไตล์เหมือนเป็นนายแบบ แถมแพคเกจที่ใช้ก็ดูระดับพรีเมี่ยม ไม่บอกไม่มีทางรู้ว่าซื้อมาจากรถเข็นริมทางเป็นอีกหนึ่งแนวคิดที่น่าสนใจและคิดว่าหากเราคิดต่อยอดได้เหมือนแบบนี้น่าจะเป็นอีกหนึ่งช่องทางการสร้างยอดขายที่ดีเป็นอย่างยิ่ง

 

 

รถสามล้อถีบขายกาแฟแบบไฮเอ็นด์ เจ้าของแนวคิดคือ อเลสซานโดร เบลลิโน ชาวออสเตรเลียที่ไปอาศัยอยู่ในบอสตัน อเมริกา โดยได้ตั้งชื่อร้านว่า The Coffee Trike จุดเด่นของรถเข็นขายกาแฟนี้ไม่ใช่แค่กาแฟระดับพรีเมี่ยมที่มาในราคารถเข็นแต่ยังสร้างความน่าสนใจด้วยการแต่งกายที่เหมือนหลุดมาจากหนังสือแฟชั่น และการทักทายลูกค้าด้วยอัธยาศัยที่ดีเป็นอีกจุดขายที่ทำให้คนเห็นต่างก็อยากแช๊ะ อยากแชร์ แถมราคากาแฟระดับพรีเมี่ยมของร้านนี้ก็ยังไม่แพงคิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 90 บาท ใครที่คิดอยากเปิดร้านกาแฟจะลองเอาแนวคิดร้านกาแฟรถเข็นแบบนี้ไปใช้บ้างก็ได้

 

 

เจ้าของไอเดียคือ Pablo Calderón จากเนเธอแลนด์ที่เขาได้แรงบันดาลใจจากสินค้ารถเข็นจากประเทศแถบเอเชีย และเขาก็นำมาพัฒนาใส่ไอเดียกลายเป็น The Other Market รถเข็นที่ใช้ถูกออกแบบมาอย่างดิบๆ สำคัญกว่านั้น The Other Market เลือกที่จะให้บริการในแบบฟรีๆ เพียงแค่แลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ในหัวข้อที่สนใจ เช่น การพนัน, อสังหาริมทรัพย์, ความโชคดี, ชื่อถนน เป็นต้นนอกจากนี้สถานที่ตั้งของร้านก็จะเปลี่ยนไปตามเมืองต่างๆ ด้วย และถึงแม้จะไม่ใช่ไอเดียในการสร้างรายได้แต่ก็ถือเป็นไอเดียที่แปลกแหวกแนวและหากมีคนไทยลองเอาความคิดนี้มีต่อยอดเป็นของตัวเองก็น่าจะเวิร์คมากๆ เช่นกัน

 

 

ลองมาดูรถเข็นขายของในเมืองไทยกันบ้าง แม้ไม่ใช่ไอเดียเลิศหรู แต่ก็ถือเป็นแนวคิดที่ดีกับการย่อส่วนร้านก๋วยเตี๋ยวมาเป็นรถเข็น ซึ่งรถเข็นขายก๋วยเตี๋ยวก็ยังไม่แปลกเพราะเราก็เคยเห็นอยู่บ่อยๆ แต่รถเข็นแบบมินิสำหรับขายก๋วยเตี๋ยวนี้หายากแน่นอน นี่คือไอเดียของแม่ค้าจากจังหวัดอ่างทอง ที่บอกว่าใช้รถเข็นมินิแบบนี้สามารถขายได้วันละเป็น 100 ชาม เพราะจุดเด่นคือรถขนาดเล็กไม่หนัก เข็นง่าย เข้าหาลูกค้าได้ทุกจุด และเขาก็ตระเวนขายไปทั่วอ่างทองไม่ได้ประจำที่ใดที่เดียว เริ่มขายตั้งแต่07.00 เป็นต้นไป อาศัยว่าขยันและอาจจะไม่ได้สะดวกสบายเหมือนมีรถเครื่องคอยทุ่นแรงแต่แบบนี้ก็ช่วยประหยัดต้นทุนไม่ต้องเสียค่าน้ำมัน ร้อนหน่อย เหนื่อยหน่อย แต่รายได้ก็คุ้มค่าและลูกค้าก็ชอบมาก

 

การขายที่จะสร้างรายได้ที่ดีจำเป็นต้องมีไอเดียที่ดีร่วมด้วย อย่าคิดแค่ว่าสินค้าดี คุณภาพดี แล้วจะขายได้ในความเป็นจริงคนส่วนใหญ่สนใจอะไรที่แปลกใหม่และโดดเด่น ไม่ใช่ของที่เห็นทั่วไปเดินไปไหนก็เจอ แม้จะเป็นสินค้าแบบเดียวกัน อย่างเดียวกัน แต่ถ้าเราทำให้โดดเด่นได้มากกว่า โอกาสในการขายเราก็มากกว่าเช่นกัน

 

 

ขอบคุณข้อมูล
https://bit.ly/2Tujhft , https://bit.ly/2LOqFOD , https://bit.ly/2AUJayV , https://bit.ly/2LRZ7YN , https://bit.ly/2TrZ763 ,
https://bit.ly/36pYO0S , https://bit.ly/36kOBmc , https://bit.ly/3gbvWxG , https://bit.ly/3bUg53g ,
https://bit.ly/2XltbRH , https://bit.ly/2Txo4wW 

 

นักเขียน

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)