บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
1.8K
2 นาที
9 มีนาคม 2563
ผู้หญิงส่วนใหญ่มักกลัวในเรื่องของ "ความทะเยอทะยาน" เนื่องจากส่งผลกระทบต่ออาชีพของพวกเธอ


 
ผู้หญิงส่วนใหญ่ล้วนแล้วมีความทะเยอทะยานในการทำงาน แต่ส่วนใหญ่รู้สึกอึดอัดใจกับเรื่องนี้

นี่เป็นความจริงที่ทุก ๆ คน โดยเฉพาะผู้หญิงต้องอ่านเพื่อหาสาเหตุที่ทำให้ผู้หญิงมักกลัวกับการแสดงความทะเยอทะยานที่มีอยู่ออกมา
 
สอดคล้องกับการสำรวจผู้หญิง 3 พันคนทั่วโลกโดย American Express กับ The New York Women Foundation ซึ่งเป็นองค์กรที่ไม่แสวงหากำไรที่ส่งเสริมความเท่าเทียมกันทางเพศและการดูแลอย่างเท่าเทียมกัน โดยผู้หญิงกว่า 59 % ที่ได้เข้าร่วมทำสำรวจโพลนั้น ได้กล่าวว่า ความทะเยอทะยานเป็นสิ่งสำคัญในการทำให้พวกเธอประสบความสำเร็จ และมากกว่า 50 % ก็ระบุว่า พวกเธอมีความทะเยอทะยาน
 
แต่ผู้หญิงส่วนใหญ่ได้กล่าวว่า พวกเธอรู้สึกสบายใจที่มีความทะเยอทะยานน้อยลง โดยผู้หญิงน้อยกว่า 1 ใน 3 นั้นได้กล่าวว่า พวกเธอรู้สึกพึงพอใจกับสิ่งที่เป็นอยู่ แทนที่ผู้หญิงจะรู้สึกสบายใจจากการที่พวกเธอมีแรงจูงใจมากขึ้น” จากการสำรวจได้พบส่วนนี้


ภาพจาก freepik.com
 
Merriam Webster ได้ให้คำนิยามเกี่ยวกับ “แรงจูงใจ” ว่า “เป็นการกระตุ้นหรือทำให้มีแรงปรารถนาอย่างแรงกล้าในการทำเรื่องดีหรือประสบความสำเร็จในการดำเนินการ” คำว่า “ความทะเยอทะยานนั้น” มีการต่อยอดมากขึ้นไปอีก ก็คือ “เป็นความปรารถนาอยากประสบความสำเร็จ มีอำนาจหรือเป็นที่ได้รับการยอมรับ” 
 
การหลีกเลี่ยงคำว่า “ความทะเยอทะยาน” อาจมีผลต่อผู้หญิงเพื่อให้แน่ใจว่า พวกเธอต้องไม่มีความก้าวร้าวมากเกินไป สอดคล้องกับ Margo Levin นักจิตวิทยาคลินิกในเมืองนิวยอร์กได้กล่าวเอาไว้
 
นี่เป็นส่วนหนึ่งของกับดักทางความคิด หรือก่อให้เกิด 2 มาตรฐานในสังคมสำหรับผู้ชายและผู้หญิงในที่ทำงาน และเรื่องนี้เป็นการให้บทบาทของผู้หญิงยืนอยู่แถวหน้ามากขึ้น


ภาพจาก freepik.com
 
“ผู้หญิงมักได้รับข้อความทางสังคมเป็นเวลานานแล้วว่า พวกเธอควรที่จะเจียมเนื้อเจียมตัวและจะต้องตามหลังผู้ชาย นอกจากนั้นแล้วยังมีงานวิจัยที่ชี้ว่า ในขณะที่ฝ่ายชายได้รับรางวัลตอบแทนในที่ทำงานจากความทะเยอทะยาน ผู้หญิงสามารถถูกลงโทษและถูกมองว่ามีความก้าวร้าวได้” Levin กล่าว
 
จริง ๆ แล้วผู้หญิงที่มีตำแหน่งเป็นผู้นำนั้น ดูเหมือนไม่ค่อยชอบนักจากเพื่อนฝูงหรือผู้สนับสนุน งานวิจัยปี 2012 ได้มีการตีพิมพ์ในนิตยสาร Experimental Social Psychology  และผู้หญิงต่อรองยากมากกว่าผู้ชายที่มีพฤติกรรมแบบก้าวร้าวหรือมีความอยากได้อยากมีสูง 
 
ทางด้าน Chimamanda Ngozi Adichie ได้ยกตัวอย่างเพลง “Flawless” ของ Beyonce และเธอได้กล่าวว่า “พวกเราสอนให้ผู้หญิงรู้จักชำเลืองดูตัวเอง ทำให้พวกเธอดูด้อยค่า พวกเราอยากบอกกับผู้หญิงว่า ‘คุณมีความทะเยอทะยานได้ ไม่ต้องไปวิตกกังวลให้มากไป”


Denise Pickett
ภาพจาก bit.ly/3cH8lmT
 
Denise Pickett ประธาน American Express ได้กล่าวว่า ผู้หญิงในระยะยาวมักหลีกเลี่ยงการใช้ความทะเยอทะยานของเธอ
 
“ความทะเยอทะยานเป็นสัญชาตญาณที่นำไปสู่ความเชื่อมั่น ไม่เพียงแค่กับตัวเราเองเท่านั้น แต่เป็นความสามารถในการรับรู้สิ่งที่พวกเราได้ให้การสนับสนุนและการค้นหาข้อมูลที่พวกเราจะต้องเดินไปให้ถึงเป้าหมาย” Pickett ได้กล่าวเอาไว้กับ Business Insider “ในการเปิดรับความทะเยอทะยานของพวกเราและการก้าวข้ามอุปสรรคนั้น พวกเราอาจเจอกับผลตอบแทนที่ได้รับ พวกเราสามารถหาปัจจัยส่งเสริมเพื่อช่วยให้พวกเราก้าวข้ามความท้าทายต่าง ๆ เหล่านี้ได้”

คุณผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน

ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
 
อ่านบทความอื่นๆ จากไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ www.thaifranchisecenter.com/document
เลือกซื้อแฟรนไชส์ไทยขายดี เปิดร้าน www.thaifranchisecenter.com/directory/index.php

ที่มา : www.businessinsider.com
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
609
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
507
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
476
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
425
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
410
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
406
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด