บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
2.8K
3 นาที
13 พฤศจิกายน 2562
17 วิธีประหยัดเงิน! ที่จะทำให้คุณรวยได้!
 

ยุคนี้ใครๆก็พูดถึงแต่เรื่อง “ประหยัด” เทคนิคการประหยัดเงินส่วนใหญ่จะรู้แค่ว่า ให้แบ่งเงินออกเป็น 3 ส่วน คือเงินใช้ เงินเก็บ และเงินฉุกเฉิน แต่พอทำจริงทั้งเงินเก็บและเงินฉุกเฉินก็รวมไปอยู่ในเงินใช้ สุดท้ายเงินเก็บที่ควรจะได้มันก็ไม่ได้ก็กลับมาพูดถึงเรื่องเดิมอีกว่า “แล้วจะประหยัดยังไงดี?” www.ThaiFranchiseCenter.com มี17วิธีการประหยัดเงินที่หลายคนถึงกับตกใจว่ามันมีถึง 17 เชียวเหรอ ลองไปดูว่า 17 วิธีนี้เราจะเลือกใช้วิธีไหนในการประหยัดเงินได้บ้าง
 
1.ตั้งต้นด้วยเงินออม
 
ภาพจาก bit.ly/2XjJMVX

หลายคนคิดว่าเงินเก็บหรือเงินออม คือเงินที่เหลือจากการใช้จ่าย ตามสูตรที่เข้าใจว่า รายได้ - รายจ่าย = เงินออม แม้จะเป็นสูตรที่ถูกต้องแต่ไม่ใช่แนวคิดตั้งต้นที่ดีสำหรับคนที่อยากเก็บเงินให้ได้อย่างมีวินัย คำแนะนำที่ดีกว่าคือ เราไม่ควรมองเงินออมเป็นเงินเหลือ แต่ควรมองเป็นเงินที่ถูก “จัดหมวดหมู่” เอาไว้ว่านี่คือเงินออมโดยเฉพาะ เช่น เราจะออมเงิน 2,000 บาท โดยเรามีเงินเดือน 20,000 บาท แปลว่าเราต้องใช้จ่ายให้ไม่เกิน 18,000 บาท เมื่อคิดในมุมนี้ สมการที่เราควรใช้ในการประหยัดเงินคือ “รายได้ - เงินออม = รายจ่าย” หรือก็คือเราควรหักเงินออมเก็บเอาไว้ก่อน แล้วค่อยใช้จ่ายตามงบประมาณที่มี จะทำให้เราเห็นภาพการเก็บเงินได้ชัดเจนมากขึ้น
 
2.จัดแยกประเภทรายจ่ายตามลำดับความสำคัญ
 
หลายครั้งที่การเก็บเงินไม่เป็นผลเพราะเรามักใช้จ่ายกับ “สิ่งไม่สำคัญแต่เกิดขึ้นก่อน”  เช่น จ่ายให้กับค่าอาหารที่อยากทานในแต่ละวัน จนลืมคิดไปว่ามีส่วนที่สำคัญที่จะตามมาในช่วงปลายเดือน เช่น ค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำค่าไฟ ค่าผ่อนสินค้า เป็นต้น ทำให้ใช้เงินเยอะกว่างบประมาณ ทางที่ดีควรวางแผนรายจ่ายให้ละเอียด ตั้งงบประมาณให้กับรายจ่ายประจำที่สำคัญก่อน จะทำให้เรามีวินัยทางการเงินมากขึ้น
 
3.จดบันทึกช่วยให้เก็บเงินได้มากขึ้น
 
ภาพจาก bit.ly/372V2tW

จากผลสำรวจของบริษัท YouGov พบว่าคนไทยมี “ค่าใช้จ่ายปริศนา” สูงถึง 72% ของรายจ่ายทั้งหมด ซึ่งสรุปได้ว่าคนไทยหนึ่งคนมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อสัปดาห์อยู่ที่ 1,588 บาท หมายความว่าค่าใช้จ่ายปริศนาที่ระบุไม่ได้ว่าจ่ายไปกับอะไรจะอยู่ที่ประมาณ 1,143 บาท ซึ่งตัวเลขที่รั่วไหลนี้มันเกิดจากการไม่ได้จดบันทึกและทำให้เราเข้าใจผิดเกี่ยวกับการรายจ่ายที่แท้จริง ซึ่งปัจจุบันเรามีแอปพลิเคชันรายรับรายจ่ายมากมาย ทั้ง iOS และ Android ให้ลองได้เลือกใช้ จะช่วยทำให้สถานะการเงินเรามีเสถียรภาพมากขึ้น
 
4.ลดรายจ่ายค่าอาหาร
 
สำนักงานสถิติแห่งชาติเผยว่า รายจ่ายค่าอาหารเป็นเงินก้อนใหญ่ในแต่ละเดือนของแต่ละครอบครัว วิธีหนึ่งที่จะลดรายจ่ายก็คือการประหยัดค่าใช้จ่ายก้อนนี้ให้มากขึ้น สำหรับการลดรายจ่ายค่าอาหารมีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย เช่น ทำอาหารทานเองจะประหยัดกว่าซื้อทาน ยิ่งถ้าเป็นครอบครัวใหญ่ ราคาต่อหัวก็จะประหยัดมากขึ้น และสำหรับคนทำงานที่เคยซื้ออาหารในที่ทำงานทานทุกวัน ลองนำอาหารไปทานเอง เช่น ตั้งเป้าว่าจะนำอาหารมาทานเอง 1-2 วันต่อสัปดาห์ ก็จะช่วยลดรายจ่ายค่าอาหารได้ เป็นต้น
 
5.ลดรายจ่ายเรื่องเสื้อผ้า
 
ภาพจาก bit.ly/2CGNC1z

มีผลวิจัยเคยกล่าวไว้ว่าคนไทยซื้อเสื้อผ้ามากขึ้นร้อยละ 3 ต่อปี แต่ส่วนใหญ่จะใช้ไม่ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ของเสื้อผ้าที่มีอยู่ แบบนี้แนะนำว่าให้นำไปขายต่อ หรือลองเรียนรู้วิธี DIY เปลี่ยนชุดเก่าให้ดีกว่าเดิม รวมถึงหากนำเสื้อผ้าที่มีมาจับคู่ดีๆ เปลี่ยนไปมาก็ดูเหมือนเรามีเสื้อผ้าใหม่ๆ ตลอดเวลาได้เหมือนกัน
 
6.อย่าซื้อเสื้อผ้าราคาถูก
 
หลายคนคิดว่าการซื้อเสื้อผ้าราคาถูกเป็นการประหยัดเงินแต่ที่จริงมันคือรายจ่ายยิบย่อยในระยะยาว เพราะเมื่อเราซื้อเสื้อผ้าราคาถูกที่เนื้อผ้าไม่ดี หรือการตัดเย็บไม่ดี จะทำให้เสื้อผ้าเหล่านั้นเสื่อมสภาพเร็วหลังจากซักไปเพียงไม่กี่ครั้ง และทำให้ต้องเสียเงินเพื่อซื้อเสื้อผ้าใหม่อีกรอบ
 
7.เลิกเป็นนักสะสม
 
ภาพจาก bit.ly/32HD7pl

บางคนบอกว่า “ของสะสมเป็นของเล่นเศรษฐี” ซึ่งหากเราไม่รวยจริงแนะนำว่าอย่าบ้าตามคนอื่น การมีของสะสมเต็มบ้านแต่เงินในบัญชีว่างเปล่าอันนี้ไม่น่าจะดีนัก มีผลสำรวจพบว่าคนไทยชอบบินไปซื้อของแบรนด์เนมจากต่างประเทศเป็นตัวเลขมูลค่ามหาศาล ลองเช็กตัวเองดูว่าเราเป็นอีกหนึ่งคนหรือเปล่าที่ชอบเก็บแบรนด์เนมแพงๆ ไว้ในตู้โชว์  แนะนำให้สะสมบ้างและปล่อยขายบ้างเมื่อราคาสูงขึ้น เพื่อเป็นการรักษาสมดุลทางการเงิน
 
8.เลือกบัญชีธนาคารดอกเบี้ยดีๆ
 
การฝากประจำ หรือลงทุนในกองทุนรวมเพื่อสร้างผลตอบแทนเพิ่มขึ้นจากการฝากเงินทั่วไป แบบการเลือกหักบัญชีแบบอัตโนมัติบัญชี ก็สามารถสร้างวินัยการออมได้เหมือนกัน จะได้ไม่ต้องกังวลว่าเดือนนี้ได้ออมเงินหรือยัง ซึ่งวิธีนี้ง่ายต่อการไปถึงเป้าหมายการออมที่วางไว้ด้วย 
 
9.อย่ามีเฉพาะบัญชีออมทรัพย์
 
ภาพจาก  bit.ly/2CEVP6I

ควรมีบัญชีที่แยกออกมาสำหรับเอาไว้ในการลงทุนไม่ว่าจะเป็นกองทุนรวมต่างๆ ที่เลือกให้มีการหักบัญชีได้อัตโนมัตหน้าที่ของเราคือการเอาเงินใส่ในบัญชีเหล่านี้ เป็นการฝึกวินัยการออมเงินที่ดี ซึ่งบัญชีออมทรัพย์น่าจะเป็นบัญชีที่เราเอาไว้เป็นเงินเก็บควรแยกออกจากกันให้ชัดเจน
 
10.ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ
 
ร้านค้าหลายร้านมักมีสิทธิพิเศษให้เมื่อเราไปช้อปปิ้ง อย่าละเลยสิทธิพวกนี้ เพราะบางทีเราอาจได้รับเช็คของขวัญ บัตรกำนัลดีๆ ที่ทำให้ประหยัดเงินไปได้อีกมาก นอกจากนั้นควรกดติดตามแฟนเพจ เว็บไซต์ ที่คอยอัปเดตส่วนลดบ่อยๆ  เผื่อว่าจะมีโปรโมชั่นที่น่าสนใจโผล่ขึ้นมาให้ได้ช้อป ในยุคนี้เรามี Mobile Payment เป็นอีกหนึ่งช่องทางหนึ่งที่ทำให้จับจ่ายเมื่อเจอโปรโมชันดีๆ ง่ายๆซึ่งถ้าใช้อย่างมีเหตุมีผล ก็จะพบสิทธิพิเศษต่างๆ มากมาย
 
11.ซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีคุณภาพ
 
ภาพจาก www.facebook.com/salehere/

จ่ายเยอะจ่ายยาก จ่ายน้อยจ่ายง่าย แต่น้อยๆ ที่รวมกันอาจสะสมกันเป็นเงินก้อนใหญ่ได้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ดีจะมีอายุการใช้งานที่นาน ทำให้ไม่ต้องเสียเงินเพื่อเปลี่ยนอันใหม่บ่อยๆ เป็นสิ่งของชิ้นใหญ่ที่ควรลงทุนเพื่อความสะดวกสบาย และควรตระหนักถึงการประหยัดพลังงานด้วย เพราะการประหยัดค่าไฟก็ช่วยคืนเงินในกระเป๋าได้
 
12.ยกเลิกการเป็นสมาชิกที่ไม่ได้ใช้
 
หากเราต้องจ่ายเงินเพื่อเป็นสมาชิกกับหลายๆ ที่ เพราะตั้งใจว่าจะมาใช้บริการบ่อยๆ แต่นานๆ ครั้งถึงจะได้ใช้จริง อย่างฟิตเนสที่สมัครไว้เพราะอยากหุ่นดี อย่าลืมว่าเราสามารถต่ออายุการเป็นสมาชิกในภายหลังได้ ถ้าไม่ได้ไปจริงๆ ก็ยกเลิกไปก่อนก็ได้
 
13.หยุดใช้บัตรเครดิต 
 
ภาพจาก bit.ly/2O8CJLf

หนี้บัตรเครดิต เกิดขึ้นเพราะความชะล่าใจในการซื้อของ ซื้อก่อนโดยคิดว่า ยังมีเวลา จะหาเงินมาจ่ายทีหลัง หรือมีเงินเพียงพอในธนาคาร แต่เพราะความสะดวกของบัตรเครดิตก็ทำให้ใช้เกินงบประมาณที่ตั้งไว้ จนทำให้เก็บเงินได้ไม่ถึงเป้าหมาย ซึ่งตามสถิติก็บ่งบอกชัดเจนว่าหนี้ของคนไทยส่วนใหญ่เกิดจากการใช้บัตรเครดิตที่เกินตัว
 
14.ดูหนังฟังเพลงอยู่กับบ้านในวันหยุด
 
การไปเที่ยวตามห้างสรรพสินค้า หรือเที่ยวข้างนอกจะทำให้พบกับสิ่งล่อตาล่อใจมากมายจนจ่ายเงินไปในจำนวนมากกว่าที่ตั้งใจเอาไว้ ลองเปลี่ยนมาหาความบันเทิงที่บ้าน อย่างฟังเพลง ดูโทรทัศน์ อ่านหนังสือ เป็นอีกเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ ในการลดรายจ่ายเรื่องความบันเทิง แต่ทั้งนี้ให้พิจารณาตามความเหมาะสมและความชอบของแต่ละครอบครัวด้วย
 
15.ใช้ระบบขนส่งสาธารณะ
 
ภาพจาก www.facebook.com/BTSSkyTrain/

การโดยสารด้วยรถสาธารณะช่วยให้ประหยัดเงินได้มาก และยังช่วยประหยัดพลังงานแทนการขับรถยนต์ส่วนตัว คนที่ขับรถไปทำงานแม้จะสะดวกสบายแต่ก็ต้องแลกกับค่าน้ำมัน ค่าทางด่วน ค่าสึกหรอเครื่องยนต์ ซึ่งหากประหยัดส่วนนี้ได้เราจะมีเงินเก็บมากขึ้น แต่ก็เป็นเรื่องยากด้วยระบบขนส่งสาธารณะเมืองไทยส่วนใหญ่ทำให้คนรู้สึกเบื่อหน่าย
 
16.อย่าคิดแค่ประหยัดเงิน
 
การออมเป็นสิ่งที่ดี โดยควรตั้งเป้าหมายในการออมระยะสั้น เช่น ออมให้ได้ 300 บาทหรือมากกว่านั้นต่อสัปดาห์ จะทำให้ไม่รู้สึกหนักเกินไปและมีกำลังใจในการเก็บเงิน และควรวางแผนการเกษียณให้เร็วที่สุดอย่าเพียงแค่ทำงานไปทุกๆ เดือน ทางที่ดีให้ลงทุนในกองทุนเอาไว้บ้างเพื่ออนาคต หนึ่งในวิธีการออมที่น่าสนใจคือ ตาราง 365 วันที่กำหนดให้เราเก็บเงินตามวันที่ เช่นวันที่ 1 เก็บ 1 บาท วันที่ 2 เก็บ 2 บาท ไปเรื่อยๆ จนถึงวันที่ 365 ก็เก็บ 365 บาท ทำแบบนี้ใน 1 ปี เราจะมีเงินมากกว่า  66,795 บาท
 
17.ใช้กฎ 24 ชั่วโมง และการเปรียบเทียบ

เวลาที่เราอยากซื้อของราคาสูงๆ ให้กลับบ้านไปแล้วไตร่ตรองอีกสัก 24 ชั่วโมงค่อยเวียนกลับมาซื้ออีกครั้ง เพราะถึงเวลานั้นก็อาจจะไม่อยากได้แล้ว หรือลองคำนวณราคาสิ่งของที่จะซื้อ เปรียบเทียบกับจำนวนค่าตอบแทนรายวันจากการทำงาน เช่น รองเท้าราคา 5,000 บาท แต่มีเงินเดือน 20,000 บาท ทำงานเดือนละ 22 วัน เท่ากับ 20,000/22 = 909 บาท ดังนั้น การซื้อรองเท้าคู่นี้เทียบได้กับการที่คุณต้องทำงานแลกเป็นเวลา 5.5 วัน ให้ลองเปรียบเทียบกับความคุ้มค่าดู
 
หลากหลายวิธีในการประหยัดเงินก็อาจเป็นแค่ทฤษฏีที่จะเป็นจริงได้คือต้องเอาไปปฏิบัติซึ่งถือเป็นเรื่องยาก ด้วยปัจจัยแวดล้อมหลายอย่างที่มีผลต่อการออมเงิน ก็ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการของแต่ละคนว่าจะแก้ไขปัญหาเหล่านี้อย่างไร แม้ไม่ได้ออมเงินตามวิธีเหล่านี้ทั้งหมดแต่อย่างน้อยขอให้มีการออมเงินไว้บ้างอย่างน้อยในอนาคตเราจะได้อุ่นใจว่าเรายังมีเงินเก็บให้จับจ่ายใช้สอยได้บ้าง
 
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
 
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
 
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ www.thaifranchisecenter.com/document/
 
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
609
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
507
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
476
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
426
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
410
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
406
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด