บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การบริหารจัดการองค์กร    สร้างความสมดุลของชีวิตกับการทำงาน
1.9K
3 นาที
10 ตุลาคม 2562
5 วิธีการทำงาน ในสภาพแวดล้อมที่ไม่เป็นมิตร


ในการทำงานพนักงานควรจะมีสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ดี มีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดีในแต่ละวันของการทำงาน เพื่อที่จะได้ทำให้งานเกิดมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด แต่น่าเสียดายที่หลายคนนั้นต้องต่อสู้กับสภาพแวดล้อมที่ไม่เป็นมิตรในที่ทำงาน จนถึงขนาดอาจจะต้องกดดันตัวเองโดยไม่รู้ตัว จนถึงขั้นลาออกไปเลยก็ได้ ดังนั้นแล้วเราจะมีวิธีจัดการและรับมือสถานการณ์เหล่านี้กันอย่างไร ซึ่งเราก็ได้สรุปมา 5 วิธีการทำงานได้ดังนี้
 
1.สภาพแวดล้อมการทำงานคืออะไร?
 

ภาพจาก https://pixabay.com

คำว่า “สภาพแวดล้อมการทำงานที่เป็นมิตร” คือ สถานที่ทำงานซึ่งมีความคิดเห็นหรือการกระทำที่ไม่เหมาะสมบนพื้นฐานของ เชื้อชาติ สัญชาติ ศาสนา รสนิยมทางเพศ หรืออายุ เป็นต้น ซึ่งคุณลักษณะเหล่านี้จะได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายอื่นๆ สภาพแวดล้อมในการทำงานสำหรับพนักงานที่กำลังถูกคุกคามนั้น พฤติกรรมนี้อาจจะลดประสิทธิภาพและความรู้สึกของตนเองทั้งในและนอกสถานที่ทำงาน

ส่วนคำว่า “สภาพแวดล้อมในการทำงานไม่เป็นมิตรนั้น” อาจจะหมายถึง สิ่งที่ทุกคนในที่ทำงานต้องรับผิดชอบต่อการล่วงละเมิดนี้ ตัวอย่างเช่น การข่มขู่ข่มเหงหรือการเป็นปฏิปักษ์ต่อกันในที่ทำงาน และอาจส่งผลให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง ซึ่งการกระทำเหล่านี้พบโดยมากในบริษัทส่วนใหญ่ โดยบุคคลที่เข้าทำงานใหม่ๆมักจะถูกตกเป็นเป้าหมายของการกระทำเหล่านี้
 
2.ตัวอย่างของสภาพแวดล้อมการทำงานที่ไม่เป็นมิตร
 

ภาพจาก https://pixabay.com

ในการล่วงละเมิดสิทธิในการทำงานสามารถเกิดขึ้นได้ที่ บริษัท อาคาร หรือสำนักงานหลายแห่ง โดยผู้คุกคามนั้นอาจจะอยู่ในรูปแบบของเพื่อนร่วมงานหรือหัวหน้างานก็เป็นได้ แต่โดยส่วนมากมักจะเป็นแต่กับเพื่อนร่วมงานกันมากกว่า คุณอาจจะโดนพูดจานินทาว่าร้ายเสียๆหายๆโดยที่ไม่มีมูลความจริง อีกทั้งยังเยาะเย้ย หรือขัดขวางการทำงานของคุณตลอดทั้งวัน จนทำให้คุณรำคาญ เครียด หรือกดดันได้ โดยในการล่วงละเมิดนี้อาจจะเกิดจากการเหยียด เชื้อชาติ สัญชาติ ศาสนา รสนิยมทางเพศ หรืออายุ เป็นต้น

หรืออาจจะแค่ไม่ชอบขี้หน้ากันเฉยๆก็เป็นได้ ในขณะที่คนส่วนใหญ่ดูเหมือนจะคุ้นเคยกันดีกับแนวคิดในเรื่องนี้ ซึ่งยังมีอีกหลายๆกรณีที่ร้ายแรงจนอาจถึงขั้นฆ่าตัวตายก็ได้ ดังนั้นหากคุณเจอสถานที่แบบนี้ คุณควรที่จะหลีกหนีออกไปให้ไกล หรือปรึกษาคนอื่นที่คุณไว้เนื้อเชื่อใจได้ และหาทางรับมือกับสถานการณ์เหล่านี้
 
3.สภาพแวดล้อมการทำงานที่ไม่เป็นมิตรและกฎหมาย
 

ภาพจาก https://pixabay.com

ซึ่งกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสภาพแวดล้อมการทำงานที่เป็นมิตรถูกบังคับใช้โดย คณะกรรมการโอกาสการจ้างงานอย่างเท่าเทียมกัน (EEOC) การล่วงละเมิดจะกลายเป็นเรื่องผิดกฎหมายเมื่อการกระทำใดๆที่ส่งผลกระทบต่อการจ้างงาน (หรือหากมีผลกระทบต่อเงินเดือนหรือสถานะของลูกจ้าง) หรือพฤติกรรมที่ถือว่าไม่เหมาะสม เช่น การทำตัวหยาบคาย การพูดจาดูถูกหรือข่มขู่คู่กรณี เป็นต้น

ซึ่งบุคคลใดก็ตามที่เชื่อว่า สิทธิในการจ้างงานของตนนั้นอาจจะถูกละเมิดในที่ทำงาน คุณก็อาจจะต้องยื่นคำร้องรองต่อการเลือกปฏิบัติคือคำคัดค้านแก่ EEOC โดยค่าใช้จ่ายนั้น จะเรียกเก็บเงินได้จากทางไปรษณีย์และทางโทรศัพท์ ซึ่งคุณจะต้องยื่นคำร้องภายใน 180 วัน นับจากวันที่เกิดเหตุการณ์ขึ้น แต่ทางที่ดีควรจะยื่นเรื่องดำเนินการให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญที่คุณควรจะต้องรู้เอาไว้ แต่ถ้า EEOC นั้นไม่สามารถแก้ปัญหาของคุณได้ภายใน 6 เดือน หรือถ้าคุณรู้สึกว่า กรณีที่เกิดขึ้นต่อเหตุการณ์นั้นของคุณยังไม่ได้รับการจัดการการแก้ไขปัญหาให้ถูกต้องชัดเจน คุณก็ควรที่จะติดต่อทนายความเพื่อหารือเกี่ยวกับความเป็นไปได้อื่นๆ

ซึ่งนายจ้างหรือหัวหน้างานของคุณนั้นจะต้องรับผิดชอบต่อภัยคุกคามที่เกิดขึ้นที่อาจจะเกิดจาก หัวหน้างานหรือเพื่อนร่วมงานของคุณก็ได้ เว้นแต่พวกเขาจะสามารถพิสูจน์ได้ว่า พวกเขาได้ปกป้องคุณอย่างเต็มที่หรือสุดความสามารถแล้ว เว้นแต่คุณจะไม่ยอมหรือปฏิเสธความช่วยเหลือจากเขา หากหัวหน้างานของคุณพิสูจน์ได้ว่า ช่วยปกป้องคุณเต็มที่แล้ว ความรับผิดชอบต่อแผนกหรือบริษัทของหัวหน้างานของคุณนั้นก็อาจจะลดน้อยลงไปด้วยก็ได้
 
4.ขั้นตอนอื่นๆที่จะต้องดำเนินการกันต่อไป
 

ภาพจาก https://pixabay.com

หากคุณไม่ต้องการที่จะยื่นคำร้องหรือติดต่อทนายความเกี่ยวกับสถานการณ์หรือสิ่งที่คุณกำลังเผชิญเหล่านี้ แต่คุณกลับพบสภาพแวดล้อมในการทำงานนั้นเหลืออดเต็มทีแล้ว คุณก็อาจจะต้องพิจารณาถึงทางเลือกอื่นๆ ซึ่งอาจจะเป็นการแก้ไขปัญหาระหว่างคุณกับคู่กรณีของคุณก็เป็นได้

คุณอาจจะลองพูดคุยกับสำนักงานทรัพยากรบุคคลของบริษัทของคุณ เพื่อขอคำปรึกษาหรือคำแนะนำในการพูดคุยและเจรจาระหว่างคุณกับคู่กรณีของคุณ หรืออาจจะจัดตั้งการประชุมหรือการเจรจากันในห้องประชุม เพื่อหาข้อสรุปของเรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้
 
ถ้าหากการที่คุณต้องทนอยู่ในสถานที่ทำงานแบบนี้ต่อไปแล้วคุณรู้สึกว่า มันไม่มีความสุขเลย หรือไม่อยากจะทำงานกับสภาพแวดล้อมแบบนี้อีกต่อไป คุณก็อาจจะลาออกจากงานของคุณไปอย่างไม่เต็มใจก็ได้

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าคุณจะไม่มีความสุขในการทำงานก็ตาม แต่สิ่งสำคัญคือคุณต้องลาออกให้ถูกต้องสมกับเป็นมืออาชีพ ไม่ใช่บอกว่าจะลาออกแล้ววันต่อมาก็ไม่ทำงานอีกเลย คุณไม่มีทางรู้หรอกว่า คำแนะนำหรือใบลาที่อ้างอิงจากหัวหน้าของคุณนั้นจะได้รับการตรวจสอบที่เป็นประโยชน์ โดยที่ไม่ส่งผลกระทบอะไรกับคุณเลยในขณะที่คุณออกจากงานไปแล้ว
 
5.ความเกลียดชังและการสัมภาษณ์งาน
 

ภาพจาก https://pixabay.com

ในบางครั้งการสัมภาษณ์งานก็อาจจะเป็นสภาพแวดล้อมที่ไม่เป็นมิตรต่อการทำงานอีกตัวอย่างหนึ่งก็ได้ ยกตัวอย่างเช่น นายจ้างของคุณอาจจะสัมภาษณ์งานคุณด้วยคำถามที่ไม่เหมาะสมหรือผิดกฎหมาย ซึ่งก่อนการสัมภาษณ์งานนายจ้างคุณควรที่จะถามอะไรคุณก่อนว่า มีคำถามอะไรที่อยากจะถามบ้างเกี่ยวกับการทำงานบ้างไหม

ซึ่งสิ่งเหล่านี้บางทีคุณหรือเขาอาจจะมองเป็นแค่เรื่องเล็กๆน้อยๆ แต่สำหรับใครบางคนนั้นเป็นเรื่องที่ใหญ่มาก เพราะบางคำถามก็ไม่สมควรที่จะหยิบยกขึ้นมาถามผู้สัมภาษณ์งานหากเขาไม่สมัครใจที่จะตอบ และคนที่มาสัมภาษณ์คุณก็ควรที่จะมีจิตฝักใฝ่เป็นกลาง ไม่ใช่ว่าไม่อยากตอบแล้วเลยไม่เลือกคุณ ซึ่งเขาจะต้องถามถึงเหตุผลจากคุณก่อน จากนั้นค่อยไปพิจารณากันอีกทีว่า คุณเหมาะสมกับตำแหน่งงานนี้ไหม
 
บ่อยครั้งที่ได้ยินจากคนรอบตัวว่า “เหนื่อยงานไม่เท่าไหร่ แต่เหนื่อยใจเพราะคนนี่สิท้อ” ซึ่งจากประสบการณ์ของหลายๆคนที่จะลาออกจากงานนั้นเป็นเพราะเหนื่อยคนมากกว่าเหนื่อยงาน ซึ่งมันจะต้องมีคนประเภทนี้อยู่ทุกที่ในสถานที่ทำงาน หรืออาจจะไม่มีเลยก็ได้ แต่นั้นก็เป็นแค่ส่วนน้อย ดังนั้น เราควรที่จะหาวิธีในการอยู่ร่วมกับมันให้ได้และเตรียมพร้อมเพื่อรับมือในกรณีดังกล่าวนี้
 
คุณผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
 
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
 
อ่านบทความอื่นๆ จากไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ www.thaifranchisecenter.com/document
เลือกซื้อแฟรนไชส์ไทยขายดี เปิดร้าน www.thaifranchisecenter.com/directory/index.php
 
ที่มา :
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
615
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
522
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
484
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
445
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
432
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
425
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด